- เดอะ ริเวอร์รันส์ เชียงกลาง เป็นที่พักขนาดเล็กที่มีเคบินไม้เพียง 4 หลัง อยู่ในอำเภอเชียงกลาง อำเภอเล็กๆ ของน่านที่ไม่ค่อยมีใครไป
- ที่นี่ไม่หรู แต่อยู่สบาย ทำให้เราได้อาศัยความเงียบดีท็อกซ์กายใจจากมุมสงบริมน้ำน่าน ในวันที่น่านกำลังแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว
น่านคือที่ที่ทุกคนฝันถึงก็จริง แต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา หลายเสียงพูดกันว่าสะปันแน่นมาก ปัวไม่มีที่จอดรถ เราคิดว่าภาพฝันของน่านสำหรับหลายคนคงเปลี่ยนไป แต่เราก็ยังอยากไปน่านอยู่ดี...
เมื่อโปรแกรมปุบปับทริปเกิดขึ้น ปักหมุดลงตรงน่านเหมือนเดิม จะเปลี่ยนก็แค่จุดหมายที่เบนเข็มสู่อำเภอเชียงกลาง ปลั๊กอินตัวเองเข้าที่พักเล็กๆ ชื่อเดอะ ริเวอร์รัน เชียงกลาง - The River Runs Chiang Klang เรารู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกที่นี่ทันทีที่เช็กอิน
เชียงกลาง
ในบรรดา 15 อำเภอของน่าน เชียงกลางคืออำเภอที่เล็กที่สุด ถ้ามองจากแผนที่ ที่นี่อยู่ค่อนไปทางเหนือ ห่างจากอำเภอเมืองน่านประมาณ 70 กิโลเมตร ตอนแรกเราคิดว่ามันไกลเหมือนกันแฮะ แต่ถนนหนทางดีมาก ผ่านทางโค้งบ้างเป็นบางช่วง ไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงอำเภอเชียงกลาง
ถ้าพูดว่าไปเชียงกลางกับเพื่อน เพื่อนคงถามกลับว่า ไปทำไม? มีอะไรเที่ยวเหรอ? ไม่เคยรู้จักเลยอำเภอนี้ ฯลฯ แต่ถ้าบอกว่าไปปัว ทุกคนต้องร้องอ๋อแล้วภาพบ่อเกลือสินเธาว์โบราณ หมู่บ้านสะปัน ทุ่งนา ภูเขา ก็เกิดขึ้นในหัวทันที นั่นสินะ เชียงกลางมีอะไรถึงทำให้เราต้องไป ตอนแรกก็นึกไม่ออกเหมือนกัน แต่เพราะอยากหาที่สงบๆ ขอไปพักผ่อนสมอง ขออ่านหนังสือ หรือได้แค่นั่งโง่ๆ ก็พอ เลยมาเจอที่พักเล็กๆ แห่งนี้…เดอะ ริเวอร์รันส์ เชียงกลาง
The River Runs
จากตัวอำเภอเชียงกลาง ผ่านตลาด ลัดเลาะไปบนถนนสายแคบๆ แบบได้ฟีลไปที่ไหนก็ไม่รู้ ตึกแถวหรือบ้านคนที่เรียงรายริมทางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นท้องทุ่งกว้างมีวิวเขาไกลลิบอยู่ด้านหลัง ป้ายเดอะ ริเวอร์รันส์ เริ่มปรากฏให้เห็นเป็นระยะบอกให้รู้ว่าอีกไม่ไกลแล้ว
เราเช็กอินที่นี่ตอนหัวค่ำ พนักงานแจ้งเบอร์เคบินที่จองไว้ กำชับว่าเราต้องใช้ห้องน้ำหมายเลขที่กำหนดเท่านั้น แขกที่เข้าพักที่นี่ต้องใช้ห้องน้ำรวมก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวในห้องใดก็ได้ เขาจัดระบบไว้อย่างดี ระบุว่าห้องสุขาและห้องอาบน้ำเบอร์นี้สำหรับแขกห้องนี้เท่านั้น
ส่วนราคาห้องพัก เขาคิดรวมอาหารเช้าและเย็นไว้เรียบร้อย เราไปถึงก็ได้เวลาดินเนอร์พอดีซึ่งปรกติจะเริ่มทุ่มตรง ดินเนอร์ที่นี่เน้นอาหารเหนือหน้าตาธรรมดา มีอาหารให้ 3 เมนู คืนนั้นเป็นเมนูไก่ทอดมะแขว่น น้ำพริกอ่อง และแกงผักกาดหมู เติมได้ไม่อั้น บอกเลยว่ารสชาติดีมาก โดยเฉพาะน้ำพริกอ่องที่เคียงด้วยผักสด รับรองกินเพลิน!
เคบินไม้
เราเคยเห็นภาพห้องพักแนวเคบินลอดจ์ของเมืองนอกที่มักสร้างคู่กับสวนป่า อุทยาน ในบ้านเราก็พอมีให้เห็นผ่านตาบ้าง อย่างโครงการหลวงตีนตกที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นล็อกเคบินริมลำธาร (ซึ่งปัจจุบันปิดไม่ให้พักแล้ว) ส่วนใหญ่มักใช้ปีกไม้มาทำเป็นโครงสร้าง แต่เคบินของที่นี่เน้นงานไม้เก่า รียูสของเหลือใช้เอามาโมใหม่
ห้องพักของเดอะ ริเวอร์รันส์มีแค่เคบินไม้ 4 หลัง แกลมป์ปิ้งเต็นท์สีขาวอีก 2 หลัง (ที่ให้บริการเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น) บรรยากาศเหมือนนอนในป่าสัก เงียบสงบ เห็นดาวชัดมาก (ก.ไก่ล้านตัว) โดยรวมก็ไม่ได้ดูหรูหรา แต่เราว่าน่ารักและมีคาแรกเตอร์ดี เคบินแต่ละหลังมีชื่อเรียกของตัวเอง ฮีลใจด้วยภาษาอังกฤษเขียนด้วยลายมือหวัดๆ เหมือนเตือนสติบางอย่างบนบานประตูด้านบน จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าของที่นี่เป็นคน “ช่างสรรหาและลงดีเทล” น่าดู แต่ละห้องมีโครงสร้างคล้ายกันก็จริง แต่ดีเทลของแต่งภายในห้องไม่เหมือนกัน คืนแรกเราพักที่เคบินไม้ ส่วนอีกคืนลองเปลี่ยนบรรยากาศมาพักในแกลมป์ปิ้งเต็นท์ก็ได้ฟีลดีไปอีกแบบ
ตื่นเช้า อาหารเช้ารออยู่ที่เดิมที่เรากินดินเนอร์นั่นแหละ เป็นระบบบริการตัวเอง มีข้าวต้มทรงเครื่อง คัดของดีมาทุกอย่าง กระเทียมก็เจียวเอง ขนมปัง กาแฟหอมๆ รอไว้แล้ว
คาเฟ่
ที่นี่มีคาเฟ่บริการด้วยนะ เสิร์ฟกาแฟแนวสโลว์บาร์ เน้นเมล็ดกาแฟจากน่าน เช่น มณีพฤกษ์ ส่วนขนมปังก็เอามาจากร้านจ๊างน่าน อำเภอเวียงสา กินคู่กับเนยถั่วโฮมเมดที่เขาทำเอง อร่อยดี
จริงๆ คาเฟ่เป็นเหมือนเซ็นเตอร์ของที่นี่ เช็กอินก็ที่นี่ ติดต่อพนักงานก็ที่นี่ ชั้นล่างคือคาเฟ่และครัว ส่วนด้านบนคงเป็นห้องพักส่วนตัว ตัวคาเฟ่สร้างขึ้นมาดูคล้ายโรงบ่มยาสูบ ในเชียงกลางเองก็มีโรงบ่มยาสูบเก่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดังของอำเภอเหมือนกัน ชื่อว่า สถานีบ่มใบยาสบกอน ปัจจุบันปิดแล้ว แต่กลายเป็นมุมถ่ายรูปที่ใครมาเชียงกลางแล้วต้องแวะไปแชะกันสักช็อต
สบเปือ
อยู่ที่นี่ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ได้นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ เราก็พอใจแล้ว แต่บางทีก็อยากแอคทีฟขึ้นมาบ้าง เลยสอยจักรยานที่มีบริการให้แขกฟรีๆ ออกไปปั่นตะลอนชมความเป็นไปรอบๆ ที่พักกันเสียหน่อย และเพราะตั้งอยู่ในมุมลึกๆ ของเชียงกลาง นานๆ จะมีรถผ่านมาซักคัน อย่างดีก็มอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านแถวนั้น ทำให้การปั่นจักรยานของเราโคตรสบาย ไม่ต้องเกรงใจรถคันไหน
รอบๆ เดอะ ริเวอร์รันส์ คือวิถีชาวไร่ในภาคเหนือ ดูเหมือนจะปลูกข้าวโพดกันเป็นล่ำเป็นสัน เราปั่นลัดเลาะไปเรื่อยๆ แวะถ่ายวิวบ้างถ้าตรงไหนมันสวยสะดุดตาจนต้องเบรก แต่ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็น ‘สบเปือ’
คำว่า สบ น่าจะหมายถึงบริเวณที่มีสายน้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน ที่นี่ชื่อสบเปือ เราเดาว่าน่าจะเป็นสาขาของลำน้ำน่านที่ไหลผ่านบริเวณนี้ การได้เจอสบเปือทำให้เรารู้สึกดีมากๆ เหมือนนักสำรวจที่ค้นพบบางอย่างระหว่างการเดินทางโดยไม่คาดคิด
ลำธารใส ก้อนหิน เสียงของสายน้ำ และความเงียบ ไม่มีคนเลย บรรยากาศมันโคตรฮีลใจ นี่ถ้าเอาเก้าอี้แคมป์ติดมาด้วย เราคงปักตัวเองอยู่กลางลำธารและทิ้งตัวตรงนั้นจนสั่งลาพระอาทิตย์ตกดิน
อาลแบร์ กามูว์ เคยกล่าวไว้ว่า ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์นั้นมีอยู่แค่ 4 ข้อ คือ อยู่ในที่ที่อากาศปลอดโปร่ง พ้นจากความทะเยอทะยาน มีความคิดสร้างสรรค์ และรักใครซักคน…เดอะ ริเวอร์รันส์ เชียงกลาง ก็คงนิยามตัวเองไว้เช่นนั้น
The River Runs Chiang Klang อยู่ที่บ้านดอนสบเปือ ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน
FB : https://www.facebook.com/TheRiverRunsChiangKlang/
ที่นี่เป็นที่พักแนว Pet Friendly และต้อนรับกลุ่ม Biker สายรักธรรมชาติ และแคมป์เปอร์แวนด้วยนะ สำหรับ Glamping มีบริการเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้นจ้า