About
Leisure X Bangkok

Becoming A Spy

The O.S.S Bar บาร์ไวบ์ซีไอเอที่แกะสูตรค็อกเทลจากรสชาติชีวิตของจิม ทอมป์สัน

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • The O.S.S Bar บาร์ที่แกะสูตรค็อกเทลจากรสชาติชีวิตของจิม ทอมป์สัน เสริมด้วยกลิ่นอายแบบไทยๆ ผ่านบ้านไม้รีโนเวตใหม่เป็นค็อกเทลบาร์ที่กลมกลืนกับย่านริมคลองแสนแสบ

ปกติแล้วเมนูบอกส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มให้คุณรู้ แต่เมนูของ The O.S.S Bar ต่างออกไป เพราะคำบรรยายใต้เครื่องดื่มแต่ละแก้วคือสรุปเกร็ดสำคัญจากแต่ละช่วงชีวิตของจิม ทอมป์สัน

O.S.S ย่อมาจาก Office of Strategic Services ซึ่งเป็นชื่อเก่าขององค์กร CIA ของสหรัฐอเมริกา จิม ทอมป์สันเคยทำงานอยู่ที่ O.S.S และเขาก็มาที่ประเทศไทยเพราะหน้าที่รับผิดชอบที่มีต่อองค์กรนี้

พลอย-ศิริวรรณ สินพันธ์ เมเนเจอร์ของบาร์เลือกหยิบหนังสือมาหนึ่งเล่มเพื่อแนะนำให้เรารู้จักบาร์ที่เธอดูแลอยู่ หนังสือเล่มนั้นคือเมนูที่ฉีกกฎการแนะนำเครื่องดื่มทุกอย่าง ตั้งแต่การแจกแจงโค้ดลับสำหรับสั่งเครื่องดื่ม ตัวหนังสือยาวเหยียดที่ไม่บอกส่วนผสมแต่บอกประวัติของจิม ทอมป์สัน และรูปของจิมแทนที่รูปตัวอย่างของเครื่องดื่ม

ถ้าถามว่าแล้วจะเลือกจะสั่งเครื่องดื่มอย่างไร เขาก็ให้เราแกะรหัสรสชาติในเมนู โดยคีย์เวิร์ดแต่ละตัวเป็นคำบอกรสชาติ เช่น หวาน เปรี้ยว ซ่า เป็นต้น แต่ละคำมีสัญลักษณ์ของตัวเอง คุณจะพบรูปสัญลักษณ์เหล่านั้นอยู่ใต้ชื่อเครื่องดื่มแต่ละแก้ว สรุปสั้นๆ คือชอบรสชาติแบบไหนก็มองหาสัญลักษณ์ของรสชาตินั้น

เราฟังพลอยอธิบายการใช้เมนูครั้งแรกแล้วอึ้งนิดหน่อย แต่พอจับทางได้ก็เริ่มสนุกบวกกับอยากรู้ต่อด้วยซ้ำว่า เขาจะตีแผ่ชีวิตสายลับผ่านเครื่องดื่มยังไง

คำเตือน : เนื้อหาต่อจากนี้เป็นความลับ อย่าเพิ่งเลื่อนลงไปอ่านจนกว่าจะหาที่อ่านคนเดียวได้

The O.S.S Bar

ถอดรหัสชีวิตสายลับ

พลอยแบ่งช่วงชีวิตของจิม ทอมป์สัน เป็น 4 ช่วง แล้วคิดเมนูเครื่องดื่มขึ้นมาตามกลิ่นอายกับกิมมิกที่พบในช่วงชีวิตนั้นๆ โดยใช้วัตถุดิบ รสชาติ เหล้า และแก้วที่ใช้เสิร์ฟเป็นตัวชูเนื้อหา แต่ละแก้วถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงก็เลยมีเอกลักษณ์มาก

เมนูเล่มนี้ยังเผยเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ ของจิม ทอมป์สัน นอกเหนือจากจิมในฐานะราชาผ้าไหมไทยและสายลับเลื่องชื่อด้วย เราถอดรหัสมาให้ดูเป็นตัวอย่างช่วงชีวิตละ 1 – 2 แก้ว ใครอยากรู้เรื่องราวแบบละเอียดก็ต้องมาสืบเอาเองที่บาร์นะ

The O.S.S Bar

Chapter I – Early Life

The Grandpa-pa ไอดอลของจิมคือปู่ของเขาเอง คุณปู่เป็นนายทหารชั้นสูงที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นแรงบันดาลใจให้จิมตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย คุณปู่ของจิมให้ลูกอมนายจิมบ่อยๆ เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ค็อกเทลแก้วนี้มีรสหวานโดด เสิร์ฟพร้อมเยลลี่มะม่วง (รหัส Smooth, Sweet)

The O.S.S Bar

Chapter II – The O.S.S Time

Operation Forth ชื่อแก้วนี้เกี่ยวพันกับสถานที่ฝึกขององค์กร O.S.S ส่วนใหญ่ก็เป็นอเมริกา พลอยคัดสมุนไพรหลากชนิดที่อเมริกานิยมมาใส่ในเครื่องดื่ม ตัดรสชาติด้วยเสาวรส แก้วนี้เลยมีสีเหลืองอ่อน (รหัส Sour, Herbal)

Ceylon ซีลอนในที่นี้คือชื่อเดิมของประเทศศรีลังกา นายจิมเคยไปปฏิบัติภารกิจที่นี่ พลอยจึงนำชาซีลอนมาใส่ในค็อกเทล แล้วเสิร์ฟในแก้วชาพร้อมคุกกี้ที่หอมเครื่องเทศ (รหัส Sweet, Spirit forward)

The O.S.S Bar

Chapter III – Thailand : A Dream Comes True

K.Yee & K.Tun คุณยี้คุณตันเปรียบเหมือนบ่าวในบ้านที่คอยดูแลรับใช้นายจิม หนึ่งในหน้าที่หลักคือทำอาหาร ค็อกเทลแก้วนี้จึงมีข้าวเหนียวดำ อ้อ ทั้งสองเป็นชาวจีนนะ เลยใส่ไวน์จีนสำหรับใช้ทำอาหาร เก๋ากี้ แล้วเสิร์ฟจากกาและแก้วชาหน้าตาคล้ายกระเบื้องเคลือบลายจีนสีฟ้าคราม (รหัส Sour, Herbal, Spice)

The O.S.S Bar

Sunset at Mekong แก้วนี้มีที่มาจากการตั้งชื่อเหล้าแม่โขง ซึ่งจิม ทอมป์สัน เป็นคนตั้ง เล่าต่อกันมาว่า ประเสริฐ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นำเหล้าประเสริฐที่ปรุงเองมาให้นายจิมชิม ระหว่างนั้นกำลังล่องเรือบนแม่โขงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน จิมก็เสนอไอเดียว่าควรเปลี่ยนชื่อเหล้าเป็นแม่โขง ตั้งแต่นั้นมาประเทศไทยจึงมีเหล้าแม่โขง แน่นอนว่าค็อกเทลแก้วนี้มีเบสเป็นเหล้าแม่โขง เสิร์ฟพร้อมเม็ดบัวเสียบไม้ (รหัส Refreshing, Herbal, Fizzy)

The O.S.S Bar

Chapter IV – The Unsolved Mystery

Moonlight Cottage ชื่อนี้เป็นชื่อที่พักในมาเลเซียของจิม ทอมป์สัน ระหว่างไปเที่ยวกับเพื่อนที่มาเลเซียในปี 2519 ตอนเสิร์ฟมีไฟ LED รองที่ก้นแก้ว กลายเป็นค็อกเทลเรืองแสงสีฟ้า ถ่ายรูปขึ้นกล้องมาก (รหัส Fizzy, Complex, Spirit forward)

The O.S.S Bar

The O.S.S Bar

The Mystery ตัวนี้เป็นเมนูลับตามที่มีข่าวการหายตัวไปอย่างปริศนาของจิม ทอมป์สัน ในป่า ตัวนี้เราขออุบไว้เพราะอยากให้เพื่อนๆ มาลองสั่งเอง แก้วนี้ราคาสูงกว่าเพื่อนขึ้นมาหน่อยด้วย (แก้วที่เหลือราคา 450 บาททั้งหมด) แต่คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน

The O.S.S Bar

ข้างโต๊ะทุกตัวมีเก้าอี้กลมตั้งแต่หัวโต๊ะฝั่งทางเดิน พลอยบอกว่าเป็นเก้าอี้สำหรับให้พนักงานนั่งทักทายและอธิบายเมนูกับลูกค้า หลังจากนั้นจะลุกจะนั่งคุยกับลูกค้ากลุ่มไหนก็ได้ตามบรรยากาศและความสะดวกใจพาไป นี่เป็นไอเดียการให้บริการที่น่ารัก เพิ่มโอกาสให้บาร์และลูกค้าเชื่อมสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น บรรยากาศก็เป็นกันเองด้วย

The O.S.S Bar

บาร์ (กึ่ง) ลับ

The O.S.S Bar ตั้งในโซน Jim Thompson Heritage Quarter ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์อยู่ในบ้านเรือนไทยที่บำรุงรักษาอย่างดี พลอยเล่าว่าตอนเดินเข้ามาเจอสเปซนี้แล้วถูกใจมาก เพราะเส้นทางอาชีพก่อนหน้าของเธอแม้ไม่ต่างกันมากนัก แต่ก็เป็นการทำงานบาร์ที่วิ่งเข้าออกในพื้นที่แคบมาตลอด

The O.S.S Bar

พลอยแนะนำว่าบาร์นี้เป็นกึ่ง Speakeasy Bar หรือกึ่งบาร์ลับ เธอว่าบาร์ประเภทนี้เกิดขึ้นเพราะมีกฎห้ามขายเหล้า และพลอยเคยไปบาร์ลับที่ลับจริงๆ ไม่มีช่องทางติดต่อ ทางเข้าก็ดูไม่ออก ไม่มีชื่อร้านด้วยซ้ำ เลยจัดให้บาร์ของเธอเป็นกึ่งบาร์ลับ เพราะที่นี่ซ่อนอยู่ในบ้านไม้เก่าบนร้านอาหารไทยอีกทีหนึ่ง ในพื้นที่เดียวกันก็ดูจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วยซ้ำ

พลอยยอมรับว่า ในทีแรกไม่ได้อินกับจิม ทอมป์สัน (ที่หมายถึงทั้งตัวคนและตัวแบรนด์ขนาดนี้) เธอเคยทำงานในโรงแรมมาก่อน ก็เห็นเสื้อผ้าจากผ้าจิม ทอมป์สัน และการตกแต่งผนังด้วยผ้าของแบรนด์นี้มาบ้าง แต่เพิ่งจะมาชอบมากก็ตอนได้ทำงานที่นี่

“เรารู้สึกว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถ้าไม่มีคนเชื่อเขาขนาดนี้ สถานที่นี้ก็ถูกขายทิ้ง เปลี่ยนสภาพไปตามเมืองหลวง แต่นี่คนยังสานต่อความตั้งใจของคุณจิม”

สำหรับพลอยแล้วแพสชั่นหรือความชอบส่วนตัวนั้นสำคัญมาก ตัวเธอเองก็จับทางได้ตั้งแต่เด็กๆ ว่าชอบทำงานสายนี้ สังเกตจากเวลาจะกินน้ำแดงก็เอาน้ำอัดลมรสส้มมาผสม ไปกินเคเอฟซีก็เอาน้ำจิ้มมาลองผสมกัน จนกระทั่งได้ทำงานตำแหน่งเล็กๆ ในบาร์ตอนอายุ 18 ที่พลอยบอกว่าทำไปด้วยหาเงินส่งตัวเองเรียนไปด้วย พอโตพอถึงได้ลองชงเครื่องดื่ม

“ค็อกเทลแก้วแรกคือโมฮิโต ตอนนั้นเราตกหลุมรักเลย”

The O.S.S Bar

เส้นทางอาชีพของพลอยเกี่ยวข้องกับสายงานนี้ซะส่วนใหญ่ ทำบาร์นี้แล้วต่อบาร์นั้น ส่วนน้อยคือจับพลัดจับผลูไปเป็นคอลเซ็นเตอร์บ้าง ผู้ช่วยช่างภาพบ้าง จนได้กลับมาทำงานบาร์อีกครั้ง ทำจนกระทั่งเมเนเจอร์บาร์ลาออก แล้วภาระงานมาตกที่ตัวเอง แล้วได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็น Assistant Manager พอทำไปนานๆ แล้วอิ่มตัวก็เลยถึงคิวเธอลาออกบ้างแล้ว

The O.S.S Bar

“ถือเป็นการลาออกที่เหมาะเจาะพอดีเป๊ะ เพราะหลังจากนั้นไม่นานมีคนติดต่อแฟนเรามาว่าทำงานที่จิม ทอมป์สัน ไหม เขาเลยส่งคอนแท็คพลอยไปแล้วก็มีการสัมภาษณ์งาน พลอยเข้ามาทำในตำแหน่งเมเนเจอร์เลย ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นเมเนเจอร์ของบาร์เฉยๆ ตัดภาพมาคือดูทั้งร้านอาหารข้างล่าง ดูบาร์ข้างบน ดู Afternoon Tea เราไม่ใช่สายนี้ไง พอลองชิมกลายเป็นว่าตอนนี้หลงรักชาไปเลย มีแพลนจะไปลอง Afternoon Tea ของที่อื่น ไปศึกษาชา และการบริการ”

The O.S.S Bar

พลอยดูแลเองทั้งหมดจริงๆ ตั้งแต่มาถึง เราก็เจอเธอผู้นี้ปีนเก้าอี้เช็ดรอยปากกาเมจิกที่ลูกค้าคืนก่อนหน้าทิ้งลายเซ็นไว้ หลังเราสัมภาษณ์เสร็จ เธอก็เอาหยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะเตรียมเปิดร้าน พร้อมๆ กับที่ไฟบนเพดานห้องเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของวันรับกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านผนังกระจกฟูลเฟรมเข้ามา แสงพระอาทิตย์ขับสีเฟอร์นิเจอร์ไม้ตัดขอบทองในร้าน (เราว่าสวยมากๆ)

The O.S.S Bar

เราวางหมอนอิงสีน้ำเงินของจิม ทอมป์สันลงจากตักแล้วรับ Bartender Badge ซึ่งเป็นเข็มกลัดตราสัญลักษณ์ O.S.S Bangkok มาจากพลอย (เห็นว่าเขาแจกฟรีแหละ)

อีกฝั่งของคลองแสนแสบก็เป็นชุมชนบ้านครัว ซึ่งเป็นชุมชนแขกจามที่เคยทอผ้าไหมส่งจิม ทอมป์สัน และเป็นต้นกำเนิดของผ้าไหมแบรนด์นี้ พลอยเล่าว่าบางวันก็มีคนในชุมชนออกมานั่งดื่มที่ริมคลอง กลายเป็นว่าทั้งสองฝั่งริมน้ำที่มีความสัมพันธ์กับนายจิมต่างดื่มด่ำบรรยากาศไปด้วยกัน

บาร์ใหม่ที่เพิ่มมานี้ก็เป็นการเติมเต็มการท่องเที่ยวสายไลฟ์สไตล์ให้ครบรสมากขึ้น แถมทำเลก็ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ และห่างจากบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติไม่ไกลด้วย

 

The O.S.S Bar
Map : https://maps.app.goo.gl/3egtU9xiq8KaDpCx9
Hours : 18.00 – 12.00 น.
Tel. : 02 612 3601
Facebook : The O.S.S Bar

Tags: