About
Overnight

In Touch with Nature

เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ทที่ทำให้เรากับผืนป่ามีลมหายใจเดียวกัน

เรื่อง เปรมวดี ปานทอง Date 01-02-2021 | View 2661
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ทที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่อายุรุ่นคุณปู่ และธรรมชาติดั้งเดิม บริหารภายใต้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนจนได้รับรางวัล การดำเนินธุรกิจโรงแรมที่นำไปสู่ความยั่งยืน 2019
  • ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของ เขาหลัก เมอร์ลิน ทำให้แขกผู้มาพัก อาจพบเจอสัตว์น้อยใหญ่ที่พากันอพยพมาอาศัยอยู่ โดยเฉพาะลิงลมใต้หรือนางอาย
  • ในอนาคต ที่นี่อาจเป็นห้องเรียนธรรมชาติให้ทุกคนได้รู้จักและเข้าใจความหมายของการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยระหว่างป่า สัตว์ และคน

รื่นรมย์ชมสวนป่า หน้าหาดมีต้นยีราฟคอยต้อนรับ เสียงใบไม้พลิ้วไหวตามลม ผสานเสียงนกขับขาน สารพัดสัตว์ออกมาทักทาย โชคดีหน่อยก็จะเห็นนางอายออกมาโชว์ตัว บรรยากาศเหล่านี้พบเจอได้ที่เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท

ไม่เพียงโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ แต่โรงแรมระดับ 4 ดาวแห่งนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าธุรกิจและการอนุรักษ์ธรรมชาติเดินไปด้วยกันได้เสมอ ภายใต้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมการันตีด้วยรางวัล Travel Life Gold Certified for Accommodation Sustainability 2019 หรือการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่นำไปสู่ความยั่งยืน

ที่นี่…ป่าเป็นใหญ่

Little Forest อาจไม่ใช่คำบรรยายเกินจริงไปหน่อยสำหรับที่นี่ เมื่อประเมินจากสายตาพื้นที่ธรรมชาติกับตัวอาคารถือว่าใกล้เคียงกันมาก ก่อนได้รับคำเฉลยจากคุณแชมป์-ชานน วงศ์สัตยนนท์ ทายาทรุ่นสามของโรงแรมเครือเมอร์ลินว่า 40% เป็นพื้นที่ธรรมชาติ ส่วนที่เหลือคือตัวอาคาร มีห้องพักเพียง 236 ห้องจากพื้นที่ทั้งหมด 30 ไร่ ซึ่งถือว่าไม่คุ้มนักสำหรับธุรกิจโรงแรม แต่นั่นคือความตั้งใจของผู้บริหารรุ่นแรกอย่างคุณวีระ จิรายุส

เขาหลัก เมอร์ลิน

เขาหลัก เมอร์ลิน

“ก่อนสร้างโรงแรม บริเวณนี้เป็นป่าทั้งหมด อาก๋งรู้สึกเสียดายหากต้องปรับสภาพเดิมไปทั้งหมด ท่านบอกว่าเราควรจะอยู่กับธรรมชาติและรักษาต้นไม้ไว้ให้มากที่สุด”

ผู้บริหารรุ่นสาม เล่าถึงแนวคิดตั้งแต่ 17 ปีก่อน ด้วยเหตุนี้การออกแบบจึงถูกตั้งโจทย์ภายใต้ความคิด ‘ป่าเป็นใหญ่’ สร้างห้องพักเลื้อยไปตามต้นไม้และเนินเขา ไม่ระเบิดหินและปรับหน้าดินให้น้อยสุด เพื่อเปิดทางให้ไม้ป่าอย่าง ต้นเทพทาโร หรือทางภาคใต้เรียกว่าต้นจวง (ต้นไม้ประจำจังหวัดพังงา) ต้นตะเคียนทอง ต้นสำโรง ต้นเหรียง ต้นไทร รวมทั้งไม้ป่าอีกนานาชนิดที่กระจายอยู่ทั่ว ไม้ใหญ่ทั้งหมดจึงเป็นต้นไม้ดั้งเดิมที่มีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปี เช่นเดียวกับ ต้นไทรรูปร่างยีราฟ ดาวเด่นประจำบ้าน

คุณแชมป์-ชานน วงศ์สัตยนนท์ ทายาทรุ่นสามของโรงแรมเครือเมอร์ลิน

“อย่างต้นยีราฟ ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนสร้างโรงแรม เกิดจากธรรมชาติจริงๆ เราไม่ได้ไปปรับแต่งอะไรเลยนอกจากการดูแลเท่านั้น หลังผ่านสึนามิมาแบบอยู่รอดปลอดภัย เช่นเดียวกับทุกคนในโรงแรม เพราะการคงสภาพพื้นที่เนินเขาไว้ทำให้คลื่นยักษ์ซัดไม่ถึง” คุณแชมป์ย้ำอย่างภูมิใจ

ต้นยีราฟแม่ลูก เขาหลัก เมอร์ลิน

เมื่อระบบนิเวศดี นางอายก็ปรากฏตัว

ระหว่างเพลิดเพลินกับการเดินชมนกชมไม้และสระน้ำตกที่เป็นความตั้งใจเลียนแบบน้ำตกธรรมชาติ คุณแชมป์พาเรามาหยุดหน้าบ่อมรกต บ่อพักน้ำหลังผ่านการบำบัดน้ำเสีย ที่ถูกวางระบบไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อเอื้อต่อการดูแลต้นไม้และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เขาหลัก เมอร์ลิน

น้ำที่ใช้แล้วจากทุกที่ในโรงแรม จะนำเข้ากระบวนการบำบัดน้ำเสียและนำกลับไปใช้รดน้ำต้นไม้และส่งไปยังคลองไส้ไก่ที่ใช้เลี้ยงปลานิล สร้างระบบนิเวศให้ป่าในโรงแรม ประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและทรัพยากรน้ำได้มากทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อต้นไม้ไม่ขาดน้ำ มีน้ำไหลตามคลอง มีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ สัตว์ก็เข้ามาอยู่ ประกอบกับพื้นที่ข้างๆ เริ่มกลายเป็นโรงแรม เป็นสวนไปหมด สัตว์ก็พากันอพยพเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เขาหลัก เมอร์ลิน

นอกจากนกเอี้ยง ผีเสื้อ แมลงปอ กระรอก กิ้งก่า และตัวเงินตัวทอง ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามแหล่งธรรมชาติแล้ว เรายังได้เจอ นกเขาใหญ่ นกกินเปี้ยว เหยี่ยวแดง กิ้งก่าบินหัวสีฟ้า ค้างคาวแม่ไก่ และไฮไลต์ของงานอย่างลิงลมใต้หรือนางอาย ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองถึง 2 ตัวด้วยกัน นี่ยังไม่รวมที่เราไม่เจออีกนับ 100 ชนิด

“เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้ว่ามีนางอายอาศัยอยู่ด้วย จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อน มีแขกถ่ายรูปมาให้ดูโดยที่คิดว่าเป็นลิง แต่พนักงานดูแล้ว มันคือลิงลม (คำเรียกทางใต้) ส่วนตัวผมเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ที่หน้าโรงแรม เกาะอยู่บนต้นไม้เล็กๆ อีกฟากหนึ่งที่เมื่อก่อนเป็นป่า แต่ตอนนี้เป็นสวนปาล์ม เหมือนเขาไม่มีที่จะไป จึงเกิดเป็นความคิดขึงเชือกให้เขาไต่เข้ามาในโรงแรม เพราะถ้าข้ามมาด้านล่างก็เสี่ยงอันตรายโดนหมาหรือแมวทำร้ายได้”

เขาหลัก เมอร์ลิน

จึงไม่น่าแปลกใจที่ภายในโรงแรม มีเชือกเส้นใหญ่ขึงระหว่างต้นไม้อยู่หลายเส้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับนางอายหากลงมาด้านล่างนี่เอง!

ความร่วมมือกับ Big Trees & Love Wild Life

ถึงตอนนี้การบริหารก้าวมาถึงรุ่นที่ 3 คุณแชมป์บอกว่ายังคงยืนหยัดในแนวทางรักษ์ธรรมชาติเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือการดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะอย่าง Big Trees และ Love Wild Life (มูลนิธิรักสัตว์ป่า) เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เพื่อการอนุรักษ์ให้ดีที่สุด

“เราไม่เคยคาดหวังจะเป็นโรงแรมที่มีสัตว์เข้ามาอาศัยอยู่เยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติเขาจึงมาอาศัยและอยากอนุรักษ์ไว้ แต่เราเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักวิชาการ จึงอยากให้คนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญจริงๆ เข้ามาช่วยตรงนี้เพื่อเป็นผลดีทั้งกับต้นไม้ สัตว์และนักท่องเที่ยว”

นั่นเพราะพวกเขาเคยผิดพลาดอย่างน่าเสียดายมากมาแล้ว ด้วยความเข้าใจไม่ถูกต้อง จนทำให้ต้นยีราฟต้นเล็กคอหักในช่วงมรสุม หลังจากไปตัดรากที่ถูกปล่อยลงมาทิ้งเพื่อความสวยงาม ก่อนจะมารู้ภายหลังจาก Big Trees ว่าการเอารากลงมาของต้นไทรนั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าต้นไม่ค่อยมั่นคงแล้ว “คิดแล้วก็น่าเสียดายมาก ไม่อย่างนั้นต้นยีราฟแม่ลูกจะสวยกว่านี้อีก”

เขาหลัก เมอร์ลิน

นอกจากให้ความรู้กับพนักงานแล้ว หมอต้นไม้จะเข้ามาตรวจสุขภาพต้นไม้ที่หากเปรียบเป็นคนก็คงเข้าวัยชราแล้ว หากต้นไหนสุขภาพไม่ค่อยดีก็จะมาช่วยดูแลรักษา หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้างในเป็นเชื้อราหมดแล้ว ก็จะช่วยมาตัดอย่างปลอดภัย และมีการปลูกทดแทนเสมอ เช่นเดียวกับมูลนิธิรักสัตว์ป่า ที่จะเข้ามาสำรวจและช่วยเป็นโค้ชเพื่อการอนุรักษ์ให้เป็นพื้นที่สัตว์ป่าอาศัยไปได้ตลอด

เขาหลัก เมอร์ลิน

“การสำรวจของ Love Wild Life พบว่ามีสัตว์อยู่ถึง 130 ชนิดในโรงแรม ตอนแรกที่ติดต่อไปให้เขามาสำรวจนางอาย เขาก็ไม่ค่อยเชื่อว่ามีจริง แต่เมื่อมาก็เจอจริงๆ จนกลายเป็นที่ศึกษาพฤติกรรมนางอาย สังเกตได้จากใบบันทึกที่ติดตามต้นไม้ที่เจอตัว”

รีสอร์ทแห่งความยั่งยืน

หากสังเกตเห็นแผ่นสีเขียวที่มีรูปสัตว์แต่ละชนิดตั้งอยู่ข้างทางเดิน นั่นคือแผ่นป้ายที่ทางโรงแรมร่วมมือกับทางมูลนิธิรักสัตว์ป่าทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆที่พบได้ในบริเวณนั้น เพื่อได้เรียนรู้ธรรมชาติไปด้วย พร้อมมีกิจกรรม Khaolak Merlin Explorer ให้สำรวจสัตว์ตามจุดต่างๆ ซึ่งหากใครทำได้ครบตามที่กำหนดก็จะได้ประกาศนียบัตรกลับไปด้วย เพิ่มความสนุกให้กับแขกที่มาพักอีกรูปแบบ

เขาหลัก เมอร์ลิน

“อนาคตเราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนห้องเรียนธรรมชาติ เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้รู้จักและเข้าใจว่าป่า สัตว์ และคนอยู่กันได้แบบพึ่งพาอาศัยกัน เคารพกันและกัน จริงๆ ตอนนี้ก็กำลังคุยกันเรื่องการจัดกิจกรรมให้เด็กๆเข้ามาศึกษาเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่า ต้นไม้ รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับธรรมชาติและความยั่งยืน”

เขาหลัก เมอร์ลิน

ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง เชื่อมั่นมาตลอดว่า ธุรกิจและความยั่งยืน มันเดินไปด้วยกันได้ แถมยังเอื้อกันด้วยซ้ำ เห็นได้จากยอดการเข้าพักช่วงก่อนโควิด ที่มีแขกยุโรปมาพักมากกว่า 90% ในช่วงไฮซีซั่น และไม่ใช่ช่วงเวลาสั้น 1-2 เดือน แต่เป็น 5-6 เดือน ที่สำคัญแขกส่วนใหญ่เป็นแขกที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ

“เหตุผลที่เขาอยากกลับมาเพราะมีธรรมชาติสมบูรณ์ กลายเป็นว่าการอนุรักษ์ของเราตั้งแต่ต้น กลับมาช่วยด้านธุรกิจของเราด้วย เลยไม่คิดว่าต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันอยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว”

การจัดการแยกขยะ เขาหลัก เมอร์ลิน

การจัดการแยกขยะ ลดการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็น นำเศษอาหารใบไม้ในโรงแรมมาทำปุ๋ยหมักใช้ มีโรงเรือนอนุบาลต้นไม้เพื่อปลูกทดแทนส่วนที่ล้มไปและเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากยิ่งขึ้น ยังตอกย้ำถึงความใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี จะห่วงก็แต่ปริมาณน้ำที่ต้องใช้รดต้นไม้ในช่วงนี้ เพราะด้วยสถานการณ์โควิด 19 ทำให้มีแขกเข้าพักน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำใช้แล้วที่จะนำไปบำบัดน้ำเสียเพื่อกลับมาใช้ใหม่น้อยตามไปด้วย


การมาเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ อาจไม่ใช่เพียงเพื่อมอบความสุขให้ตัวเอง แต่ยังหมายรวมถึงการได้ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ เข้าใจต้นไม้ใบหญ้า เรียนรู้สิงสาราสัตว์ และรู้ว่าธรรมชาติจะยั่งยืนได้นั้น เราต้องไม่ทำร้ายกัน…

ขอบคุณภาพสัตว์ Love Wildlife Foundation

Tags: