

- เมื่อมิตรภาพกว่า 20 ปีกลายเป็น ‘วิลล่าปาเต’ บูทีคโฮเทลแห่งใหม่ที่มีดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจากบ้านโบราณเจ้าเมืองตรัง ตั้งอยู่กลางชุมชนประมง อ.สิเกา แถมซ่อนรายละเอียดลึกซึ้งถึงวิถีชุมชน
วิลล่าปาเต เกิดจากสามเพื่อนซี้ เวศ - ประเวศ มณีศิริ, ไบค์ - จตุพล พูลภักดี และ กิก - วุฒชัย จินดาประชา ที่ผูกพันกันยาวนานกว่า 20 ปีตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย เวศเป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนเพื่อนอีกสองเป็นคนตรัง หนึ่งในนั้นคือทายาทเค้กท่าปราบ เค้กมีรูของเมืองตรังที่ทุกคนรู้จักกันดี แน่นอนว่าเวศไปเที่ยวตรังแทบทุกปี แม้แต่ช่วงโควิดที่เดินทางไม่ได้แต่เขาก็พยายามดึงดันที่จะไปจนเพื่อนต้องถาม "มึงไม่เบื่อเหรอ?"
แม้เป็นจังหวัดตรัง…จุดหมายเดิม แต่ความรู้สึกที่ได้รับทุกครั้งไม่เคยเหมือนเดิม คงเป็นเหตุผลที่เวศกล้าฟันธงว่าเขาไม่เคยเบื่อเลย ”ทุกที่ที่เราไปมันไม่เคยซ้ำ ไปกินร้านเก่าแก่ มันมีเสน่ห์ มันมีวิถีชีวิตที่เป็นประสบการณ์ใหม่ของเราเสมอ" เขากับเพื่อนเลยลงขันสร้างวิลล่าปาเต เพราะอยากให้คนอื่นเห็นความงดงามอย่างที่พวกเขาเห็น
#ความสงบที่ถูกเลือก
เวศเลือกมุมสงบๆ ไม่พลุกพล่านกลางชุมชนมุสลิม อ.สิเกาที่ยังคงรักษาวิถีชุมชนเอาไว้เหนียวแน่น เขาต้องการสร้างที่พักที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตรอบๆ เหมือนเป็นประตูบานแรกของชุมชนก็ว่าได้ และอยากให้ฟีลการพักที่นี่เหมือนมานอนบ้านเพื่อนมากกว่าโรงแรมหรู
วิลล่าปาเตใช้เวลาสร้างนาน 4 ปี อาคารหลักได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ของบ้านโบราณของท่านคอซิมบี้หรือพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เจ้าเมืองตรังคนแรก ในเชิงธุรกิจการใช้สเกลพื้นที่แบบนี้ เวศบอกว่ายังไงมันก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะคงไม่มีใครลงทุนทำสเปซใหญ่โตเปิดพื้นที่ชั้นหนึ่งเป็นห้องโล่งๆ ส่วนชั้นสองก็มีห้องพักแค่ 2 ห้อง ซึ่งถ้าเน้นทำธุรกิจมันต้องสร้างห้องพักให้เยอะขึ้นเพื่อดึงเม็ดเงินเข้ามามากกว่า
แต่เพราะเขาอยากให้ที่นี่คือบ้าน บ้านที่ได้ฟีลรีแลกซ์ บ้านที่มีเพื่อนคอยต้อนรับ และบ้านที่ทำให้เราสนิทชิดเชื้อกับชุมชนที่เวศพยายามเล่าเรื่องเสน่ห์ตรังผ่านทุกรายละเอียด สานเตยปาหนันเป็นเสื่อปูหน้าเตียง เก็บเศษไม้จากทะเลตรังมาทำเป็นของประดับ โอ่งเก่าของชาวบ้านเขาก็เอามาประดับหน้าตึก
#ทุกดีเทลมีเรื่องราว
ที่นี่มีห้องพัก 7 ห้อง 4 แบบ ขนาดเริ่มต้น 42 ตร.ม.จนถึง 108 ตร.ม ที่โปร่งและสบายด้วยเพดานสูงเกือบ 4 เมตร แต่ละห้องตั้งชื่อตามนิราศอิเหนา อย่างห้องระเด่นแปลว่าเจ้าชาย ห้องระตูซึ่งหมายถึงเจ้าเมือง และห้องอินุก็คือหลานชาย ส่วนคำว่าปาเตซึ่งเป็นชื่อโรงแรมนั้นแปลว่า ขุนนาง คำว่า “วิลล่าปาเต” จึงแปลความหมายได้ว่า บ้านของขุนนาง “ถ้าขุนนางอยากจะมีบ้านพักตากอากาศในดินแดนมุสลิม จะอยู่ตรงไหน เราก็คิดว่าตรงนี้” เวศบอก
นอกจากนี้ยังมีมุมฟังไวนิล พร้อมคอลเลกชันกว่า 1,000 แผ่น “อันนี้ไม่เกี่ยวกับชุมชนเลย เป็นความชอบส่วนตัวของผม” เขาเล่าปนขำๆ “บางทีเราก็อยากจะเป็นตัวเราด้วย”
มาถึงห้องอาหารบุหลันระตี ที่เราว่าเป็นอีกความพิเศษของที่นี่ เวศเรียกเมนูที่เสิร์ฟว่า มันเป็นอาหารที่ไม่แปลกแต่จริงใจ “ผมไม่ได้ขายความแปลก แต่ผมขายวิถีของชุมชน เราแค่มาประยุกต์ใหม่” อย่างเหงียนปลาทรายในภาษาถิ่น จริงๆ แล้วก็คือเมนูซาซิมิปลาทรายกินคู่กับน้ำจิ้มถั่วตอยในภาษาชาวบ้านซึ่งก็คือถั่วตัดที่ให้รสหวานนิดๆ
#ไม่ใช่แค่ที่พักแต่คือศูนย์กลางท่องเที่ยวชุมชน
เวศตั้งใจให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของชุมชน เขาเชื่อว่าการเที่ยวชุมชนไม่จำเป็นที่เราต้องเข้าไปในชุมชนเท่านั้น แต่เราสามารถดึงเสน่ห์ของชุมชนมาเล่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เข้าพักในโรงแรมได้ ที่นี่จึงมีกิจกรรมเวิร์กช็อปทำว่าวท้องถิ่น Cooking Class เมนูชุมชน ลองสานเตยปาหนัน ไปจนถึงจัดทริปล่องทะเลพาไปดูมุมซีเคร็ต ยิ่งกว่านั้นส่วนหนึ่งของรายได้จากที่พัก เวศยังนำไปสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยกันรักษา ฟื้นฟูระบบนิเวศชายทะเลแถบนี้ “เป้าหมายสูงสุดของเราคือความยั่งยืน” เวศบอก
ขณะนี้วิลล่าปาเตอยู่ในช่วง Soft Opening มา 5 เดือนแล้ว จะเปิดตัวเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม 2568 นี้ ที่นี่ตั้งอยู่ในอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ห่างจากตัวเมืองตรัง 19 กิโลเมตร สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/villapateh เว็บไซต์ https://www.villapateh.com/ และ IG: https://www.instagram.com/villapateh/ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 6,900 บาท