About
DETOUR X Phang Nga

Sea Sand Sun

เกาะผ้า สันหลังมังกรที่เป็นมรดกธรรมชาติจากสึนามิ

เรื่อง เปรมวดี ปานทอง Date 07-10-2020 | View 4233

เมื่อความสุขของใครบางคนคือการอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ ที่หวนให้นึกถึงความทรงจำครั้งก่อน ขณะที่บางคนพึงใจกับการมองเห็นความงามทางธรรมชาติ ที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และดูเหมือนว่า เกาะเล็กๆ ในจังหวัดพังงานามว่า “เกาะผ้า” จึงถูกจัดลำดับความน่าสนใจให้อยู่ในประเภทหลัง

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • เกาะผ้า เป็นส่วนหนึ่งของเกาะคอเขา เดิมเป็นจุดพักผ่อนของชาวประมงพื้นบ้าน แต่เมื่อสึนามิจบลง จึงเหลือเพียงเนินทรายกลางทะเล ที่โผล่พ้นน้ำให้นักท่องเที่ยวลุ้นมองตามจังหวะน้ำขึ้นน้ำลง
  • จุดเด่นของเกาะผ้าอยู่ตรงความเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เหมาะสำหรับเที่ยวแบบครอบครัว และพลาดไม่ได้เลยกับกิจกรรมดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่เหมาะกับมือใหม่
  • ว่ากันว่า อีก 15 ปีนับจากนี้ เนินทรายที่ธรรมชาติเหลือไว้ให้ชมต่างหน้า จะมลายหายไปตามจังหวะคลื่นที่ซัดสาดในทุกๆ ปี

เกาะผ้า 1

มหัศจรรย์สันทราย สิ่งที่ธรรมชาติเหลือไว้หลังสึนามิ

ภาพมุมสูงที่มองเห็นเป็นสันทราย หรือเรียกอีกอย่างว่า “สันหลังมังกร” โผล่พ้นอยู่กลางน้ำทะเลสีครามชวนน่าค้นหา คงเคยผ่านตาใครมานักต่อนัก แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า เกาะผ้า ในอดีตเคยมีต้นสนและจิกทะเลนับสิบต้น ตั้งเรียงรายให้ร่มเงาอยู่กลางเกาะ มีเหล่าผักบุ้งทะเลแต่งแต้มสีสันโดยรอบเหมือนชายหาดทั่วไป อยู่บนพื้นที่กว่า 3-4 ไร่ ซึ่งสามารถปักหลักตั้งแคมป์ได้สบายๆ

ด้วยระยะห่างจากแหลมทับแขก ซึ่งเป็นจุดใกล้สุดไม่ถึง 2 กม.จากฝั่ง เกาะผ้าถือเป็นส่วนหนึ่งของเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สามารถมองเห็นได้จากฝั่ง และถูกใช้เป็นจุดพักผ่อน หุงหาอาหารของชาวประมงพื้นบ้านเมื่อออกทะเล อาศัยเป็นเกราะกำบังใช้หลบคลื่นลมยามมรสุม แต่หลังเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 ทุกอย่างบนเกาะได้ถูกกวาดหายไปพร้อมกับคลื่นยักษ์ เหลือเพียงเนินทรายกลายร่างออกเป็น 2 หรือ 3 เนินโผล่เหนือน้ำตามเวลาน้ำขึ้นน้ำลง

สันทราย พังงา

สันทราย

 

ทุกวันนี้ เรือประมงพื้นบ้านจากเกาะคอเขาและชาวบ้านใกล้เรือนเคียง ยังคงแวะเวียนไปเยือนไม่ขาดสาย

หากแต่เปลี่ยนจากวิถีดั้งเดิมที่คุ้นตามาเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากหาดทรายธรรมดากลายเป็นทรายขาวละเอียดเหมือนผงแป้งกลางเกาะ ล้อมรอบไปด้วยเม็ดทรายหยาบปนเปลือกหอยหลากชนิด ที่ถูกพัดพามารวมกันหลังสึนามิสงบลง ท่ามกลางน้ำใสและวิวทะเลสวยแบบพาโนรามา

จุดดำน้ำตื้น เปิดโลกกว้างให้กับมือใหม่ Snorkeling

นอกจากความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งใช้เวลา 40 นาทีจากท่าเรือน้ำเค็มที่มีระยะห่างประมาณ 10 กม. บรรยากาศที่สงบเงียบราวกับอยู่บนเกาะส่วนตัว ยังเป็นไฮไลท์สำหรับใครที่ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย เนื่องจากยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนสิมิลันหรือสุรินทร์ สำหรับกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาถึงถิ่นคือ การดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเส้นทางท่องเที่ยว ณ เกาะแห่งนี้

