Madrid Art Break
Madrid City Break : 9 พิพิธภัณฑ์คูลๆ ส่งให้มาดริดกลายเป็น The City of Art
- อาร์ตเลิฟเวอร์ต้องถูกใจ เพราะเราจะพาเดินชมพิพิธภัณฑ์ในมาดริด เมืองหลวงของสเปนที่มากด้วยศิลปะ เพียงแค่เดินบนท้องถนนก็พบเจอสตรีทอาร์ตกลางแจ้ง หรือพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมสุดโดดเด่นมากกว่า 70 แห่ง ซึ่งทำให้มาดริดกลายเป็น The City of Art
- แม้ว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่งมีอายุมากกว่า 100 ปี ก็ไม่ได้การันตีว่าจะเป็นสถานที่ที่ร้างผู้คน กลับกันด้วยจำนวนเข้าชมที่ล้นหลาม เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความงามของศิลปะและวัฒนธรรมยังคงเป็นส่วนหนึ่งต่อการดำรงชีวิตและการเสริมสร้างคุณค่าที่ดีทางจิตใจของมนุษย์ตลอดกาล
เว็บไซต์ forbes.com ได้เผยแพร่แนวคิดและคำพูดของ Katherine Cotter นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียถึงข้อดีของการเดินชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะไว้ว่า
“เราอาจหลงลืมเวลาหรือหมกมุ่นอยู่กับงานบางอย่างในชีวิตประจำวันของเรา ดังนั้นพิพิธภัณฑ์จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถมอบประสบการณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอารมณ์เชิงบวกหรือรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นผ่านการดูงานรูปแบบต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการครุ่นคิดและไตร่ตรองที่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตของเราในแบบที่แตกต่างออกไป ทั้งยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับตนเอง ช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว ”
เพราะข้อดีของการเสพอาร์ตที่มีมากขนาดนี้ เราจึงอยากพาทุกคนวาร์ปมาเที่ยวทิพย์กับ 9 พิพิธภัณฑ์ เมืองมาดริด ประเทศสเปน เมืองที่ส่งเสริมวัฒนธรรมและศิลปะมาอย่างยาวนาน ด้วยจำนวนพิพิธภัณฑ์ที่มีมากกว่า 70 แห่ง จนทำให้มาดริดนั้นเหมาะกับการรวมตัวของสาวกงานอาร์ตไว้มากที่สุด
photo credit : Only Fabrizio / Shutterstock.com
Centro De Arte Reina Sofía
ครั้งหนึ่งที่แห่งนี้เคยเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลในศตวรรษที่ 18 ก่อนถูกปิดตัวลงในปี 1969 ตัวอาคารจึงถูกก่อสร้างและพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะโดยใช้ชื่อของสมเด็จพระราชินีโซเฟีย และยังถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสเปนที่รวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายแขนงทุกยุคทุกสมัย ทั้งยังเน้นไปที่คอลเลคชั่นของศิลปินร่วมสมัยช่วงศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงปี 1980 รวมผลงานทั้งหมดของที่นี่แล้วกว่า 22,400 ชิ้น
ประเทศสเปนยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรเอกระดับโลกอย่าง Pablo Picasso ซึ่งนี่ล่ะที่ถือเป็นส่วนสำคัญที่พลาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะได้เดินชมผลงานอื่นๆ ของเขาแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่เก็บภาพวาดสีน้ำมันบนผ้าใบในชื่อ ‘Guernica’ ผลงานยอดฮิตตลอดกาลของเขาที่แสดงให้เห็นถึงชิ้นส่วนของมนุษย์และสัตว์สะท้อนความเจ็บปวดของการสังหารหมู่ในสงคราม
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเก็บรักษาผลงานของศิลปินระดับโลก อาทิ Salvador Dali , Pablo Gargallo, Eduardo Chillida เป็นต้น ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีห้องสมุดที่เปิดให้บริการให้ผู้ชม ด้วยหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับงานศิลปะกว่า 100,000 เล่ม ซึ่งสามารถยืมกลับไปอ่านที่บ้านได้
Contact
ที่อยู่ : Calle de Santa Isabel, 52, 28012 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.museoreinasofia.es/en
Photo credit : Joseph Sohm / Shutterstock.com
• Museo Del Prado
นักเสพศิลปะตัวยงเกือบทุกคนต้องเคยเล็งที่นี่เพื่อไปให้ได้สักครั้งแน่นอน เพราะ Museo Del Prado เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ทรงคุณค่าตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด ซึ่งติดอันดับพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และนับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก
ที่นี่แต่เดิมเป็นเพียงอาคารที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1785 ตามคำสั่งของกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 มีสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดทั้งรูปปั้นประติมากรรม เสาในรูปแบบโรมันซึ่งออกแบบโดยสถาปนิก Juan Villanueva ต่อมาในยุคกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 7 ได้แต่งตั้งอาคารแห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์จิตรกรรมและประติมากรรม ในชื่อ National Museum of Paintings and Sculptures และภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Museo Del Prado พร้อมกับเปิดให้ประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้
Museo Del Prado โดดเด่นในเรื่องของการรวบรวมงานศิลปะสะสมส่วนพระองค์ของราชวงศ์สเปนมาตั้งแต่ศตวรรษที่12 มาจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ที่นี่ยังรวบรวมผลงานศิลปะชิ้นเอกของโลกของศิลปินมีชื่อเสียงเช่น Titian, Botticelli, Rubens, Bosch, Dürer และจุดที่เป็นไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือการรวบรวมคอลเลคชั่นงานศิลปะของศิลปินดังอย่าง Velázquez มาจัดแสดงไว้ที่นี่ และผลงานของ Francisco de Goya กับภาพผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ชาวสเปนร่วมกันต่อต้านกองทัพนโปเลียนในสงครามเพนนินซูลาร์ช่วงปี 1808 ซึ่งแสดงให้เห็นความโหดร้าย ทารุณ ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งทำให้ผลงานของโกยาเป็นที่พูดถึงมากที่สุด
ทางเข้า Museo Del Prado จะอยู่บริเวณทางตะวันออกของ Puerta de los Jerónimos ซึ่งจะมีตั๋วจำหน่ายอยู่ เมื่อเข้าไปแล้วก็สามารถหยิบแผนที่ฟรีจากจุดขายตั๋วหรือโต๊ะประชาสัมพันธ์ได้เลย ในแผนที่นั้นจะแสดงข้อมูลตำแหน่งของผลงานซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จำนวน 50 ชิ้น และหมายเลขห้องของศิลปินหลักทั้งหมด
Contact
ที่อยู่ : Calle de Ruiz de Alarcon, 23, 28014 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.museodelprado.es/en
Photo credit : dmitro2009 / Shutterstock.com
• Museo Thyssen-Bornemisza
ไม่ไกลมากเท่าไหร่ก็จะพบกับ Museo Thyssen-Bornemisza ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงคอลเลคชั่นศิลปะของมาดริดครอบคลุมมากที่สุด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ร่วมกับ Museo Del Prado และ Centro De Arte Reina Sofía นับเป็น 3 พิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับชาติที่ถูกเรียกให้เป็น ‘Golden Triangle of Art’
ที่แห่งนี้ก่อตั้งในปี 1920 โดยนักธุรกิจ Baron Heinrich Thyssen-Bornemisza ในเวลาต่อมาถูกขยายพื้นที่โดยลูกชายของเขา Baron Hans Heinrich Thyssen-Bornemisza เพื่อขนย้ายคอลเลคชั่นงานศิลปะสะสมจากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย ได้แก่ Dalí, Degas, Rembrandt, Renoir, van Eyck, Van Gogh จากแกลเลอรีส่วนตัวที่ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มายังมาดริดเกือบ 1,000 ภาพ
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากนักหากเทียบกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะอื่นๆ แต่ที่เพิ่มความน่าสนใจต่อการมาเดินชมงานคือ ต้องเริ่มเดินจากชั้นบนสุดก่อน ซึ่งจะจัดแสดงงานศิลปะโดยแบ่งเป็นห้องละหมวดหมู่ ไล่ตั้งแต่ผลงานยุคกลาง ภาพวาดทางศาสนาของอิตาลี เยอรมัน และเฟลมิชในศตวรรษที่ 13 และ 14 ศิลปะดัตช์ มาจนถึงการจัดแสดงผลงานของศิลปินแบบหมุนเวียน
ชั้นล่างบริเวณห้องโถงจัดแสดงผลงานศิลปะซึ่งเป็นผลงานสะสมชุดใหม่ของ Carmen Thyssen จำนวน 180 ชิ้น ซึ่งนี่ล่ะที่เป็นไฮไลต์เพราะเราสามารถชมในรูปแบบ Virtual Tours ได้ที่เว็บไซต์ของที่นี่เลย บอกเลยว่าอิ่มใจไม่แพ้กัน
Contact
ที่อยู่ : Paseo del Prado, 8, 28014 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.museothyssen.org/en
• Colección SOLO
จะต้องมีบ้างล่ะอารมณ์อยากเสพงานอาร์ตท่ามกลางความเป็นส่วนตัว ยิ่งคนน้อยๆ ยิ่งดี เราจะได้ซึมซับผลงานที่ศิลปินพยายามจะสื่อสารได้อย่างตั้งใจ เราขอผายมือมาที่นี่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แม้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ารับชมได้แต่จะต้องนัดกันล่วงหน้าก่อนเท่านั้นนะถึงจะได้เข้าไป
พิพิธภัณฑ์ระดับนานาชาติร่วมสมัยสุดไพรเวต แหล่งรวบรวมศิลปะสุดล้ำไว้มากมาย ที่ตั้งอยู่ใน Puerta de Alcala ซึ่งเป็นชื่อของอดีตประตูเมืองฝั่งตะวันออกของมาดริด สร้างในสมัยกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1770 ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้าเยี่ยมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะต้องกดกริ่งหน้าประตูและขึ้นลิฟต์แก้วเข้ามายังพื้นที่แกลเลอรี ซึ่งจะมีไกด์พาเราเข้าสู่พื้นที่จัดแสดงงานอีกที ซึ่งให้อารมณ์เหมือนเข้าสู่เขาวงกตเลยล่ะ
Colección SOLO มีผลงานเกือบ 900 ชิ้นมุ่งนำเสนอความสัมพันธ์อันมั่งคั่งที่มีอยู่ตามกาลเวลและภูมิศาสตร์ระหว่างกระแสความคิดสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และสุนทรียภาพที่แตกต่างกันออกไปตามความคิดของศิลปินกว่า 270 คนจากหลากหลายประเทศ
หนึ่งในผลงานสุดล้ำคือประติมากรรมมนุษย์ที่ดูเหมือนใกล้จะแตกสลายให้ความรู้สึกแปลกประหลาด ไปจนถึงสื่อมีเดียใหม่ๆ และ AI-Art การได้พบกับAI ที่จะสร้างสรรค์ภาพและข้อความสุดปั่นป่วน หัวกอริลลาที่ทำจากกระดาษแข็ง และงานสุดล้ำอื่นๆ อีกมากมาย รับรองว่าที่นี่จะเปิดประสบการณ์การเสพอาร์ตที่แปลกใหม่ที่จะสร้างความประทับใจจนต้องร้องอึ้ง ที่นี่ยังให้เข้าชมฟรีด้วยนะ
Contact
ที่อยู่ : Pl. de la Independencia, 5, 28001 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://coleccionsolo.com/
• The Sorolla Museum
ที่นี่เคยเป็นบ้านเกิดของ joaquín sorolla จิตรกรผู้โด่งดังอีกคนในยุคอิมเพรสชั่นนิสม์เขาเน้นให้ความสำคัญต่อการใช้แสงและเงาในการวาดภาพมนุษย์และทิวทัศน์ ทำให้งานของเขาดูมีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกผ่อนด้วยเรื่องราวในภาพส่วนใหญ่ จิตรกรมักจะพรรณาถึงความสนุกสนานระหว่างผู้คนด้วยกัน หรือผู้คนกับธรรมชาติท่ามกลางทิวทัศน์สีเขียวขจี จนได้รับความนิยมทำให้ในปัจจุบันเอง พิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำของโลกหลายแห่งก็เลือกจัดแสดงผลงานของเขา รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ The Sorolla Museum ด้วย
ที่นี่จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในบ้านของ Joaquín Sorolla และตั้งชื่อตามชื่อจริงของเขาด้วย จัดแสดงงานศิลปะ และเรื่องราวในชีวิตประจำวันของจิตรกร ดังนั้นการตกแต่งของที่นี่ยังคงเหมือนเดิมในช่วงที่เขายังมีชีวิต ส่วนชั้นบนเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการอื่นๆ แบบหมุนเวียนกันไป
ส่วนการเดินทางก็ง่ายมาก The Sorolla Museum อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Iglesia, Rubén Darío และ Gregorio Marañónไม่มากเท่าไหร่ เดินเพียงแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้วล่ะ
Contact
ที่อยู่ : del Gral. Martínez Campos, 37, 28010 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.esmadrid.com/en/tourist-information/sorolla-museum
• La Neomudéjar
ที่แห่งนี้ตั้งในอยู่พื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ที่นี่เคยเป็นศูนยฝึกอบรมพนักงานการรถไฟ อาคารอิฐแดงที่ผุผังแห่งนี้จึงถูกกปล่อยให้เช่าในปี 2013 และก่อตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดล้ำในที่สุด
แนวคิดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือการสร้างพื้นที่อิสระเพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะนอกเหนือไปจากรูปแบบเดิมๆ เปิดรับประเด็นสังคมและการเมืองอย่างลึกซึ้ง รวมถึงประเด็นเฟมมินิสต์ กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) และประเด็นต่อต้านทุนนิยม อีกทั้งยังมุ่งส่งเสริมสาขาวิชาต่างๆ อย่าง Urban Art, Video Art, Performance, Parkour, Sound พาให้คนทั่วไปได้ใกล้ชิดกับศิลปะมากขึ้น
และนอกจากนี้ก็เป็นความตั้งใจที่อยากจะฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างด้วยการทำมาใช้ประโยชน์ในทางศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างมีคุณภาพ ซึ่งนับตั้งแต่ La Neomudéjar เกิดขึ้น ก็ได้มีการรับผลงานของศิลปินระดับชาติและนานาชาติมาแล้วหลายคน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมุ่งมั่นสร้างงานศิลปะที่จะอุทิศตนเพื่อคุณค่าทางสังคมและประณามอำนาจอย่างชัดเจน สำหรับใครที่ชอบเสพศิลปะที่ชวนตีความหมายอย่างเข้มข้นและลึกซึ้ง ที่นี่เป็นอีกที่ที่ควรมาเลยล่ะ
Contact
ที่อยู่ : C. de Antonio Nebrija, S/N, 28007 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.laneomudejar.com/
Photo credit : Enrique Palacio Sans / Shutterstock.com
• Museo Lázaro Galdiano
พิพิธภัณฑ์ซึ่งกินพื้นที่ใหญ่เทียบเท่าคฤหาสน์ถูกตกแต่งด้วยหินสไตล์อิตาลีจากต้นศตวรรษที่ 20 ที่มีเสน่ห์ แปลกตาชวนให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Grand Budapest Hotel ถูกสร้างขึ้นโดย Lázaro Galdiano นักธุรกิจและผู้อุปถัมภ์ศิลปะ ขณะที่เขามีชีวิตอยู่ก็ได้เก็บรวบรวมผลงานศิลปะไว้มากมายรวมไปถึงผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลก ได้แก่ Goya, Zurbarán, Claudio Coello, Hieronymus Bosch, Esteban Murillo, El Greco, Lucas Cranach และ John Constable กับวัตถุศิลปะรวมแล้วกว่า 13,000 ชิ้น ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของที่นี่เลยก็ว่าได้
พื้นที่ส่วนใหญ่ชั้นล่างเป็นสิ่งที่จะพลาดไม่ได้หากได้เดินเข้ามาชมกันถึงที่นี่แล้ว เพราะเป็นพื้นที่จัดแสดงานที่เกี่ยวข้องกับริบทสังคมช่วงที่ Lázaro Galdiano อาศัยอยู่ ผู้ชมจะได้เดินชมวัตถุสิ่งของชวนแปลกตากว่าร้อยชิ้นที่เขาได้มาจากทั่วทุกมุมโลก มีตั้งแต่ ภาพวาด ประติมากรรม เซรามิก เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ อาวุธ เป็นต้น
Lázaro Galdiano ได้ยกมรดกทางศิลปะทั้งหมดของเขาให้กับเมืองมาดริดแแห่งนี้เมื่อเขาเสียชีวิตลง และด้วยความสง่างามตั้งแต่สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นไปจนตัวชิ้นงานศิลปะล้ำค่า บางชิ้นหาดูได้ยากแล้วจึงให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดของมาดริด
Contact
ที่อยู่ : C. de Serrano, 122, 28006 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : http://www.museolazarogaldiano.es/
• Factory of Dreams
ศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังกระจัดกระจายอยู่ตามท้องถนนในเมืองมาดริดที่ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็จะพบเจอกับภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส วาดโดยศิลปินแถวหน้าของโลก Okuda San Miguel ที่เคยฝากผลงานจิตรกรรมฝาผนังในนิวยอร์ก ปารีส และฮ่องกง
งานของเขาเน้นลายเส้นกลมกลืนไปกับเรขาคณิตสีรุ้ง สดใสและฉูดฉาดผสมผสานรูปทรงอินทรีย์ ร่างกายที่ไร้ตัวตน สัตว์หัวขาด และสัญลักษณ์ ซึ่งจัดอยู่ในงานประเภท Pop Surrealism เขามุ่งตั้งคำถามถึงความหมายของชีวืจและความขัดแย้งของเสรีภาพอันจอมปลอมของสังคม
Factory of Dreams จึงเปรียบเสมือนพื้นที่สร้างประสบการณ์ และมอบพื้นที่อเนกประสงค์ให้กับสังคมและเมืองได้เปิดโอกาสให้ศิลปินและผู้คนได้เข้าถึงกิจกรรมทางศิลปะ โดยพื้นที่นี้จะมีทั้งนิทรรศการ เวิร์คช้อป งานอีเว้นท์ โดกังแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งสตูดิโอของ Okuda San Miguel และยังเป็นที่ที่เขาจัดนิทรรศการผลงานครั้งแรกของเขาที่นี่อีกด้วย
Contact
ที่อยู่ : Calle Carmen Bruguera, 828026 สเปน
เว็บไซต์ : https://okudasanmiguel.com/ และ https://www.esmadrid.com/en/tourist-information/factory-dreams
• La Casa Encendida
ตัวสถาปัตยกรรมของที่นี่ถือว่ามีความโดดเด่นเฉพาะตัวมากๆ ตัวอาคารมีอายุกว่า 100 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Fernando Arbós y Tremanti ในปี 1882 ด้านหน้าอาคารสร้างด้วยวัสดุ 2 ชนิด ได้แก่ อิฐเปลือยและหินแกรนิตในรูปแบบที่แปลกใหม่ เมื่อเทียบกับอาคารธนาคารอื่นๆ ในยุคนั้น
ในช่วงแรกๆ อาคารนี้ถูกตั้งเป็นพื้นที่ของสำนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในชื่อ El Monte ทำให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแผร่หลาย ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น La Casa Encendida นำมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของกวีชาวกรานาดา ลุยส์ โรซาเลส เจ้าของศูนย์วัฒนธรรม CajaMadrid ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทายาทก่อนถึงจะใช้ชื่อนี้ได้
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากจะจัดนิทรรศการศิลปะเน้นแนวคิดแล้ว ยังเป็นเจ้าภาพจัดการแสดงละคร เวิร์คช้อป การประชุมและคอนเสิร์ต กิจกรรม Book Club ก็มี ถือเป็นที่ๆ รวมศิลปะทุกแขนงมากที่สุดอีกที่หนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและบาร์บนชั้นดาดฟ้า พร้อมทิวทัศน์ที่เผยให้เห็นทัศนียภาพของเมือง และในช่วงฤดูร้อน พื้นที่บริเวณนี้จะเปิดใช้งานในรูปแบบการแสดงคอนเสิร์ตเป็นประจำ และยังฉายภาพยนตร์คลาสสิคนอกสถานที่
จริงๆ แค่มาเดินเล่นก็ถือว่าคุ้มมาก เพราะที่นี่ตั้งอยู่ในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่านน้อยมาก เลยถูกนับให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การใช้เวลาเงียบๆ เดินชมงานศิลป์สัก 1-2 ชั่วโมง ก็สุขใจแล้ว
Contact
ที่อยู่ : Rda. de Valencia, 2, 28012 Madrid, สเปน
เว็บไซต์ : https://www.lacasaencendida.es/
เคล็ดไม่ลับสำหรับใครที่แพลนจะมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มาดริด โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ Museo Del Prado, Centro De Arte Reina Sofía หรือ Museo Thyssen-Bornemisza แนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าและดูเวลาให้ดีๆ กันสักหน่อย เพราะ 3 ที่นี้จะมีผู้ชมเข้าชมมากเป็นพิเศษในช่วงเช้าและเย็น นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์บางแห่งที่เราแนะนำไป จะมีช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชมฟรีด้วยนะ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์นั้นๆ จ้า
ที่มา :
https://www.lonelyplanet.com/articles/best-museums-in-madrid
https://www.talontiew.com/museo-nacional
https://www.forbes.com/sites/traversmark/2022/04/09/3-scientific-reasons-why-visiting-an-art-museum
