เพราะที่นี่สร้างงานครีเอทีฟในสไตล์ของตัวเอง ด้วยการนำดอกไม้นานาพันธุ์มาบรรจงจัดเป็น ‘ช่อ’ แล้วค่อยนำไป ‘แช่’ กลายเป็นงานศิลปะที่สามารถคงความงามของดอกไม้ได้นานแสนนาน

“เมื่อสองปีก่อนเราอยากทำดอกไม้ในช่วงวาเลนไทน์ แต่ปกติดอกไม้มันสวยแค่วันเดียวแล้วก็เหี่ยว เราอยากให้ความสวยนี้มันอยู่ทนทานกว่านั้น เลยเริ่มศึกษาการทำ Herbarium แบบญี่ปุ่น พอได้ลองทำดูแล้วรู้สึกสนุก เลยชวนเพื่อนอีกสองคนมาทำด้วยกัน” ย้ง – กฤติกา สุขโพธารมณ์ พูดพลางชี้ไปยังเพื่อนอีกสองคนที่ชื่นชอบในงานแฮนด์เมดและจัดดอกไม้เช่นเดียวกัน

เมื่อสามสหายใจตรงกันมาพบกัน ‘มาลีจีรัง’ จึงเปิดตัว

คัดสรรมาลี

แม้ไม่ประสีประสากับการจัดดอกไม้เท่าไหร่นัก แต่ ‘เพราะการลงมือทำจริงคือวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุด’ เราจึงตัดสินใจขอเข้าร่วมคลาสเวิร์กช็อปของมาลีจีรัง ด้วยอยากเข้าถึงความรู้สึกของการที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตที่ไม่เคยทำสักครั้งว่ามันเป็นอย่างไร

และการเวิร์กช็อปของเราวันนี้ก็คงดูไม่น่าหนักใจเท่าไหร่นัก เพราะมี ‘ครู’ คอยสอนและดูแลอยู่ถึงสามคน…

บนโต๊ะเบื้องหน้าเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นดอกสแตติส ดอกอุ้งเท้าจิงโจ้ ดอกเทียนแดง เฟื่องฟ้า ฟอร์เก็ตมีน็อต ใบยูคาลิปตัส…ละลานตาจนเลือกไม่ถูกเลย

“ดอกไม้ที่เลือกมาทำ Herbarium หลักๆ จะแบ่งออกเป็นดอกไม้ไทยและดอกไม้ฝรั่ง โดยสามารถเลือกตามความชอบหรือเลือกตามฤดูกาลของดอกไม้นั้นๆ ก็ได้” บู๋ – กุทัณฑ์ สุทธิพงษ์ชัย เดินเข้ามาอธิบาย และเสริมต่อว่า “หรือจะเป็นดอกไม้ในโอกาสสำคัญที่เราอยากเก็บไว้ เช่น ดอกไม้ที่ได้จากคนพิเศษ แม้กระทั่งดอกแคดตัสที่บานปีละครั้ง ก็สามารถนำมาทำ Herbarium ได้ แค่เราต้องรีบนำมาตั้งแต่ตอนดอกยังสดๆ ยิ่งสดยิ่งดี”

คงเพราะช่วงนี้รู้สึกว่าอยากเติมสีสันให้ชีวิต…เราจึงอยากให้สวนดอกไม้จิ๋วของเราเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ดูแล้วพอจะให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง จึงเลือกหยิบดอกสแตติสสีม่วง ดอกอุ้งเท้าจิงโจ้สีเหลือง และลองหาเศษดอกไม้จากโต๊ะข้างๆ มาจัดวางเทียบดูสักครู่หนึ่ง…ดูๆ ไปก็เข้าท่าดีเหมือนกัน

ซาวน่ามาลี

ก่อนนำดอกไม้มาจัดลงขวด เราต้องทำการอบแห้งดอกไม้ก่อน ขั้นตอนนี้ใช้ ‘ทรายซิลิกา’ ค่อยๆ เทกลบดอกไม้เพื่อดูดความชื้น ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความหนาของกลีบดอกไม้ ดอกไม้กลีบบางใช้เวลาอบประมาณ 2 วัน ถ้าเป็นประเภทกลีบดอกหนาอย่างจำปี จำปา หรือดอกที่มีชั้นกลีบดอกไม้เยอะอย่างชบา กุหลาบ ก็จะใช้เวลาอบนานขึ้นหน่อย

บู๋ให้นักเรียนแต่ละคนลองสัมผัสดอกไม้ที่อบแห้งเสร็จเรียบร้อย กลีบของมันมีลักษณะแห้งกรอบก็จริงแต่ไม่ถึงขั้นเปราะจนหัก ดอกไม้บางชนิดอบแห้งแล้วกลีบดอกจะกรอบและหลุดง่ายกว่าเพื่อน เราจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ใบยูคาลิปตัส ดอกอุ้งเท้าจิงโจ้

พลังที่น่ากลัวกว่าทรายซิลิกาก็เห็นจะเป็นความมือหนักของเรานี่แหละ เรียกได้ว่าต้องใช้ความเบามือค่อยๆ หยิบจับดอกไม้กันพอสมควร…

เสกสรรมาลี

ก่อนลงมือสร้างสวนสวยในขวดใบจิ๋ว เจี๊ยบ – ดารณี ภู่ประสงค์ หนึ่งในสามสหายแห่งมาลีจีรัง ได้กำชับนักเรียนทุกคนว่าควรวาง ‘คอนเซ็ปต์’ เสียก่อนว่าต้องการจัดดอกไม้ให้มี Total look ออกมาประมาณไหน? จากนั้นให้ลองวาง Layout คร่าวๆ เทียบที่ด้านนอกขวด “พยายามหาดอกไม้มาค้ำกัน เลือกขนาดที่พอดีๆ กับขวด เพราะเวลาเทน้ำมันลงไปแล้วดอกไม้บางดอกจะลอยโดดขึ้นมา ไม่เกาะกลุ่มอย่างที่เราตั้งใจไว้” เธอคอยเน้นย้ำกับนักเรียนทุกคน

ขั้นตอนลองจัดด้านนอกผ่านไป ความหนักใจสำหรับคนใจร้อนอย่างเราคือการลำเลียงหมู่มวลแมกไม้ลงขวดนี่แหละ…เพราะความท้าทายของการจัดดอกไม้ในขวดขั้นตอนนี้คือ พื้นที่ขนาดเล็ก แม้หลักการจัดจะเหมือนกันแต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้ต้องใช้อุปกรณ์เข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็นคีม แหนบ ตะเกียบ ไม้เสียบลูกชิ้น…ดูๆ ไปก็เหมือนหมอในซีรีส์เกาหลีอยู่ไม่น้อย

แม้ระหว่างทางด้วยความไม่เบามือของเราจะทำให้กลีบดอกไม้หลุดร่วงไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดตรงกันข้ามเรากลับรู้สึกสนุกเพลิดเพลินไปกับการรังสรรค์สวนจิ๋วนี้ เมื่อจัดเสร็จแล้วนั่งมองผลงานตัวเองอยู่นานสองนานเลยล่ะ

ชุบชีวามาลี

มาถึงขั้นตอนสำคัญสุดท้ายคือการเทน้ำมันที่ต้องอาศัยความใส่ใจมากๆ ต้องค่อยๆ เทให้น้ำมันกลบดอกไม้ที่จัด หากรีบร้อนเทเกินไปตำแหน่งของดอกไม้ที่จัดไว้อาจเคลื่อนได้

น้ำมันที่นำมาใช้คือน้ำมัน Mineral Oil เป็นน้ำมันชนิดเดียวกับที่ใช้ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ มีคุณสมบัติรักษาความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยถนอมสีของดอกไม้ โดยต้องเทให้น้ำมันกลบดอกไม้ที่จัด ปิดฝาให้แน่นสนิทที่สุดเพื่อป้องกันอากาศด้านนอกเข้าไปทำปฏิกิริยากับดอกไม้ในน้ำมัน

หลังทำเสร็จถ่ายรูปอวดเพื่อนเรียบร้อย เราจึงเดินไปดูดอกไม้ในขวดอื่นๆ ที่วางประดับโชว์ไว้รอบห้อง ทำให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไปน้ำมันจะเข้าไปแทรกซึมในกลีบดอกไม้ทำให้สีของดอกไม้ค่อยๆ จางลง…แต่กว่าจะถึงเวลานั้นก็กินเวลาหลายเดือนจนไปถึงแรมปี “พอสีดอกไม้เริ่มจาง มันจะทำให้เรามองเห็นดอกไม้เป็นแบบ See through ซึ่งหลายคนชอบนะ เขาบอกว่ามันก็สวยไปอีกแบบ” เจี๊ยบพูดพลางยิ้ม

‘มาลีจีรัง’ ผู้เป็น ‘ทุกโอกาส’ ให้เธอแล้ว

“บางคนทำไปเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ บางคนนำไปวางตกแต่งห้อง บางคนทำไปบูชาพระหรือไหว้บรรพบุรุษก็มีนะ” บู๋ช่วยไขข้อข้องใจของเราว่าลูกค้าส่วนใหญ่นำมาลีจีรังไปใช้โอกาสไหนบ้าง

เจี๊ยบพูดเซอร์ไพร์สเราต่อ “แม้กระทั่งคลาสเวิร์กช็อปเองก็เคยมีผู้ชายมาเรียนไปทำให้แฟนสาวเหมือนกัน”ส่วนย้งก็มาเสริมต่อว่าถ้ามีขวดซีอิ๊ว, ขวดน้ำปลาในบ้านที่หมดแล้วลองทำ Herbarium ใส่แทนไปก็คงดูเก๋ไม่น้อย

ล่าสุดเห็นมาว่ายังมี ‘มาลีมู’ มูเตลูฉบับดอกไม้ Herbarium เสริมดวงชะตาตามสีมงคลประจำวันเกิด ที่ได้ไอเดียมาจากการที่ลูกค้าสั่งมาลีจีรังไปตั้งโต๊ะทำงานเพื่อเอาเคล็ด…ไม่ลองไม่รู้นะ

“อีกเคสที่จำได้…มีลูกค้าผู้ชายเจ้านึงเขาส่งรูปแฟนมาบอกให้เราช่วยจัดดอกไม้ Herbarium ให้แฟนเขาหน่อย ในรูปเป็นผู้หญิงถ่ายรูปหันหลังในชุดทะมัดทะแมง เราเลยตีความว่าเป็นผู้หญิงเรียบง่าย ไม่เอะอะ เลยจัดเป็นดอกไม้ในคอนเซ็ปต์มินิมอลโทนสีเขียว-ขาวให้ ซึ่งลูกค้าประทับใจ บอกว่าตรงกับบุคลิกแฟนของเขามาก” เจี๊ยบผู้ที่มักจะรับหน้าที่ตีความคิดคอนเซ็ปต์ให้กับลูกค้ามาลีจีรังทิ้งท้าย

คิดออกแล้วหรือยัง…อยากให้มาลีจีรังเป็นของขวัญในโอกาสไหน?