โดยเรือไม้ประมงพื้นบ้านที่ถูกดัดแปลงเป็นเรือข้ามฟากและนำเที่ยว จะพาออกจากเกาะ เพียงไม่นานก็ถึงจุดดำน้ำตื้น ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด โดยจุดแรกเป็นแหล่งของฝูงปลานีโม่และปลาสวยงามนานาชนิด ส่วนอีกจุดมีความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังน้อยใหญ่ หลากรูปร่าง หลายสีสันมากกว่า

ดำน้ำ เกาะผ้า

 

ดำน้ำ เกาะผ้า 2

ความหลากหลายของปะการังและสิ่งมีชีวิตในโลกใต้น้ำของที่นี่ อาจไม่ถึงกับร้อง “ว้าว” ได้เท่ากับเกาะเซเลบพังงา หลังบางส่วนได้รับความเสียหายจากสึนามิ แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไม่แรงนัก จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับมือใหม่หัดดำน้ำ และการเที่ยวแบบครอบครัว

รีบไปโดน ก่อนจะไม่เหลือให้ดู

ลักษณะทางธรณีวิทยาของเกาะแห่งนี้ เป็นเพียงเนินทรายที่พร้อมจะแปรเปลี่ยนไปตามจังหวะคลื่นซัดสาดในทุกๆ ปี ทำให้เกาะผ้าไม่เคยหยุดอยู่ที่(ภาพ)เดิม มิหนำซ้ำยังเดินหมุนไปตามรอบปีหรือ 365 วัน หากมองด้วยสายตาอาจดูไม่รู้ แต่เมื่อได้พิสูจน์ด้วยการใช้เทคโนโลยี GPS แล้ว จะพบว่าจุดที่ปักหมุดไว้ในปีนี้ จะถูกเคลื่อนย้ายออกไปเสมอในปีหน้า ยืนยันการทดสอบมาแล้วโดยคนท้องถิ่น

นั่นจึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า “รีบไปโดน ก่อนจะไม่เหลือให้ดู” ซึ่งกำลังถูกพูดถึงถี่ขึ้นในช่วงหลัง ด้วยความหวั่นวิตกว่าชื่อของ “เกาะผ้า” อาจเหลือเพียงแค่ภาพจำให้คนรุ่นหลังได้จินตนาการ ไม่ใช่แค่ถูกกลืนหายลงท้องทะเลชั่วครั้งชั่วคราวในช่วงน้ำใหญ่ 15 ค่ำ และโผล่กลับมาเหมือนเดิมเมื่อน้ำลงอีกต่อไป

เมื่อลองถามเล่นๆ ว่าสันหลังมังกรแห่งนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน คำตอบที่ได้ยินจากการประเมินตามวิถีทะเลนั้นอาจทำให้คนฟังใจหาย เพราะมันอาจเกิดขึ้นภายใน 15 ปีนับจากนี้ไป! สุดท้ายแล้วถ้าวันนั้นมาถึง คงไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้ แต่สิ่งที่นักเดินทางทุกคนช่วยกันได้ในเวลานี้ คือเที่ยวอย่างรับผิดชอบและมีจิตสำนึก เพื่อให้เกาะแห่งนี้ยังคงความสวย สะอาดตาคู่ทะเลอันดามันไปตราบนานเท่าที่ธรรมชาติจะกำหนด

เกาะผ้า 3

Note to know

  • การเดินทางไปเกาะผ้านิยมขึ้นที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม มีเรือประมงพื้นบ้านคอยให้บริการ ราคาเหมาลำเริ่มต้น 2,500 บาท นั่งได้สูงสุด 8 คน หรือใช้บริการทัวร์ในท้องถิ่น
  • ขนาดและความสวยของเกาะ ขึ้นนอยู่กับช่วงน้ำขึ้นน้ำลง โดยช่วงน้ำตายหรือน้ำลงต่ำสุด สามารถเดินได้ถึงกัน 2 เนิน (ทะเลแหวก)
  • ตามปฏิทินท่องเที่ยว ไม่มีช่วงปิดเกาะ แต่เหมาะจะเดินทางไปช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทาง

ขอบคุณภาพจาก Khaolak Wonderland Tour

Tags: