ความเงียบที่มีค่า

ความทันสมัยและความสะดวกสบายในเมืองอาจต้องแลกมาด้วยความวุ่นวายและเร่งรีบ จนเรารู้สึกโหยหาความเงียบสงบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หาได้ยากในเมือง เพราะบางทีการพักผ่อนที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่กิจกรรมมากมาย แต่อยู่ที่ความสงบและการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ได้ล่องแพไม้ออกไปสูดอากาศดีๆ ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลสีฟ้าใส มีสายลมเบาๆ พัดผ่านใบหน้า ได้ใช้เวลาช้าๆ นิ่งๆ บ้างก็คงดีไม่น้อย

ในโลกที่ทุกอย่างดูเหมือนจะใส่สปีดติดเกียร์ไปหมด ที่นี่เสมือนกับเป็นปุ่มหยุดชั่วคราว ให้เราได้กลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง ดูท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปตามเวลา ฟังเสียงคลื่นที่สาดซัดไปมาแต่ไม่เคยน่าเบื่อ รู้สึกถึงอุณหภูมิของอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัน บางครั้งการไม่ต้องรีบไปไหน การไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ แค่ปล่อยให้ความคิดลอยไปกับผืนน้ำ กลับกลายเป็นกิจกรรมที่มีค่าที่สุดแทน

ถามว่าทำไมต้องมาที่นี่! บางครั้งความสุข ก็เรียบง่ายแค่นี้เอง…นั่นแหละ เราอยากชวนมาเจอความรู้สึกนี้

แพไม้ไผ่ล่องคลื่น นวัตกรรมแห่งความสงบ

ใดๆ ถ้าใครไถรีวิว เห็นกิจกรรมเยอะแยะเต็มไปหมดของเกาะทะลุ ไอส์แลนด์ฯ ทั้งดำน้ำ เล่นซัปบอร์ด พายคายัค เดินป่า ล่องเรือใบ เอกซ์สตรีมกับ Wing Foil บลาๆๆ พวกนี้อาจจะเหมาะกับคนที่อีเนอร์จีเยอะ แต่ถ้าคุณคือสายชิลล์ ชอบสโลว์ๆ ป่ะ! ไปล่องแพไม้กลางทะเลกันดีกว่า เพราะที่เกาะทะลุจะแตกต่างจากภูมิภาคอื่น ฤดูที่ปลอดคลื่นลมอยู่ในช่วงกลางเดือน ม.ค.-ต.ค. เลยสามารถทำกิจกรรมทางทะเลได้หลากหลาย

“แพไม้ลำนี้เป็นนวัตกรรมที่สร้างจากมือคุณพ่อ ใช้ลูกทุ่นวางแล้วก็วางเพลต วางเครื่อง ทำให้สามารถพาล่องออกไปได้ เมื่อก่อนเราใช้ขนน้ำจากฝั่งมาเกาะรองรับได้เกือบ 20–30 ตัน ไม่ต้องห่วง ไม่มีทางจมแน่นอน ตอนหลังเราลองมาออกแบบใส่กิจกรรมให้ลูกค้า เพราะคลื่นหน้าเกาะนิ่งสงบ ทำให้เหมาะกับการล่องแพออกไปนอกแนวปะการัง พาลอยไปตกหมึกยามเย็น ดำน้ำตื้นกลางทะเล ใครอยากจะล่องนั่งเงียบๆ มองพระอาทิตย์ตกกลางทะเลในมุมที่ไม่มีใครแย่ง นั่งได้ถึง 30 คน ก่อนจะออกไป เราก็จะประเมินสภาพอากาศทุกครั้ง โดยการล่องใช้เวลาราวๆ 2–3 ช.ม.” ‘เผ่า-เผ่าพิพัธ เจริญพักตร์’ ทายาทรุ่น 2 ของรีสอร์ต เกริ่นเล่าให้ฟัง แค่นี้ใจเราก็พร้อมลอยไปติดเกาะแล้ว

เที่ยวอย่างยั่งยืน…ดูแลชุมชนและธรรมชาติ

เอาดีๆ วันพักร้อนพักผ่อนของใครหลายคนในยุคนี้ เพียงแค่ได้ลืมเสียงรถติด เสียงแจ้งเตือนจากมือถือ หรือความวุ่นวายในชีวิตประจำวันบ้าง ออกไปรับสายลม แสงแดด กลิ่นอายทะเล เสียงคลื่นซัดฝั่ง เสียงลมพัดใบไม้ สีของน้ำทะเลที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา แค่นี้ก็เป็นของขวัญให้ตัวเองแล้ว

อย่างที่หลายคนรู้ แนวทางของที่นี่ คือ ตั้งใจทำธุรกิจท่องเที่ยวบนแนวทางการอนุรักษ์ เสิร์ฟด้วยกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านโครงการต่างๆ มากมาย นอกจากจะได้พักทำกิจกรรมที่มีส่วนได้ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเต่าทะเลและปะการัง ได้เรียนรู้ ชิมอาหารท้องถิ่นสดใหม่จากธนาคารปูม้าแล้ว ก็ยังได้ซัปพอร์ตชุมชนด้วย

ล่าสุดนอกจากรีสอร์ตเดิมบนเกาะ เมื่อต้นปีเพิ่งเปิดที่พักใหม่บนฝั่งด้วยชื่อว่า ‘Koh Talu On Shore : The Holiday Home’ เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวและลองสเตย์ รับรองว่าได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลายแบบ All Inclusive Package ไม่แพ้บนเกาะ มีกิจกรรมร่อนทองบางสะพาน เที่ยวชมชายหาดฝั่งแดงและศึกษาวิธีการอนุรักษ์ปูม้า หรือจะค้างบนฝั่งแล้วข้ามไปทำกิจกรรมบนเกาะก็ได้

จริงอย่างที่เขาว่าแหละ บางทีวันพักได้นั่งนิ่งๆ ได้อยู่ในที่ที่ใช่ ก็ดีมากแล้ว… เพราะการพักผ่อนที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่จำนวนกิจกรรม แต่อยู่ที่คุณภาพของความสงบและพื้นที่ในใจที่ได้รับการเติมเต็ม

ขอบคุณภาพ : เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท