ชวนมูทั่วไทย
15 ทัวร์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วไทย ที่นักเดินทางสายมูต้องห้ามพลาด!
- กระแสมูเตลูทุกวันนี้เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองก็ว่าได้ ซึ่งคำว่า ‘มูเตลู’ นอกจากจะเคยเป็นชื่อของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในอินโดเซียเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว ระยะหลังคนไทยนำมาใช้จนติดหูมากขึ้น ด้วยเชื่อว่าการไหว้ขอพรบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นด้านบวกจะช่วยเสริมดวงในเรื่องต่างๆ เช่น ด้านโชคลาภ รับทรัพย์เต็มกระเป๋า เสริมบารมี เสริมพลังให้ชื่อเสียงโด่งดัง งานเข้าจุกๆ
เราจึงมองเห็นพฤติกรรมของผู้คน ที่นอกจากจะท่องเที่ยวเสพย์ความรื่นรมย์ เสพย์ธรรมชาติแล้ว แน่นอนทัวร์สายมูก็มักจะต้องถูกพ่วงอยู่ในทริปด้วยเสมอ ที่ไหนว่าปังต้องไป! ไม่ว่าจะวันหยุด จะมีเทศกาลหรือไม่มีก็ต้องมีโปรแกรมแปะไว้เป็นศรัทธาใจ ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ONCE จะชวนไปดูว่า 15 พิกัดศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมพากันไปนั้นมีที่ไหนบ้าง… สายมูมาร์กเอาไว้เลยนะ
• หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
ประเดิมด้วยวัดพระธาตุดอยคำวัดเก่าแก่อายุกว่า1,400 ปี สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี แต่ละวันผู้คนหลั่งไหลขึ้นมานมัสการหลวงพ่อทันใจ เพื่อขอพรทั้งโชคลาภ หน้าที่การงาน ด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ ที่หาซื้อได้ตลอดเส้นทางก่อนขึ้นมาถึงวัดหากได้พรตามปรารถนา จะนำมาไหว้ท่านตามจำนวนที่เคยให้คำมั่น ตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไป จนถึงหลักพันหลักหมื่นพวงตามกำลัง
• หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
การได้มากราบนมัสการหลวงพ่อโต คือจุดเริ่มต้นของความเป็นศิริมงคลสำหรับชีวิต หลวงพ่อโต ถูกสร้างก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ถือเป็นปางประจำของผู้ที่เกิดวันพุธตอนกลางคืน ด้านหน้าพระวิหารมีองค์จำลอง ให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ จุดธูปเทียน ปิดทอง เป็นจุดที่มาวางของแก้บน ให้ประสบความสำเร็จตามคำขอด้วย ไข่ต้ม ขนมจีนน้ำยาและพวงมาลัย นอกจากนี้ในวัดยังมี เรือนขุนช้าง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อขอพรให้ร่ำรวยเหมือนขุนช้าง ทั้งการค้าขาย เมตตามหานิยม โชคลาภและเลขเด็ด
• หลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
คนทำมาค้าขายส่วนใหญ่ล้วนเคารพศรัทธา หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปสำคัญที่สุดองค์หนึ่งแห่งสยามคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ที่ ด้วยศรัทธาเชื่อกันว่าถ้าได้มากราบขอพรแล้ว มักจะสมปรารถนาในสิ่งที่มุ่งหวัง ทั้งความเจริญในชีวิต การงาน และการเงิน คนที่สมหวังแล้วมักจะเดินทางกลับมาถวายไข่ต้ม 99 ฟองและแก้บนด้วยถวายรำละครชาตรี
• ถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ
ข้ามไปยังภาคอีสานกันบ้าง มหัศจรรย์ธรรมชาติของหินก้อนใหญ่และผนังถ้ำที่มีลักษณะคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว สวยงามและน่ามหัศจรรย์ ด้วยฐานจากความเชื่อและศรัทธาเรื่องพญานาคที่อยู่ในวิถีชีวิตของชาวอีสาน ถ้ำนาคาส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกาเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ตามความเชื่อใครที่ตั้งใจมาขอพรที่ถ้ำนาคาอยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานต้องเป็นคนมีศีลไม่พร่อง การขอพรต้องไปถวายบายศรีที่เกาะดอนโพธิ์ก่อน หลังจากนั้นให้ไปขอพรที่ถ้ำนาคา ถ้ำนาคี และปิดท้ายให้มาย้ำคำขอความเมตตาจากปู่อือลือให้ประสบผลสำเร็จ ณ ตำหนักปู่อือลือเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับ
Photo credit: ultrapok / Shutterstock.com
• ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช
ที่นี่ก็ปังไม่หยุด! จุดประทัดแก้บนกันไม่หวาดไม่ไหวเป็นกองภูเขา กระทั่งตอนนี้เริ่มมีการสร้างเตาแบบพิเศษเพื่อเก็บเสียง ไม่ให้เป็นมลพิษกับชุมชนรอบข้าง ด้วยที่มาว่าของเชื่อการขอพรด้านโชคลาภและการค้าขาย ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ เป็นดาวเด่นขึ้นหิ้งมาหลายปี ผู้คนหลั่งใหลมาทั่วทุกสารทิศ รูปเคารพไอ้ไข่ที่โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วประเทศแถมลามข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วยจวบจนทุกวันนี้ ใครที่ไปขอพรแล้วสมใจ มักแก้บนด้วย ชุดลายพรางทหาร น้ำอัดลม น้ำหวาน รูปปั้นไก่ ฯลฯ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของไอ้ไข่ทำให้คนดวงดีมีโชครับทรัพย์กันมากมาย
• ตาพรานบุญ วัดยางใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
จากวัดเจดีย์ไอ้ไข่ อีกราวๆ 40 กม.ก็มาถึงวัดยางใหญ่ที่มีหน้ากากพรานบุญ หรือ หน้ากากมโนราห์ คือหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางวัตถุมงคลคู่ปักษ์ใต้ ได้รับความนิยมหลังจากคนดังมากมายมาขอพรพรานบุญ เด่นมากในเรื่องเสริมดวง เพราะเป็นเครื่องรางของขลังทางสายเสน่ห์ปักษ์ใต้ ช่วยเสริมเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โภคทรัพย์ เรียกโชคเรียกลาภ ค้าขายดี จนเป็นที่ร่ำลือทั้งในและต่างประเทศด้วยเช่นกัน
• วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
วัดจุฬามณี ตั้งอยู่ใน ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กำลังเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากที่อยากมาสักการะท้าวเวสสุวรรณ หลายปางด้วยกัน อาทิเช่น “ปางพรหมาสูติเทพ” เป็นองค์ปูนปั้นประทับนั่งสีขาว ถือเป็นท้าวเวสสุวรรณองค์แรกของที่วัด จะประทานพรในเรื่องของโชคลาภ การงาน การเงิน “ปางจาตุมหาราช” หรือปางยักษ์ที่เราทุกคนคุ้นตา รวมถึงยังมีท้าวเวสสุวรรณโณปางยักษ์องค์ยืนสูงใหญ่ที่สุดในวัดและปางต่างๆ ให้ได้สักการะบูชากันอีกจุดหนึ่งด้วย โดยจะยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ที่บริเวณหลังอุโบสถจตุรมุข ส่วนด้านข้างมี “พญาปุริสาท” มหาอำมาตย์คู่บารมี ที่ประทานพรในเรื่องป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ ช่วยบันดาลให้อยู่เย็นเป็นสุข มั่งมีทรัพย์สินเงินทอง
• คำชะโนด จ.อุดรธานี
อีกหนึ่งจุดหมายของสายมูทั้งหลายที่มีความเลื่อมใสศรัทธาและเดินทางมากราบไหว้ขอพร เสริมดวงชะตาราศี และขอพรบนบานเกี่ยวกับโชคลาภเงินทองอยู่เนืองๆ ก่อนถึงปลายทางเรียงรายด้วยร้านรวงและบายศรีสารพัดแบบที่ถูกนำมาบูชาพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อว่าเป็นเกาะลอยน้ำไม่มีวันจม เพราะมีพญานาคคอยปกปักรักษาอยู่ รวมถึงมีเรื่องลี้ลับมากมาย โดยพญานาคที่ชาวบ้านในละแวกนั้นนับถือกันคือ “จ้าวปู่ศรีสุทโธ” และ “จ้าวย่าศรีปทุมมา” นอกจากนี้ภายในวัดยังมีบ่อคำชะโนดหรือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
