About
RESOUND

Leave The Legacy

จากส้มตำที่บ้านสู่ลาบจิงโจ้ของ แนท นาตาลี แชมป์ MasterChef Australia ในวันที่ยอมรับในรากเหง้าของตัวเอง

เรื่อง พัทธนันท์ สวนมะลิ Date 13-08-2024 | View 1534
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • แนท-นาตาลี ไทยพัน เด็กไทยที่เติบโตในเมลเบิร์น ผู้ชนะเลิศรายการ MasterChef Australia ผู้เชื่อในพลังของอาหารว่าใน 1 จานมีมากกว่า 1 เรื่องราว และเชื่อในการบันทึกความทรงจำผ่านรอยสัก

โดยปกติแล้วการดูรายการ MasterChef สำหรับผม คือการมาลุ้นผ่านหน้าจอว่าวันนี้ใครจะต้องคืนผ้ากันเปื้อนและกลับบ้านไป หรือบางครั้งอาจมาดูว่าความน่ากลัวของเหล่ากรรมการที่ไม่มีทีท่าว่าจะเผ็ดแสบน้อยลงเลยแม้แต่ซีซันเดียว ยกเว้น MasterChef Junior ไว้รายการหนึ่ง

กลับกัน แนท-นาตาลี ไทยพัน ทำให้ผมอยากรู้ในทุกๆ ตอนว่า เธอจะนำเสนออาหารไทยในเวที MasterChef Australia ออกมาอย่างไรบ้าง เพราะแค่จานแรกก็เสิร์ฟ ‘ลาบจิงโจ้’ ให้ได้ตื่นตากันไปข้าง แต่ทุกอย่างกลับน่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก เมื่อเธอสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้! พร้อมไปรับหน้าที่เชฟประจำร้านอาหาร Alumni ในโรงแรม Crown Melbourne เป็นระยะเวลา 3 เดือน

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ที่ทรูได้ชวน ONCE มาคุยกับแนท จึงค่อนข้างลุ้นเหลือเกินว่า เธอจะว่างหรือเปล่านะ ซึ่งคำตอบที่ได้รับกลับมาก็น่าชื่นใจสำหรับกองบรรณาธิการ ส่วนแนทเองก็ยอมรับว่ายังไม่ค่อยชินกับชีวิตที่ต้องคอยให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ สักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นเธอก็ตอบทุกคำถามอย่างเป็นตัวเอง

เราได้รู้อะไรบ้างจากการสัมภาษณ์ครั้งนี้

หนึ่ง เธอเชื่อว่าอาหารมีความสามารถในการเชื่อมโยงผู้คน และนำวัฒนธรรมที่หลากหลายเหล่านั้นมารวมกันอยู่ในจานจานเดียว

สอง เธอเชื่อว่าครอบครัวและการเดินทางคือสิ่งที่ทำให้เธอเชื่อในความสามารถของอาหาร

สาม เธอเชื่อว่ารอยสักคือเครื่องบ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ของคนคนหนึ่ง ไม่มีใครควรถูกตัดสินฝีมือการทำงานจากรอยสักของพวกเขา

และท้ายที่สุด อาจสำคัญเมื่อแนทมาเยือนประเทศไทย เธอชอบกินส้มตำ

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

First Dish

ตำแหน่ง MasterChef Australia ที่ได้มาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปยังไงบ้าง

โอ้โห มันบ้ามากเลยค่ะ! เราไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้เข้าแข่ง MasterChef ไม่ต้องพูดถึงการชนะเลย! ตอนนี้ชีวิตกลายเป็นวงจรของการให้สัมภาษณ์ งานอีเวนต์ และโอกาสใหม่ๆ มากมาย รู้สึกเหมือนฝันไปเลยที่มีคนรู้จักเราทั่วโลก แล้วก็มีคนจำได้ทุกที่ที่ไปด้วย ยังไม่ชินเลย (หัวเราะ) แต่นี่ก็ถือเป็นไฮไลต์ของชีวิตจริงๆ นะ ทำให้เราได้เข้าใกล้ความฝันในการปฏิวัติวงการอาหารมากขึ้น

แนท นาตาลี

แปลว่าคุณมาสมัครรายการ MasterChef เพราะอยากปฏิวัติวงการอาหารงั้นเหรอ

พูดแบบไม่อายเลยก็คือ เพื่อนจากนิวซีแลนด์ส่งลิงก์มาให้ลองสมัครดู (หัวเราะ) เพราะเพื่อนรู้ว่าเราชอบทำอาหารให้คนอื่นลองชิม ชอบจัดงานเลี้ยงอาหารเย็น งานคลับอาหาร และงานปาร์ตี้ Potluck

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

พอเข้ามาแข่งขันแล้ว แนวคิดในการนำเสนออาหารจานต่างๆ ของคุณคืออะไร มีสิ่งไหนที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษไหม

การทำอาหารสำหรับเรา คือ การแสดงออกถึงความรัก ความคิดสร้างสรรค์ และความอดทน มันเป็นวิธีการเล่าเรื่องอย่างหนึ่ง เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และเคารพมรดก เราเลยเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า อาหารมีความสามารถทางสากลในการเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับรากเหง้าของพวกเขา และนำวัฒนธรรมที่หลากหลายเหล่านั้นมารวมกัน

การเดินทางของเราใน MasterChef Australia เลยเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งมาก มันผลักดันให้เราได้สำรวจตัวตน ยอมรับรากเหง้าของตัวเอง และนำเสนอผ่านเมนูอาหาร แถมยังช่วยให้เราตระหนักถึงพลังในการเชื่อมโยงของอาหาร

การจัดจานก็เป็นอีกหนึ่งศิลปะที่เพิ่มระดับความน่ากินของอาหารแต่ละจาน เราเชื่อว่าอาหารควรดูน่ากินเท่าเทียมกับรสชาติที่อร่อย

วิธีการจัดจานของเรามักได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและความเรียบง่าย เน้นที่สีสัน เนื้อสัมผัส และรูปทรง เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละองค์ประกอบบนจานจะเล่าเรื่องราว ยกระดับ และเพิ่มประสบการณ์การรับประทานอาหาร ทำให้น่าจดจำและสนุกสนานมากขึ้น

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

ตลอดการแข่งขัน มีเมนูที่ประทับใจเป็นพิเศษไหม

น่าจะเป็นจานแรกของซีซันนะ ลาบจิงโจ้กับข้าวตัง หรือไม่ก็ไส้อั่วสก็อตช์เอ้กในรอบชิงชนะเลิศ มันผสมผสานรสชาติไทยกับเทคนิคยุโรปได้อย่างลงตัว

แต่อย่างหนึ่งของเหล่าคู่แข่งที่ทำให้เรารู้สึกอิจฉา คือความสามารถในการใช้เทคนิคแบบยุโรป หรือความสามารถในการนำวัตถุดิบที่ปกติใช้ทำอาหารคาวมาทำของหวาน

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

มีความรู้สึกอิจฉาไปแล้ว ความรู้สึกกดดันล่ะ ระหว่างทางหนักมากไหม

การแข่ง MasterChef มันหนักหนาสาหัสมากจริงๆ ค่ะ แต่พูดแล้วอาจจะแปลกนะ เรารู้สึกว่าทุกความยากลำบากที่เคยเจอมาในชีวิต เหมือนเป็นการเตรียมตัวให้เราพร้อมสำหรับจุดนี้

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

มีทริกสำหรับการจัดการความรู้สึกตัวเองไหม

ระหว่างแข่ง เราจัดการตัวเองด้วยการโฟกัสที่ความสุขในการทำอาหาร และความรักในสิ่งที่ทำ ออกไปวิ่ง เขียน วาด ฟังเพลง แล้วก็เต้นนิดหน่อยในอะพาร์ตเมนต์ เรามักจะเตือนตัวเองว่าทำไมถึงรักการทำอาหาร และทำไมมันถึงเป็นที่หลบภัยของเราเวลาชีวิตมันยากเกินไป เรามักจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในครัวเป็นวิธีผัดผ่อนงาน ถ้าไม่ได้ทำอาหาร ก็จะเขียนและสร้างเมนูในฝัน ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นก็วาดรูปเมนูในฝันแทน

การนึกถึงความทรงจำวัยเด็ก ความเชื่อมโยงกับรากเหง้า และรสชาติที่เป็นแรงบันดาลใจ ก็ช่วยให้มีสติในช่วงที่เครียดๆ ด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ยิ่งเปิดใจตอนเข้าครัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนุกมากขึ้นเท่านั้น และอาหารก็มักจะออกมาดีด้วย

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

Second Dish

การเป็นเด็กไทยที่เติบโตในออสเตรเลียมีอิทธิพลต่อการรังสรรค์อาหารยังไงบ้าง

การเติบโตในออสเตรเลียกับพ่อแม่ที่เป็นคนไทย ให้มุมมองการทำอาหารที่ไม่เหมือนใครจริงๆ เราจำได้ว่าแม่นว่า แต่ละวันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สนุก ความสดใส และอาหารที่หลากหลาย เชื้อสายความเป็นคนไทยในตัวเราเป็นพื้นฐานสำคัญในเส้นทางอาชีพเชฟ พ่อกับแม่ได้ปลูกฝังเรื่องของการทำอาหาร รวมถึงประเพณีที่หลากหลายให้กับเรา การเติบโตมากับวัฒนธรรมที่แตกต่างได้สร้างสไตล์การทำอาหารให้เราโดยอัตโนมัติ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูอาหารแบบฟิวชัน ทำให้เราสามารถผสมผสานรสชาติไทยในแบบที่ยังคงเคารพรากเหง้าของตนเองเข้ากับเทคนิคตะวันตกที่เป็นอิทธิพลรอบๆ ตัวได้อย่างกลมกลืน

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก คุณมีความทรงจำต่ออาหารจานไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า

อาหารในวัยเด็กที่ชอบที่สุดคือลาบ หรือไม่ก็ส้มตำ ชอบกินกับข้าวเหนียว ผักสดเยอะๆ กะหล่ำปลีสด ถั่วฝักยาว สมุนไพรสด แน่นอนว่าต้องเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อย่างหลากหลายชนิด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ป่า

แนท นาตาลี

คนในครัวล่ะ คุณแม่และคุณยายมีความสำคัญกับคุณขนาดไหน

สิ่งที่เราเรียนรู้จากแม่และยายคือ อาหารไม่ใช่แค่เชื้อเพลิงสำหรับร่างกาย แต่เป็นรูปแบบของการดูแลเอาใจใส่ เป็นภาษาแห่งความรักที่บางครั้งอาจจะยากที่จะแสดงออกเป็นคำพูด มันไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติโดยรวม แต่เป็นการทำให้ดีที่สุดจากสิ่งที่มี และสามารถทำอะไรที่น่าทึ่งได้จากสิ่งเหล่านั้น

ตอนเด็กๆ เราไม่ได้ถูกสอนมารยาทไทยอย่างเป็นทางการ แต่เราได้เรียนรู้วิธีการกินด้วยกัน แบ่งปันอาหารพร้อมกับเล่าเรื่องราว พ่อเก่งมากในการเชื่อมโยงอาหารเข้ากับเรื่องราวจากทุกที่ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับวัยเด็กและชีวิตของเขา

แนท นาตาลี

ถ้าตอนนี้สามารถพูดกับคุณยายได้ อยากจะบอกอะไรท่าน

ไม่ต้องกังวลนะคะ อาหารที่ยายเคยชอบกินจะไม่มีวันถูกลืม วิธีที่ยายเรียนรู้มาจากครอบครัวจะยังคงอยู่ หนูจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราวและการเชื่อมโยงผ่านอาหารเหล่านี้จะยังคงมีชีวิตต่อไป และไม่ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา หนูจะรับหน้าที่นี้ ร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้เห็นและได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เราเป็นคนไทย และทำให้อาหารไทยเป็นอาหารไทยจริงๆ

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

Third Dish

เรารู้มาว่าในปี 2016 คุณออกเดินทางจากออสเตรเลียไปยังประเทศต่างๆ (สวิตเซอร์แลนด์, ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์) เล่าถึงช่วงเวลาเหล่านั้นให้ฟังหน่อยได้ไหม

การใช้ชีวิตในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเมืองที่มีหิมะ ทำให้หาวัตถุดิบเอเชียที่ปกติจะหาได้ในเมืองใหญ่อย่างเมลเบิร์นยากขึ้น เมื่อหาของเอเชียได้จำกัด เราก็ยิ่งคิดถึงอาหารไทยและอาหารชนิดอื่นมากขึ้น

ตอนอยู่ที่นิวซีแลนด์ เมืองที่เราอาศัยอยู่ (วิกตอเรีย) มีคนหลากหลายเชื้อชาติและหลายวัยที่คิดถึงอาหารที่พวกเขาโตมากับมัน จะยิ่งเห็นชัดเจนมากในช่วงโควิด โชคดีที่ในนิวซีแลนด์ไม่มีการล็อกดาวน์จริงจัง แถมยังออกไปเล่นสโนว์บอร์ดได้อีกต่างหาก! แต่ทุกคนก็เริ่มคิดถึงครอบครัวและความอบอุ่นจากมื้ออาหารที่บ้าน เราเลยเริ่มรับทำอาหารตามคำขอของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าสไตล์อังกฤษ อาหารค่ำวันอาทิตย์ หรืออาหารไทยที่เราเองก็เติบโตมากับมัน

การเดินทางรอบโลกเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราหลงรักความเชื่อมโยงของอาหารกับเรื่องราวและวัฒนธรรม เริ่มมองวัตถุดิบเป็นโปรไฟล์รสชาติที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์อาหารไทยหรืออาหารชนิดใดก็ได้ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นและผลผลิตตามฤดูกาล

แนท นาตาลี

แนท นาตาลี

การเดินทางเหล่านั้นให้อะไรคุณบ้าง

การเดินทางช่วยเพิ่มพูนรสนิยมและมุมมองของเราจริงๆ นะ การได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารที่แตกต่างเป็นเรื่องที่เปิดหูเปิดตามาก ทำให้เราเข้าอกเข้าใจคนอื่นมากขึ้น เข้าใจโลกได้ดีขึ้น และทำให้ตระหนักถึงความเรียบง่ายของการแบ่งปันอาหารกับใครสักคน รวมถึงพลังของอาหารที่สามารถเล่าเรื่องราวที่หล่อหลอมวัฒนธรรมให้ออกมาเป็นอย่างทุกวันนี้

เราวางแผนจะไปเยือนเมืองไทยเร็วๆ นี้แน่นอน และอยากร่วมงานกับเชฟท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์อะไรพิเศษๆ ด้วย

แนท นาตาลี

Fourth Dish

รอยสักแรกบนร่างกายคุณได้มาจากการท่องเที่ยวหรือเปล่า

รอยสักแรกเป็นภาพเขาแบบง่ายๆ ที่เราใช้เวลาอยู่ที่นั่น 1 ปีโดยไม่มีมือถือ แล็ปท็อป หรือการติดต่อกับโลกภายนอก เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งสำหรับเรา เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้จะผ่านความยากลำบาก ชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป และเราสามารถเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

แปลว่าทุกรอยสักมีความหมายในตัวของมัน

รอยสักแต่ละอันมีเรื่องราว แม้แต่รอยสักง่ายๆ อย่าง ‘For Now’ ที่อยู่บนฝ่ามือขวา เราอยากสื่อถึงธรรมชาติที่ไม่จีรังของชีวิตและประสบการณ์ ทุกอันเป็นเครื่องเตือนใจถึงประสบการณ์ทั้งหมดที่เราผ่านมาในชีวิต ตอบไม่ได้เลยว่าชอบอันไหนมากที่สุด

แนท นาตาลี

มีแผนจะสักเพิ่มเร็วๆ นี้ไหม

ว่าจะสักเพิ่มอีกไม่กี่อันเร็วๆ นี้แน่นอน จริงๆ เราไม่ได้วางแผนรอยสักของตัวเอง แต่มักจะสักหลังจากที่บทหนึ่งในชีวิตผ่านไป ไม่ว่าจะยาก ง่าย สนุก หรือแค่ความทรงจำที่อยากเก็บไว้

ในบางประเทศยังมีร้านอาหารที่ไม่ยอมรับการสักนอกร่มผ้าของคนในครัว คุณมีความเห็นต่อเรื่องนี้ยังไงบ้าง

เราเชื่อว่ารอยสักเป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ มันไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถในการทำอาหาร เราอยากส่งเสริมให้สถานประกอบการเหล่านี้มองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก มุ่งเน้นไปที่ทักษะ ความหลงใหลในการทำอาหาร และยอมรับในความหลากหลายของผู้คน

แนท นาตาลี

Bonus

ได้ยินมาว่าคุณไม่ชอบกล้วยสุก มีความคิดที่จะจัดการจุดอ่อนนี้ไหม

นี่เป็นคำถามที่ตลกมากเลย (หัวเราะ) จริงๆ เราไม่ได้มีปัญหากับการทำอาหารด้วยกล้วยนะ แค่ไม่ชอบกล้วยสุกเท่านั้นเอง แต่เราชอบกล้วยไทยลูกเล็กๆ สีเขียวเวลาย่างมากๆ ที่จริงเราทำอาหารด้วยกล้วยบ่อยมาก เพราะเป็นผลไม้ที่มีในบ้านทุกคน แต่ไม่มีใครกินหมด เราเลยมักจะทำเค้กกล้วย ขนมปังกล้วย บานอฟฟีพาย ฯลฯ แล้วแช่แข็งไว้ให้เพื่อนร่วมบ้านหรือครอบครัวกิน

แล้วแบบนี้คุณชอบกล้วยบวชชีไหม

น่าเสียดายที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมันหวานเกินไปสำหรับเรา แต่อะไรก็ตามที่ไม่ชอบ เรามักจะพยายามทำให้ชอบด้วยการสร้างเวอร์ชันใหม่ของมัน ถ้าเป็นเรา คงจะทำให้มันสดชื่นขึ้น ไม่หวานมาก และมีเนื้อสัมผัสที่หลากหลายกว่านี้

แนท นาตาลี

ติดตามชมการแข่งขัน MasterChef Australia Season 16 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 19.30 น. ทางช่อง Lifetime 145, 339 และแอปฯ TrueVisions Now

Tags: