

Cultural Walk
ชวนแอ่ว ‘เชียงราย’ ฉบับคนปื้นตี้ ผ่อสถานที่ทางวัฒนธรรมเก่าแก่
- ONCE จับมือกับ WABU ขอพาผู้อ่านเดินสำรวจเชียงรายร่วมกับเจ้าย่าน อาจารย์อภิชิต ศิริชัย เช็กอินสถานที่เก่าแก่ห้ามพลาด 5 แห่ง ไปส่องมิติของผู้คนและศิลปวัฒนธรรมให้ลึกซึ้งขึ้นพาเดินเท้าเที่ยวเชียงรายในมุมมองใหม่ ผ่านเส้นทางศิลปะและวัฒนธรรมระยะทางสัก 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียงครึ่งถึง 1 ชั่วโมง
ท่ามกลางผืนดินทางภาคเหนือ ‘เชียงราย’ เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงาม เป็นแหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เก่าแก่จากผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ เหมาะมาเดินเท้าท่องเที่ยว สอดส่องงานศิลปะตามซอกซอย สำรวจเรื่องราวประวัติศาสตร์บนสถาปัตยกรรม พร้อมรับรอยยิ้มอบอุ่นจากเจ้าถิ่นกลับบ้าน
ONCE จับมือกับ WABU แพลตฟอร์มคู่ซี้สำหรับนักเดินทาง (เท้า) ก้อนเมฆน้อยปุกปุยที่ควงแขนเราไปค้นหามุมลับ สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมท้องถิ่น เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินเท้าท่องเที่ยวตามฉบับคนในพื้นที่ โดยรูทเดินเที่ยวเชียงรายฉบับ Art & Culture ตาม WABU มีระยะทางเพียง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น
การมาเที่ยวเชียงรายครั้งนี้จึงไม่เหมือนครั้งไหนๆ WABU แนะนำให้รู้จักกับอาจารย์อภิชิต ศิริชัย เจ้าย่านแห่งเมืองเชียงราย ผู้พาเราพาไปส่องจิตรกรรมทั่วเมืองเชียงราย ใช้เวลาทำความรู้จักกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจว่างานศิลปะเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่เป็นการบอกเล่าวิถีชีวิตของคนเชียงรายมานานหลายชั่วอายุคน…
มาหลบหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แพ็กกระเป๋าให้พร้อม เตรียมเดินเท้าเที่ยวเชียงรายตามฉบับคนพื้นที่ สำรวจถนนสายวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเก่าแก่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเข้าเว็บไซต์ WABU กันเลย!
สถานีขนส่งเชียงรายแห่งที่ 1
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งแรกของเชียงราย เปรียบเสมือนหัวใจหลักของการเดินทางท่องเที่ยว ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับรูทเดินเท้าเที่ยวเชียงรายฉบับ Art & Culture ตาม WABU
เสียงจ้อกแจ้กจากผู้คนทั่วสารทิศ ปะปนทั้งภาษาถิ่นและภาษากลาง เป็นเวลากว่า 50 ปีที่สถานีขนส่งเชียงรายคอยทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจุบัน ให้บริการรถโดยสารสาธารณะไปยังอำเภอใกล้เคียง
ภายในอาคารเก่าแก่นี้ ผนังประดับไปด้วยภาพวาดสีสันสดใส เล่าเรื่องราวของเชียงรายในมิติต่างๆ ตั้งแต่ภาพผู้คนในชุดประจำชาติพันธุ์ สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเชียงราย ภาพวิวทิวทัศน์อันงดงาม สถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย แม้แต่ละภาพเล่าเรื่องราวแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดก็ประกอบรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของความเป็นเชียงราย
หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ
ผลงานการออกแบบของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชาวเชียงราย ใช้เวลาถึง 5 ปีในการสร้างสรรค์ ทุกเส้นสาย ทุกลวดลายที่ประดับอยู่บนตัวหอนาฬิกา สะท้อนกลิ่นอายของพุทธศาสนาและศิลปะไทย พอถึงเวลา 19.00-21.00 น. นาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ จะฉายแสง สี เสียงเป็นเพลงเชียงรายรำลึก ส่งเสียงก้องกังวานให้นักท่องเที่ยวหันมาชื่นชมความงดงาม
ตลาดสดเทศบาล 1
ศูนย์รวมวิถีชีวิตดั้งเดิมและความเป็นอยู่ของคนเชียงราย รวบรวมวัฒนธรรมอาหารและสินค้าหัตถกรรมจากชุมชน ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นร้านเก่าแก่ที่สืบทอดกิจการมาหลายรุ่น ส่วนในมุมหนึ่งของตลาดมีผักผลไม้ตามฤดูกาล ที่พี่น้องชาติพันธุ์เดินทางลงมาค้าขายด้วยตนเอง เสียงหัวเราะอบอวลทั่วตลาด สร้างสีสันให้ตลาดสดเทศบาล 1 มีชีวิตชีวามากขึ้น
โชคดีที่เราไปในช่วงเทศกาลป๊ะกาดพอดี จึงมีโอกาสได้ชมนิทรรศการศิลปะบุกตลาด พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น ส่องศิลปะที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงตลาดกลับเข้าสู่หัวใจของผู้คน แม้เป็นเพียงการพบกันครั้งแรก แต่พ่อค้าแม่ค้าก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี สร้างเสียงหัวเราะ และเป็นหนึ่งในความทรงจำอันล้ำค่าที่ไม่อาจลืมเลือน
หอนาฬิกาเก่า
หอนาฬิกาแรกของชาวเชียงราย สถาปัตยกรรมเก่าแก่ เรียบง่าย เป็นกันเอง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเรื่องราวน่ารักซ่อนอยู่ เมื่อปี พ.ศ.2510 หอนาฬิกาเก่ามีปัญหาเข็มนาฬิกาทั้ง 4 ด้านบอกเวลาไม่เท่ากัน ทำให้คนในเมืองสับสันกับเวลาที่แตกต่างกันไปแต่ละด้าน
พอพระอาทิตย์เริ่มลดแสงเจิดจ้าลง ตลาดยามเย็นเริ่มตั้งบริเวณนี้ อาหารท้องถิ่น ขนมหายาก พืชผักแปลกตา วางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด แม่ค้ายิ้มแย้มแจ่มใสคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้หอนาฬิกามีชีวิตชีวาข้ามยุคสมัย
บ้านสิงหไคล
อาคารบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี จากการออกแบบของนายแพทย์วิลเลียม เอ บริกส์ ทิ้งลวดลายสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลให้เชยชม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ตะวันตกเข้ามาอิทธิพลในเชียงราย
ในอดีตบ้านสิงหไคลเป็นบ้านพักของกลุ่มมิชชันนารี ปัจจุบันกลายเป็นแกลเลอรีจัดแสดงผลงานศิลปะ เปิดพื้นที่ให้ศิลปินท้องถิ่นเล่าเรื่องเมืองเชียงรายในมุมมองของเขา คิวเรทโดยมูลนิธิมดชนะภัย ส่วนชั้นล่างแปลงโฉมเป็นร้านกาแฟบ้านมด บริการอาหารพื้นเมืองและไอศกรีมโฮมเมด ในบรรยากาศอบอุ่นหอมกรุ่นกลิ่นกาแฟ
การเดินเท้าเที่ยวเชียงรายครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการเปิดประตูสู่ความเข้าใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ผ่านการสัมผัสจริงกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ จิตรกรรมที่เล่าเรื่องราวของคนเชียงราย และรอยยิ้มอบอุ่นจากเจ้าถิ่นที่พร้อมต้อนรับนักเดินทาง การเดินเท้าทำให้เราได้สังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พลาดไปเมื่อนั่งรถผ่าน ได้หยุดคุยกับผู้คน ได้หลงใหลกับกลิ่นอายของเมืองเก่า และได้ใช้เวลากับตัวเองในจังหวะที่เหมาะสม ที่สำคัญคือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วยในตัว
ใครมาเชียงราย หาโอกาสมาลองตามรอยกันดูนะ