About
RESOUND

อารมณ์สีม่วงทั้งหมดของฉัน

อัลบั้มสีม่วงและความฝันของวง Landokmai ดูโอ้หญิงที่เชื่อว่าอายุ 30 จะเท่กว่านี้แน่นอน

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • อัลบั้มแรกและคอนเสิร์ตแรกในขวบปีที่ 6 ของวง Landokmai (ลานดอกไม้) ดูโอ้หญิงที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ระหว่างได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศในตอนนี้ กับไปตอนอายุ 30 อันไหนจะเท่กว่ากัน

ถ้าหากไปถามใครว่า เพลงรักเพลงแรกที่คุณฟังคือเพลงอะไร เชื่อว่าคนคนนั้นต้องมีระลึกชาติค้นหาคำตอบกันไปข้าง บางคนอาจจำได้ แต่หลายคนคงยากที่จะนึกออก

แต่ถ้าพูดถึง ‘เพลงรักเพลงแรก’ นอกจากเป็นชื่อเพลงที่หลายคนคุ้นหูแล้ว มันยังตามมาด้วยเจ้าของบทเพลงที่มีชื่อวงอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครอย่าง ‘Landokmai’ (ลานดอกไม้) ของดูโอ้หญิงเสียงหวานกับดนตรีชวนฟุ้งฝัน อูปิม-ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง (ร้องนำ) และ แอนท์-มนัสนันท์ กิ่งเกษม (กีตาร์, คอรัส)

นับตั้งแต่วันที่เริ่มร้องเพลงคัฟเวอร์ ‘อาวรณ์’ ของ Polycat ลงในยูทูบ เส้นทางศิลปินของพวกเธอก็ดำเนินมากว่า 6 ปี จนเมื่อไม่นานมานี้ที่อูปิมรู้ตัวว่า เพลงที่เธอแต่งมาเรื่อยๆ สามารถรวมกันเป็นอัลบั้มได้แล้ว และสีที่บ่งบอกช่วงชีวิตที่ผ่านมาผ่านบทเพลงเหล่านั้นได้ดีที่สุดเห็นจะเป็น ‘สีม่วง’ นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่อัลบั้มแรกของพวกเธอมีชื่อว่า ‘All My Purple Feeling’

พร้อมๆ กันนั้นพวกเธอก็พึ่งประกาศคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชื่อ ‘ฤดูฝัน คอนเสิร์ต’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ที่ Centerpoint บางนา ผมเลยถือโอกาสนี้มาพูดคุยกับทั้ง 2 คน ถึงความพร้อมและความฝันในการมีอัลบั้มและคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง

พวกเธอบอกกับผมอย่างติดตลกว่า จริงๆ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพร้อมหรือยัง เพราะคนที่เตรียมความพร้อมให้คือค่ายที่บอกว่าต้องมีแล้ว แต่ถ้าให้ตัวเองเป็นคนตัดสินใจความพร้อม คงมีอีก 2 ปีเป็นอย่างน้อยแน่นอน

แต่ไปๆ มาๆ การพูดคุยกันครั้งนี้กลับมีอัลบั้มและคอนเสิร์ตเป็นแค่ตัวเปิด เพราะสิ่งที่อยู่ในใจของทั้งสองคนคือ ช่วงอายุ 30 เราจะเป็นยังไงกัน เราจะมีแรงเหมือนตอนนี้ไหม เราจะทำเพลงง่ายขึ้นกว่าตอนนี้หรือเปล่า และถ้าไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศตอนอายุ 30 มันจะเท่กว่าไปตอนนี้ไหมนะ

Landokmai

‘Welcome to My Purple Story’

นอกจากร้องเพลงแล้ว อะไรคือสิ่งที่พวกคุณอยากทำที่สุดในคอนเสิร์ต ‘ฤดูฝัน’

อูปิม : คิดวาดฝันมาตลอดเลยว่า อยากขึ้นไปนั่งหรือยืนร้องเพลงบนแกรนด์เปียโน น่าจะเท่ดี แต่เพลงของลานดอกไม้ไม่จำเป็นต้องมีแกรนด์เปียโน เลยดับฝันนั้นไป เดี๋ยวไปยืนที่อื่นแล้วกัน

แอนท์ : หนูอยากเดินไปหาเพื่อน แล้วเล่นกีตาร์ตรงนั้น ปกติไม่ค่อยได้ทำเพราะติดสายแจ๊ก

รู้สึกยังไงที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองครั้งแรก

อูปิม : ตื่นเต้นมากค่ะ เรารอที่จะมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองมาตลอด แต่ก็กดดัน แล้วก็เครียดนิดนึงด้วย เพราะกลัวทำมันออกมาไม่ดี

แอนท์ : สำหรับหนู การมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกก็กดดันใช้ได้เลยนะ

Landokmai

รับมือกับความกดดันนั้นยังไง

อูปิม : ต้องฝึกซ้อมกันเยอะมาก โดยเฉพาะการออกกำลังกาย

แอนท์ : ปกติเวลาขึ้นโชว์ 1 ชั่วโมง เราสามารถทำได้โดยที่ท้ายชั่วโมงจะเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่ทีนี้พอเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการอยู่บนเวทีและทำการแสดง พวกเราเลยรู้ตัวว่า โอเค ร่างกายนี้ไม่น่ารอด ช่วงนี้ก็เลยอยู่ในช่วงออกกำลังกายค่ะ

อูปิม : หนูพยายามเตรียมงานและเตรียมตัวให้ไม่มีข้อผิดพลาดเลยค่ะ จริงๆ กับอัลบั้มเองก็เหมือนกัน สิ่งที่หนูกลัวที่สุดคือ การทำออกมาแล้วมันไม่ดี เพราะฉะนั้นหนูจะไม่ปล่อยให้อะไรผ่านไปถึงจุดที่เรียกว่าผิดพลาดเลย ถ้าสามารถทำทุกอย่างให้เพอร์เฟกต์ได้หมด หนูว่าหนูจะต้องเก่งขึ้นแน่ๆ

ตอนไหนที่รู้ตัวว่า เราพร้อมแล้วที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเอง

แอนท์ : เอาจริงๆ เราไม่ได้รู้เองด้วยซ้ำ (หัวเราะ)

อูปิม : พวกหนูไม่รู้เลยนะว่า ตัวเองพร้อมแล้วจริงๆ เหรอ แต่ค่ายบอกว่าต้องมีแล้วล่ะ

แอนท์ : ตอนฟังครั้งแรกหนูก็ หะ! เอาเลยเรอะ โอเค งั้นลองลุยกัน

Landokmai

ถ้าค่ายไม่บอก คิดว่าตัวเองจะพร้อมกันจริงๆ ตอนไหน

แอนท์ : คงอีกสัก 2 ปีมั้งคะ (หัวเราะ) ตอนนี้คิดว่ามันน่าจะเป็นจุดที่โอเคที่สุดที่เราคิดได้ ส่วนหนึ่งเพราะการได้ออกอัลบั้มแรกด้วย

พวกคุณใช้เวลาในการทำอัลบั้มนี้นานแค่ไหน

แอนท์ : ปีครึ่งเกือบๆ จะ 2 ปี ถ้านับจากเพลงแรกที่เราเริ่มทำ

อูปิม : จริงๆ หนูก็ทำไปเรื่อยๆ ไหลไปเรื่อยๆ ตามเวลาค่ะ จนมาสรุปได้ว่า มันสามารถรวมกันเป็นอัลบั้มได้แล้วนะ แต่ละเพลงมีอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกันอยู่ ก็เลยได้เป็น ‘All My Purple Feeling’

Landokmai

ทำไมต้องสีม่วง

อูปิม : หนูไม่รู้จะอธิบายมวลพวกนี้ยังไงดี มันคือมวลอะไรสักกะอย่างที่อยู่ในเพลง เพราะเวลาหนูฟังเพลง หนูจะเห็นเป็นสี เห็นเป็นบรรยากาศ เห็นเป็นกลางวันกลางคืน ฉะนั้นพอมาพิจารณาเพลงที่เราแต่งขึ้นมาทั้งหมด ช่วงชีวิตที่ผ่านมา สีที่ครอบคลุมอยู่คือ ‘สีม่วง’ ค่ะ

แล้วเรามองตัวเองเป็นสีอะไร

อูปิม : พวกหนูเล่นเกมนี้กันบ่อยมาก

แอนท์ : เวลาเราเจอใครใหม่ๆ เราก็จะมองเขา แล้วคิดกันว่าคนนี้สีอะไร

อูปิม : มันเป็นความรู้สึกแรก กับออร่าที่คนนั้นแผ่ออกมาค่ะ แต่ถ้าเกิดได้คุยกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะรู้สึกว่าคนคนนั้นไม่ใช่สีเดิมที่เห็นตอนแรกแล้วก็ได้

อูปิมมองแอนท์เป็นสีอะไร

อูปิม : สีน้ำตาลค่ะ น้ำตาลแดงก่ำ สีที่มีความสุขุมเป็นผู้ใหญ่

แล้วแอนท์ล่ะ

แอนท์ : ม่วงฟ้าอ่อนๆ อูปิมชอบสีนี้ค่ะ จริงๆ ถ้าจะเป็นม่วงอย่างเดียวก็ได้นะคะ แต่รู้สึกว่าแซมฟ้าแล้วดูเป็นอูปิมมากกว่า

Landokmai

ในการทำอัลบั้มครั้งนี้ แอนท์ยังเตือนอูปิมเกี่ยวกับการแต่งเพลงอยู่ไหม

อูปิม : ไม่ค่อยแล้วค่ะ หนูรู้สึกว่าหลังๆ มานี้แอนท์น่าจะอยากเท่ขึ้น ไม่ใช่ว่าการทำเพลงให้คนอื่นฟังได้มันไม่เท่นะคะ แค่แอนท์ดูอยากจะทำอะไรที่มันเท่ๆ ขึ้นมา ซึ่งแต่ก่อนหนูจะเป็นพวกเท่ …เราพูดแบบนี้ได้เปล่าวะ

แล้วแอนท์พึ่งมาพูดกับหนูว่า เซนส์การเขียนเพลงของหนูเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเขียนเพลงได้ง่ายขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอเป็นอย่างนั้นแอนท์ก็เลยไม่ต้องทำดนตรีให้มันง่ายมาก

แอนท์ : อย่าง ‘B-D-BUB-BA’ เราใช้เวลาทำกันนานมากๆ กินเวลาไปหลายเดือน เพราะมันเป็นเพลงแรกที่เริ่มทำกันเองแบบไม่มีคนช่วยด้วย แต่ก็เป็นเพลงที่เจ๋งมาก พอเรากลับมาฟัง รู้สึกว่า หูว… แม่งเท่ดีว่ะ (หัวเราะ) ไม่มีใครห้ามใครเลยอัลบั้มนี้

อูปิม : แล้วก็ยอดวิวน้อยมาก แต่ว่าได้เท่

แอนท์ : เอาไปทัวร์ต่างประเทศแล้วเท่ ภูมิใจ

Landokmai

ตอนไหนที่แอนท์เห็นว่าเซนส์การเขียนเพลงของอูปิมเปลี่ยนไป

แอนท์ : น่าจะช่วงเพลง ‘ยอม’ (White Flag) เพลง ‘เมื่อไหร่ที่คิดถึงเธอ’ (Echo) นี่แหละค่ะ ถ้าเป็นอูปิมเมื่อก่อนคงเขียนออกมาไม่ได้แบบนี้ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะคะ แค่มันง่ายขึ้นเยอะมากๆ ถ้าเทียบกับเพลงอื่น

เล่าถึงการเขียนเพลง ‘ยอม’ (White Flag) ให้ฟังหน่อย

อูปิม : เอาจริงๆ นะ เพลงยอมเป็นเพลงที่หนูแต่งให้คนอื่น หนูมักเห็นเพื่อนๆ มี Bad Day จากที่ทำงาน หรืออาจจะทะเลาะกับแฟน แล้วบางทีคงอยากให้ใครสักคนยอมเขา หนูว่ามันเป็นสีสันของชีวิตคู่ที่บางทีเราก็อยากจะงอแง มันน่าจะมีอยู่ในความสัมพันธ์ของทุกคน ก็เลยเขียนเพลงนี้ออกมา โดยคิดว่ามันน่าจะจับใจคนได้

ขอเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มมาคนละ 1 เพลง

อูปิม : ‘ในวันพรุ่งนี้ขอให้เป็นวันที่’ (Nomad’s Lullaby) รู้สึกว่าถ้าวันนี้อยากจะฟังเพลงอะไรจะเลือกเพลงนี้

แอนท์ : แอนท์ยังให้เป็น ‘I miss you when I’m drunk’ ยังชอบอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอีก 3 เดือน หนูจะชอบไหมนะ เริ่มเล่นบ่อยละ (หัวเราะ)

Landokmai

‘ฤดูฝัน’ (Deizzle)

เห็นพูดถึงทัวร์ต่างประเทศ ได้ยินมาว่าอยากทำเพลงสากลกันมากๆ

แอนท์ : เดี๋ยวจัดเป็นอัลบั้มเลยค่ะ

อูปิม : เอาเพลงไทยให้รอดก่อน

แอนท์ : แต่ว่าในชีวิตนี้ทำแน่ๆ ค่ะ

อูปิม : ปิมมองไว้เป็น EP (Extended Play) อัลบั้มประมาณ 3-4 เพลง คอนเซปต์เล็กๆ น่ารักๆ เหมือนเป็นของขวัญให้แฟนคลับ

แอนท์ : ไม่แน่เราในวัย 30 อาจจะอยากทำเป็นอัลบั้มจริงจังก็ได้

อูปิม : เออว่ะ กูจะ 30 แล้วนี่หว่า

แอนท์ : มึงพึ่ง 25! ใจเย็น

อูปิม : ก็เหลืออีกไม่กี่ปีจะ 30 แล้ว

แอนท์ : อีกตั้งครึ่งนึง โอ๊ย

Landokmai

มองตัวเองตอนอายุ 30 ไว้ยังไงบ้าง

แอนท์ : เอ้ย (หันไปหาอูปิม) เรื่องนี้ไม่รู้ได้คุยกับมึงยัง กูคุยกับเพื่อนแล้วคิดๆ กันว่า ระหว่างพวกเราไปต่างประเทศกันตอนนี้ กับไปตอนที่เราอายุประมาณ 29-30 อันไหนมันเท่กว่ากัน

ถ้าเป็นตอนนี้ หนูว่ามันยังดูเด็กเกินไปที่คนจะมาเชื่อในสิ่งที่เราทำ ก็เลยคิดว่า ถ้าช่วงอายุใกล้จะ 30 ได้ทำเพลงสากล แล้วเราไปทัวร์ต่างประเทศในลุคที่โตกันแล้ว มันจะดูน่าเชื่อมากกว่าหรือเปล่า

อูปิม : ไม่เกี่ยวหรอก สำหรับกูมันเกี่ยวกับผลงานและสิ่งที่เราสื่อออกไป ลิซ่าก็อายุเท่าเรา

แอนท์ : ลิซ่าเขาแก่กว่าเราค่า

อูปิม : อ้าว แต่ก็แก่กว่าเราปีเดียวไง

แอนท์ : 2 ปี

อูปิม : เอ้า มิลลิเด็กกว่าเรา แต่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อได้

แอนท์ : มันก็แอบคนละแนวนะ

Landokmai

แล้วพวกคุณคิดว่าไปตอนอายุเท่าไหนเท่กว่ากัน

แอนท์ : สำหรับหนู หนูชอบความโต อะไรสักอย่างในตอนที่เราอายุใกล้จะ 30 มันน่าจะต่างกับตอนนี้ แต่ถ้าไปตอนนี้ หนูว่ามันน่าจะเป็นความเฟรชมากกว่า

อูปิม : แน่นอนว่าด้วยลุคตอนที่เราโตขึ้น ตอนนั้นเวลาเราร้องเพลง คนอาจจะคิดว่า “ดูหยั่งรู้จัง”

แอนท์ : “ดูผ่านโลกมาเยอะจัง”

อูปิม : แต่เอาจริงๆ หนูอยากสนุกค่ะ หนูรู้สึกว่าไปตอนนี้มันน่าจะบ้าดี น่าจะมีแรงลุย

แอนท์ : มึง 30 ก็ยังมีแรง (หัวเราะ) พึ่ง 25 ไม่กี่เดือนเอง อย่าพึ่งรีบดิ!

อูปิม : ตอนนั้นกลับถึงห้องกูอาจจะ โอ๊ย ง่วงนอน กินเบียร์ หลับเลย

Landokmai

คิดว่าพวกคุณในวัย 30 ปี จะรู้สึกยังไงเมื่อมองย้อนกลับมามองอัลบั้มนี้

แอนท์ : หนูต้องคิดว่า “ทำไมตัวเองทำอะไรเยอะแยะจังวะ” แน่เลย

อูปิม : นั่นดิ ลานดอกไม้เป็นวงที่ Element ในเพลงเยอะมากค่ะ เพราะว่าพวกเราจะยัดทุกอย่างใส่เข้าไป กลองก็ยาก เปียโนก็ยาก เบสก็ยาก กีตาร์ก็แกะยาก เมโลดี้ร้องก็ยังยากอีก ทำอะไรยุบยับไปหมด แต่คิดว่าตอนอายุ 30 พวกเราคงเริ่มทำอะไรน้อยๆ หรือไม่เราอาจจะทำเยอะขึ้นก็ได้นะ

แอนท์ : ไม่มีทาง

Landokmai

‘ในวันพรุ่งนี้ขอให้เป็นวันที่ดี’ (Nomad’s Lullaby)

เห็นด้วยไหมกับคำพูดที่ว่า อาชีพศิลปินมีอายุงานที่สั้นมาก

อูปิม : เห็นด้วยมากค่ะ หนูว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีศิลปินคนไหนที่จะอยู่ยงคงกระพัน จะมีแต่งานของเขาที่จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่เพลงใหม่ๆ ศิลปินหน้าใหม่ๆ เองก็เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งหนูก็คิดไว้แล้วแหละ อาจไม่ถึงขั้นวางแผน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่พอแล้วกับตรงนี้ เราก็จะไปทำความฝันอื่นๆ ที่อยากทำ

ความฝันนั้นคืออะไร

อูปิม : หนูอยากเป็นนักเขียน เป็นอะไรที่ตอนนี้เราไม่มีเวลาหรอก เราไม่มีเวลามา (ทำท่าพิมพ์กับโต๊ะ)

แอนท์ : ส่วนหนูเป็นคนประเภทชอบคิดแผนสำรองไว้อยู่แล้ว แต่ก็คงจะยังอยู่ในอุตสาหกรรมดนตรี เพราะว่าหนูแฮปปี้กับพื้นที่ตรงนี้ที่สุดแล้ว

Landokmai

ทุกวันนี้อะไรที่ทำให้วงลานดอกไม้ยังคงมี ‘ความฝัน’ อยู่

อูปิม : แฟนคลับค่ะ

แอนท์ : เมื่อไม่นานมานี้พึ่งมีโอกาสได้อ่านจดหมายของแฟนเพลง เขาเอามาให้ปึกนึง

ปึกนึงเลยเหรอ

อูปิม : ใช่ค่ะ เป็นไดอารีเลยค่ะ มีเขียนวันที่บันทึกไว้เลย

แอนท์ : เรารู้สึกตกใจมากแบบ เฮ้ย มีคนที่รักเราขนาดนี้เลยเหรอ เรามีค่าสำหรับพวกเขานะ เพลงของเรามันเปลี่ยนชีวิตคนได้นะ มันทำให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้นะ นี่แหละที่ทำให้ปิมยังรู้สึกมีความฝันที่อยากจะทำเพลงที่เปลี่ยนชีวิตคนได้-ไปเรื่อยๆ ให้กำลังใจเขาไปเรื่อยๆ และอยู่เป็นเพื่อนเขาไปเรื่อยๆ

Landokmai

แล้วสำหรับคนที่มีความฝัน พวกคุณเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คนที่สมหวัง’ ได้แล้วหรือยัง

แอนท์ : สมหวังค่ะ (ตอบทันที) ถ้าหนูเมื่อประมาณสัก 6 ปีที่แล้วได้เห็นจุดที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้คงมีช็อกอะค่ะ

แอนท์ที่สมหวังอยากบอกอะไรกับอูปิมในวันข้างหน้าไหม

แอนท์ : อูปิม ยังไงเราก็หลีกเลี่ยงความผิดพลาดไม่ได้อยู่แล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือ เราต้องเวิร์กกับความผิดพลาดนั้นต่อไป เพื่อให้อนาคตมันผิดพลาดน้อยลง

อูปิมล่ะ

อูปิม : หนูจะบอกแอนท์ในวันข้างหน้าว่า ไม่เป็นไร เพราะว่าพวกเราผ่านความผิดหวังกันมาเยอะมาก ในวันข้างหน้าที่อายุ 30 พวกเราน่าจะมีภูมิคุ้มกัน และน่าจะรับมือกับความผิดหวังได้ดีกว่าด้วย คงไม่ได้คาดหวังมากเท่าสมัยเด็กๆ แต่ถ้ามันไม่ดีกว่าก็ไม่เป็นไรค่ะ เริ่มกันใหม่

Landokmai

คำถามสุดท้าย ถ้าอูปิมไม่ได้ชื่อจริงว่า ‘ลานดอกไม้’ คิดว่าวงจะชื่ออะไร

แอนท์ : คงไม่ชื่อมนัสนันท์แน่นอน

อูปิม : ปิมรู้สึกว่ามันต้อง Flower แบบว่า สวัสดีค่ะ พวกเราวง Flowery ค่า (หัวเราะ)

แอนท์ : กูไม่ให้ผ่านอะตอนนั้น

อูปิม : วงมนัสนันท์ปะล่ะ

แอนท์ : กูบอกแล้วว่ามันคงไม่ใช่มนัสนันท์แน่นอน

สำหรับใครที่อยากฟังเพลงเตรียมตัวก่อนไปคอนเสิร์ต สามารถติดตามวง Landokmai ได้ที่
FB: LANDOKMAI
IG: landokmaiband
Spotify: LANDOKMAI

Tags: