- ชวนไปทำความรู้จักกับ KRISP Café ร้านขายครัวซองต์ที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ แต่ยังเป็นแกลเลอรีศิลปะที่มีนิทรรศการดีๆ ให้ชมคล้ายๆ กับ Art Space ในต่างประเทศ
- KRISP Café แตกต่างจากคาเฟ่อื่นๆ ตรงที่เป็นคาเฟ่ที่มีกลิ่นอายของการตกแต่งยุค Mid-Century หรือยุค 70 ในขณะที่คาเฟ่ส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ มักตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นตามสมัยนิยม
- ที่นี่ไม่เพียงแต่มีครัวซองต์อร่อย แต่ยังรวบรวมขนมอบฝรั่งเศสอีกหลายชนิด มีกาแฟรสเยี่ยม ซึ่งผ่านการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดของแต่ละที่ เพื่อสร้างมาตรฐานของการเป็นคาเฟ่ระดับ Top Quality ทัดเทียมกับร้านดังๆ ในฝรั่งเศส
แม้โควิด-19 เป็นสิ่งท้าทายของการทำคาเฟ่ในยุคนี้ แต่เชื่อไหมว่า KRISP Café ร้านครัวซองต์ที่เปิดใหม่ท่ามกลางโควิดระลอก 3 กลับสร้างความเซอร์ไพรส์ ด้วยจำนวนลูกค้าที่แน่นร้านเกือบทุกวัน ที่น่าสนใจกว่านั้น เป็นคาเฟ่ที่รีโนเวทบ้านเก่าในยุค 70 มิใช่คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นตามสมัยนิยมในเมืองเชียงใหม่
คืนชีวิตให้บ้านเก่าแต่แอบเก๋
เพียงมองผาดแรก เราไม่ได้คิดว่าที่นี่คือร้านขนม ถ้าไม่เห็นป้ายร้าน KRISP Café ก็อาจเข้าใจว่าเป็นบ้านพักอาศัยเสียมากกว่า จากสถาปัตยกรรมของบ้านบ่งบอกได้ถึงความเป็นบ้านเก่า ด้วยเส้นสายลายกราฟิกของกระเบื้อง มีซุ้มโค้ง และบันไดวนแบบโบราณ ตามประวัติเดิม บ้านหลังนี้ถูกปล่อยทิ้งร้างมานานหลายปี จนเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นบุตรสาวของพ่อเลี้ยงอี๊ด-อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ อดีตนายก อบจ. เชียงใหม่ สอบถามมายัง คุณจ้ำ-ณริสสร สมสวัสดิ์ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง ถึงความสนใจในการนำบ้านไปรีโนเวทเป็นร้านอาหาร
คุณจ้ำ หนึ่งในหุ้นส่วนหลักชอง KRISP Café เป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำร้านอาหารมานานกว่า 20 ปี และเป็นเจ้าของร้านอาหาร MIX Restaurant & Bar ในเชียงใหม่ มองเห็นถึงโครงสร้างที่ยังแข็งแรงและดูคลาสสิก แม้สภาพภายนอกจะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เนื่องจากเป็นบ้านที่สร้างขึ้นในปี 1975 หรือตรงกับยุคที่เรียกว่า Mid-Century
เขาตัดสินใจนำบ้านที่มีอายุเกือบ 50 ปีมารีโนเวทใหม่ โดยให้ทีมนักออกแบบจาก ALSO Design Studio เข้ามาปรับฟังก์ชั่นของพื้นที่ภายใน โดยยังคงโครงสร้างเดิมของบ้านเก่าเอาไว้ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำ ซึ่งไม่ได้ถูกทุบทิ้ง เพียงแค่ปรับให้เป็นโซนนั่งเล่นกลางแจ้ง ส่วนโทนสีของร้าน เน้นความอบอุ่นละมุนละไม ด้วยสีเอิร์ธโทน ฟ้า น้ำเงินทะเล สีของไม้และหิน
เป็นมากกว่าร้านครัวซองต์
KRISP Café เปิดให้บริการช่วงที่มีการระบาดของโควิดระลอก 3 ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ที่ท้าทายกว่านั้น คือ การแข่งขันของจำนวนคาเฟ่ในเชียงใหม่ ซึ่งมีมากมายเป็นดอกเห็ด จนแทบจะเลือกเดินเข้าร้านได้ไม่ซ้ำวัน ผู้บริหารหนุ่มผู้รักการเดินทาง และเป็นนักกินตัวยง จึงปิ๊งไอเดียว่า หากจะปั้น KRISP Café ให้เป็น Baked House หรือเป็นร้านที่ขายครัวซองต์เพียงอย่างเดียวนั้น ก็อาจดึงดูดลูกค้าได้แค่เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ คอนเซ็ปต์ของที่นี่จึงกลายมาเป็น Baked House ที่มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และแกลเลอรีศิลปะในพื้นที่เดียวกัน
“ถ้ามองเป็น art space หรือ art museum แบบในต่างประเทศ ในบ้านเราไม่ค่อยเห็น มีแต่น้อยมาก และถ้าเป็น art gallery หรือ art museum อย่างเดียว คนรุ่นใหม่ก็มักไม่ให้ความสนใจ เราก็เลยทำเป็นคาเฟ่กึ่งแกลเลอรี เพื่อให้ไม่รู้สึกแปลกแยกกันเกินไป และยังกลายเป็นจุดเด่นให้คนมาถ่ายรูปกับงานของศิลปินอีกด้วย” คุณจ้ำเล่าถึงที่มา ส่วนตัวเขาเองนั้น ยังเป็นนักสะสมงานศิลปะและเป็นผู้คัดเลือกชิ้นงานศิลปะ ที่จะนำมาจัดแสดงภายในแกลเลอรีอีกด้วย
สำหรับนิทรรศการศิลปะชุดแรก ที่จัดแสดงภายในแกลเลอรี เป็นงานศิลปะแนว Abstract ของ สิงห์ทอง ภัทรากร ศิลปินชาวลำพูน ชื่อชุดผลงานว่า “เมื่อเธอถูกกักขัง 7 วัน ใจฉันก็ขาดอิสรภาพไป 7 วัน และเมื่อเธอเป็นอิสระ ใจฉันก็เป็นอิสระเช่นกัน” โดยศิลปินสร้างสรรค์ชิ้นงานในซีรีย์นี้เพื่อร้าน KRISP Café โดยเฉพาะ และจำหน่ายให้กับผู้สนใจ
หอมละมุน กรุ่นกลิ่นครัวซองต์
ระหว่างที่เพลิดเพลินเดินชมงานศิลปะทั่วแกลเลอรี คุณอาจได้กลิ่นหอมกรุ่นของครัวซองต์ ที่ลอยมากระทบกับจมูกอยู่เป็นระยะๆ ครัวซองต์ที่นี่ทำสดใหม่ทุกเช้า เชฟศรุตาและทีม Baker จะเริ่มทำงานกันตั้งแต่ตีสามของทุกวัน เพื่อพรูฟแป้งและอบครัวซองต์ในตอนเช้า ไม่มีการพรูฟแป้งค้างคืนและแช่ฟรีซทิ้งไว้ เพราะต้องการให้ได้ครัวซองต์ที่ดีที่สุด ทั้งลวดลายที่สวยงามบนผิวขนมและรสชาติสดใหม่
ภายใน Baked House ที่ใช้อบขนม เป็นการปรับพื้นที่จากเดิมที่เคยเป็นโรงจอดรถของบ้าน แต่ตอนนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของวัตถุดิบทำขนมและอุปกรณ์ครัวอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ของพรีเมียมและเป็น Top Quality ที่นำเข้าจากประเทศต้นกำเนิด เนื่องจากทางเจ้าของร้านต้องการให้ขนมอบของ KRISP Café ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับร้านครัวซองต์ดีๆ ในฝรั่งเศส ดังนั้น แป้งทำครัวซองต์ จึงใช้แป้งของฝรั่งเศส T55 และ T45 (ตัวเลขหลัง คือ ค่า ash หรือค่าที่เหลือจากการเผาไหม้ของแป้ง) เนยยี่ห้อ Lescure ของฝรั่งเศส เป็นเนยที่ใช้ทำครัวซองต์โดยเฉพาะ
ด้านเชฟศรุตา ผู้ทำขนมอบของร้าน เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ในการทำขนมมายาวนานกว่า 14 ปี ปัจจุบันยังเป็นเจ้าของร้าน Saruta Finest Pastry ย่านนิมมานเหมินท์ เธอผ่านการเรียนรู้เทคนิคทำขนมระดับสูงจากเชฟระดับโลกมาแล้วหลายคน เช่น Cedric Grolet เชฟขนมหวานอันดับ 1 ของโลกในปี 2017-2018 (World Best Pastry Chef) และ Bedros Kabranian เชฟขนมอบอันดับ 2 ของโลกปี 2019 (World Baker of the Year) เป็นต้น
ไม่เพียงแต่คุณภาพที่คับแน่น ขนาดของครัวซองต์ที่นี่ ยังมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ด้วยน้ำหนักต่อชิ้นอยู่ที่ 80-90 กรัม ในขณะที่ร้านทั่วไปจะมีน้ำหนักประมาณ 60 กรัมต่อชิ้น คุณจ้ำอธิบายถึงราคาครัวซองต์ ที่แพงกว่าร้านอื่นๆ ไว้ว่า
“ครัวซองต์ของเรา มีมิติของความเป็น pastry ผสมผสานกับความเป็นยูโรเปียนคูซีน เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดว่าครัวซองต์ที่อื่นราคาหลักสิบบาท ทำไมที่นี่ร้อยกว่าบาท เพราะสิ่งที่ได้ มันมากกว่านั้นเยอะ”
กาแฟก็ว่าดี…ไม่แพ้ขนมอบ
นอกเหนือจากครัวซองต์ที่เป็นพระเอกของร้าน KRISP Café ยังมีขนมอบฝรั่งเศสอีกหลากหลายชนิด ที่อร่อยไม่น้อยหน้า อาทิ Madeleine (ขนมไข่ฝรั่งเศส) Canele (กาเนอเล่) และ Financier (ขนมฟินองเซีย หรือเค้กอัลมอนด์สไตล์ฝรั่งเศส) โดยสูตรของทางร้าน ใช้แป้ง 10% ที่เหลือเป็น almond powder 90%
นอกจากนี้ ยังมีวิธีเพิ่มความหอมด้วยการนำเนยที่ดีที่สุดมาทำเป็น “บราวน์บัตเตอร์” หรือการนำเนยมาต้มไฟอ่อนๆ จนเกือบไหม้ ใส่ลงไปในส่วนผสมของขนม เทคนิคนี้จะช่วยให้ขนมอบมีกลิ่นหอมยวนใจมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของเครื่องดื่ม เป็นอีกสิ่งที่ทางร้านให้ความสำคัญ โดยเฉพาะกาแฟ ได้พาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการกาแฟมานานกว่า 18 ปี และเป็นเจ้าของบริษัท All About Coffee เพื่อลบคำครหาที่ว่า “ร้านครัวซองต์ที่อร่อย อย่าไปคาดหวังกับรสชาติของกาแฟ”
สำหรับเมล็ดกาแฟของร้านมาจากจังหวัดน่านและ อ.กัลยานิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ และตอนนี้อยู่ระหว่างการสั่งเครื่องชงกาแฟที่ราคาเฉียดล้านเข้ามาใช้ เพราะสามารถสกัดรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับใครที่ไม่ใช่คอกาแฟ ทางร้านมีเครื่องดื่มชุ่มคอให้เลือกสรรมากมาย อาทิ Lemon Yuzu Soda ซึ่งใช้ Yuzu นำเข้าจากญี่ปุ่น รวมไปถึงน้ำพีช ที่ใช้พีชสกัดจากญี่ปุ่น 100% ส่วนผสมทุกอย่างไม่มีการปรุงแต่งโดยใช้สีผสมอาหารหรือกลิ่นสังเคราะห์ แต่มาจากตัวของวัตถุดิบล้วนๆ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูอาหารสไตล์ยุโรปเกือบ 30 รายการ สำหรับลูกค้าที่อยากกินมื้อหนัก ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าที่ปรุงด้วยพาสต้าเส้นสด สเต็ก หรือสลัด ฯลฯ
เพราะความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหลังเปิดร้านได้ไม่นาน KRISP Café จึงกลายเป็นคาเฟ่ที่มีคนแน่นร้านทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ สำหรับคนที่อยู่ไกล แต่อยากชิมครัวซองต์ดีๆ ฝีมือคนไทย ทางร้านมีบริการส่งครัวซองต์โดยรถห้องเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ
KRISP Café
ถ.ศิรินธร ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (มีลานจอดรถตรงข้ามร้าน สามารถรองรับได้ 50 คัน)
เปิดทุกวัน 08.00-22.00 น.
โทร. 063-525-4245
Facebook :KRISP Café
Instagram : krisp.cafe