photo credit: unjiko / Shutterstock.com
• องค์ราหู วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม
มีความเชื่อกันมายาวนานว่าการบูชา “พระราหู” เทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งในคติไทย สามารถบันดาลประโยชน์และโทษให้เกิดขึ้นกับบุคคล หรือสิ่งต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ในทุกๆ ปี จึงมีการทำพิธี “ไหว้พระราหู” กันขึ้น เพื่อปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ ให้แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดี เกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีโชคมีลาภ เจริญก้าวหน้าร่ำรวยและเป็นที่ทราบกันดีว่า วัดที่มีการจัดพิธีบูชาพระราหูอย่างยิ่งใหญ่ คลื่นมหาชนชาวพุทธแห่แหนมากราบไหว้ บูชาพระราหู ที่มีชื่อเสียงได้แก่ วัดศีรษะทอง ที่ตั้งอยู่ ตำบลศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการจัดงานเป็นประจำทุกปี ส่วนใหญ่จะเป็นเดือนธันวาคม
• พญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม
กลายเป็นแลนด์มาร์คริมฝั่งโขงของ จ.นครพนม ไปโดยปริยาย เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปด เหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้ เพราะตามความเชื่อจากบรรพบุรุษทั้งชาวไทยและชาวลาว ต่างมีความเชื่อผูกพันอยู่กับองค์พญานาค เช่นเดียวกับความผูกพันในลำน้ำโขง ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับพญาศรีสัตตนาคราช ตามความเชื่อของชาวท้องถิ่นถือได้ว่าเป็นตระกูลพญานาคที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล
photo credit: kunanon / Shutterstock.com
• ศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย จ.ตรัง
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวตรังสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 โดยเป็นความร่วมใจกันระหว่างชาวไทยเชื้อสายจีน ลูกหลานมณฑลกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน รวมถึงชาวไหหลำ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตขององค์ยุวเทพท่ามกงเยี่ย ภายในศาลเจ้า ประกอบไปด้วยจุดสักการะต่างๆ ตามแบบศาลเจ้าจีน เช่น แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาเทวดารวม แท่นบูชากลาง เป็นพระท่ามกงเยี่ย รวมถึงองค์พระต่างๆ ที่ผู้คนนับถือ จึงเต็มไปด้วยความผูกพันและศรัทธาจากชาวตรังเชื้อสายจีน รวมถึงผู้คนจากทั่วทุกสารทิศแวะเวียนมาเสมอ โดยมีความเชื่อที่เลื่องลือขององค์ยุวเทพ คือ การขอพรสำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตร หน้าที่การงาน รวมไปถึงการรักษาความเจ็บป่วย
Photo credit: jointstar / Shutterstock.com
• วัดศาลเจ้า จ.ปทุมธานี
วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ช่วยดลบันดาลความสำเร็จแก่ผู้ที่นับถือ เซียนแปะกิมเคย หรือ เซียนแปะโง้วกิมโคย ชาวจีนซึ่งย้ายมาอยู่ในเมืองไทย เป็นผู้ทรงศีลจิตใจดีเกื้อกูล เชื่อกันว่าสมัยที่ท่านมีชีวิตลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศจะขอให้ช่วยชี้แนะในเรื่อง ฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งบ้าน ห้างร้าน บริษัท ท่านก็จะช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน รวมถึงวัตถุมงคลของเซียนแปะที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก เหรียญรูปเหมือนทรงหยดน้ำ ล็อกเกตรูปเหมือน และผ้ายันต์หลายรุ่นด้วยกัน มีทั้งแบบพกติดตัว ติดหน้าบ้าน ร้านค้า อาคาร สำนักงาน เชื่อว่าสามารถเสริมพลัง อำนาจ ความบริบูรณ์มั่งคั่งให้กับผู้บูชา
photo credit: Waruto Sama Studio / Shutterstock.com
• ศาลเจ้าพ่อครุฑ จ.กรุงเทพฯ
บริเวณศาลเจ้าพ่อครุฑ มีผู้ศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมากราบไหว้บูชาและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะด้านเงินทอง โชคลาภ ขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย และปกป้องให้รอดพ้นจากไฟไหม้ ศาลแห่งนี้ตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ ชื่อว่า ‘ตรอกครุฑ’ อยู่ระหว่างถนนอัษฎางค์ (บริเวณคลองหลอด) ตัดกับถนนบูรณศาสตร์ ชาวบ้านในชุมชุนตรอกครุฑเล่าว่า เมื่อก่อนยังไม่มีศาลเจ้าพ่อครุฑ ยังไม่มีชื่อตรอกครุฑอย่างปัจจุบัน ต่อมาปรากฏว่าน้ำได้พัดพาครุฑไม้แกะสลักสีดำเมี่ยม ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นครุฑไม้ที่ติดกับหัวเรือรบสมัยโบราณพร้อมกับหัวจระเข้ 2 หัว ลอยมาตามร่องน้ำและมาหยุดอยู่ตรงบริเวณนี้ ชาวบ้านจึงนำครุฑไม้ไปประดิษฐ์ฐานเพื่อสักการะ บูชา ขอพร
photo credit: hamofking / Shutterstock.com
• ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ จ.ชลบุรี
บนพื้นที่ราว 8 ตารางกิโลเมตรของเกาะสีชัง ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นบริเวณปากอ่าว อันเป็นบริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลอ่าวไทย และทะเลหลวงภายนอก ไม่เพียงมีพระราชฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างพระราชวังจุฑาธุชราชฐานเท่านั้น แต่ยังมีชุมชนและแหล่งหลอมรวมจิตใจผู้คน อย่างศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่โดดเด่นมาแต่ไกลเมื่อมองมาจากในฝั่งทะเล ตั้งอยู่บนยอดเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถานที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย เป็นที่เคารพสักการะของชาวประมงที่ต้องมาไหว้ขอพรให้ปลอดภัยและหาสัตว์น้ำได้ไร้อุปสรรค จากบริเวณศาลมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจนจึงเป็นทั้งศูนย์รวมความศรัทธาและสถานที่ท่องเที่ยวได้ในที่เดียว
• พญาเต่างอย จ.สกลนคร
พญาเต่างอย ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะอำเภอเต่างอย ริมลำน้ำพุง จังหวัดสกลนคร พญาเต่างอย ถูกกล่าวขึ้นราว 400 ปีโดยไทยได้ทำสงครามกับลาว คนลาวพ่ายแพ้จึงถูกกวาดต้อนมาอยู่ในศไทย เมื่อเดินทางมาถึงลำน้ำพุง ซึ่งเป็นลำน้ำขนาดใหญ่ และมีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก คนในสมัยก่อนเห็นว่าบริเวณนี้น่าจะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย จึงได้ตั้งถิ่นฐานขึ้นโดยตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านเต่างอย” ต่อมามีการสร้างรูปปั้นเต่ายักษ์ไว้เป็นสัญลักษณ์ ที่ล้อมรอบด้วยรูปปั้นพญานาค และเต่าบริวารขนาดเล็กหลายตัว ลักษณะสำคัญของพญาเต่างอยคือเป็นเต่าขนาดใหญ่ เกล็ดบนหลังรูปพระเกจิอาจารย์ประดับตกแต่ง บนหลังพญาเต่างอยประดับดอกบัวปั้น ในดอกบัวมีสร้อยทอง พระ ของขลังต่างๆ บรรจุไว้พร้อมฉาบปิดแน่นหนา โดยผู้ที่ใส่เครื่องรางของขลังเหล่านั้นเชื่อว่าจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และเชื่อว่าหากใครได้มาสักการะบูชาจะทำให้อายุยืนมีโชคมีลาภกลับไป
