The Adventure of Poorboy
การผจญภัยของ Poorboy กับนิทรรศการอาร์ตที่ใช้เวลา 6 เดือนสร้างผลงานถึง 60 ชิ้น
- Poorboy คือชื่อคาแรกเตอร์ที่ล้อกับเรื่องราวของเจ้าลิงตัวสีขาวขนฟู ซึ่งต้องออกจากป่าเพราะถูกมนุษย์บุกรุกพื้นที่ ทำให้น้องต้องออกมาใช้ชีวิตในเมือง วิ่งเล่นโลดโผนไปกับความศิวิไลซ์ในสถานที่ใหม่ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
- ต้น – เกษมวิทย์ ชวีวัฒน์ ศิลปินที่หลงใหลในสเก็ตบอร์ดและผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์คาแรกเตอร์สุดน่ารักเรียกรอยยิ้ม แท้จริงแล้ว Poorboy เขาต้องการเล่าเรื่องด้วยการหยิบสิ่งแวดล้อมมานำเสนอด้วยมุมมองที่สดใส เพื่อช่วยให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ เขายังนำชีวิตประจำวันรอบตัวมาเล่าผ่านคาแรกเตอร์ เพราะมองว่า Poorboy ก็คือตัวตนของต้นที่เป็นคนต่างจังหวัด และตื่นเต้นทุกครั้งที่เมื่อได้ออกเดินทางพบเจอสถานที่ใหม่ๆ
Poorboy ไม่ใช่ชื่อที่แปลว่า เด็กยากจน แต่เป็นชื่อของเจ้าลิงขนฟูสีขาวน่าสงสารไม่มีที่อยู่ เพราะมนุษย์บุกรุกพื้นที่ป่า ทำให้น้องต้องหนีมาใช้ชีวิตในเมือง และด้วยคาแรกเตอร์ที่มาพร้อมกับแววตาเป็นประกาย น้องสนุกที่ได้ออกผจญภัยไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เราเลยไม่แปลกใจว่าทำไมใครๆ ก็รัก Poorboy ตั้งแต่แรกพบ
นิทรรศการล่าสุด Poorboy Life ที่ตั้งใจเชิญชวนผู้ชมมาสนุกและท่องเที่ยวไปด้วยกันกับเจ้าลิงสีขาว แม้จะเป็นครั้งที่ 3 แต่สำหรับ ต้น – เกษมวิทย์ ชวีวัฒน์ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดแสดงผลงานเดี่ยวสุดยิ่งใหญ่เท่าที่เคยมีมา ด้วยผลงาน 60 ชิ้น ที่ใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือน (ทำได้ยังไงกันในเวลาแค่นี้)
“จริงๆ แล้ว ถ้าเทียบกับศิลปินคนอื่น ถือว่าผมสร้างงานแต่ละชิ้นใช้เวลาช้ามากเลยนะ” ต้นพูดพร้อมหัวเราะเป็นการทักทายทันทีที่เราได้พบกัน ซึ่งสไตล์การทำงานของเขานั้นเรียบง่ายมาก เพียงแค่… ‘ตรงต่อเวลา และนอนให้เพียงพอ งานก็จะเดิน’
เริ่มวาด
สมัยมัธยมปลาย ต้นเรียนอยู่สายวิทย์-คณิต ซึ่งเรียนได้เกรดเพียงหนึ่งกว่าๆ แต่ชายหนุ่มในวัยเด็กนั้นชื่นชอบการวาดรูปมานาน ทั้งวาดเล่นๆ และวาดจริงจังมาเรื่อยๆ จนชีวิตมาถึงจุดต้องเลือกคณะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เขาก็เลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรม ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขัดกับแม่ที่อยากให้เขาเรียนทางด้านกฎหมายมากกว่า
“พอเราไปเรียนสิ่งที่ชอบจริงๆ เกรดเรากลับสูงขึ้นเยอะเลย แม่เขาคงเห็นว่า มันคงถูกทาง เลยให้เรียนต่อไป ตอนเรียนแรกๆ ผมไม่รู้หรอกว่าเรียนแล้วจะทำงานอะไร ตอนเรียนก็เลยค้นหาไปเรื่อยๆ เจออะไรระหว่างทางก็ทำไป”
เส้นทางสายพนักงานประจำของต้นมาบรรจบงานสุดท้ายด้วยตำแหน่ง Art Director ของ Cheeze Looker แมกกาซีนสตรีทแฟชั่น ที่ทำมามากกว่า 10 ปี ในช่วงระหว่างนั้นเอง เขาเริ่มวาดคาแรกเตอร์ Poorboy ควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็ได้มีโอกาสไปคอลแลบกับแบรนด์ต่างๆ จนมาเจอช่วงโควิด ต้นมีเวลาวาด Poorboy เต็มที่ เขาจึงตัดสินใจออกจากงานประจำเพื่อจริงจังกับคาแรกเตอร์ของตัวเอง
Poorboy
นอกจากต้นจะชอบวาดรูปแล้ว สเก็ตบอร์ดเป็นกิจกรรมที่ต้นหลงใหลและเล่นมาโดยตลอด…3 สิ่งต้นบอกเราคือ สเก็ตบอร์ด ศิลปะ ดนตรี คือแรงบันดาลใจที่สำคัญต่อการสร้างงานศิลปะของเขา
ปี 2008 ต้นเริ่มครีเอทคาแรกเตอร์ Poorboy ได้แรงบันดาลใจมาจากลิงเยติ เหตุผลที่เลือกลิง เพราะมีหน้าตาแก่นๆ ท่าทางบอกความรู้สึกคล้ายกับมนุษย์ ต้นอยากให้ลิงของเขาเฟรนด์ลี่กับทุกคน แต่ภาพแรกๆ ที่เขาวาดออกมา ต้นเน้นเสียงลากยาวว่า น่ากลัวมาก! เล่าไปก็หัวเราะไป
“ตอนนั้นเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนแล้วอยากครีเอทเสื้อที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ มีลายใบไม้ ดอกไม้ สักพักอยากมีสัตว์มาช่วยเล่าเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ เราก็ครีเอทออกมา โอ้โห รูปร่างก็ใหญ่ ฟันก็แหลม ผมก็พยายามปรับมาเรื่อยๆ จนออกมาเป็นอย่างที่เห็นกัน”
ต้นเป็นศิลปินอีกหนึ่งคนที่สนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เขาต้องการให้ศิลปะของตัวเองทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงเล็กๆ บอกเล่าถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเรื่องราวเหล่านั้นผ่านมุมมองของ Poorboy ที่เน้นใช้ความน่ารัก สดใส และความสนุกดึงดูดผู้คน
ตลอดช่วงที่เดินชมงาน เราชอบการใช้สีโทนเย็นชวนยิ้มของต้นมาก ต้นเสริมในภายหลังว่า ที่จริงแล้วเขาอยากให้คนดูรู้สึกผ่อนคลายไปกับการท่องโลกของ Poorboy จะตีความในรูปแบบไหนก็ได้ตามสบายเลย เพียงแต่ขอให้ทุกคนสนุกสนานไปกับ Poorboy ต้นก็ดีใจแล้ว
หาเอกลักษณ์
ต้นสร้างศิลปะจากความชอบส่วนตัว เขาเชื่อว่าความชอบคือใบเบิกทางสู่ความตั้งใจอย่างจริงจัง เราถามถึงจุดเริ่มต้นหากอยากวาด เพราะเชื่อว่าหลายคนก็อยากสร้างคาแรกเตอร์สนุกๆ เหมือนที่ต้นทำเช่นกัน เขาจึงฝากคำแนะนำมาว่า
“เริ่มต้นจากความชอบก่อนนะ หรือบางทีไอเดียอาจจะปิ๊งเข้ามาเลยก็มี แต่ถ้าอยากทำอะไร ก็ลองทำเลยไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ค่อยๆ ต่อยอดไปเรื่อยๆ” ความพยายามและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนอีกอย่างที่เลี่ยงไม่ได้เหมือนกันคือ การเดินดูงานเพื่อศึกษา แล้วนำมาปรับปรุง พัฒนาตัวเอง แต่อย่าลอกเลียนผลงาน
ถึงตรงนี้ ก็สงสัยว่า เราจะหาเอกลักษณ์ของเราเจอได้อย่างไร
“ผมไม่รู้ว่ามันใช่ไหมนะ แต่ตัวผมเองเน้นวาดมาเรื่อยๆ ไม่ได้หยุด วาดมาหลายปีจนกระทั่งคนจำ Poorboy ได้ เอาง่ายๆ ผมเริ่มจากความสนุกก่อน Poorboy ก็คือตัวผมนี่แหละ นอกจากวาดเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว ผมก็วาดเรื่องราวที่ไปพบเจอ มันมีเรื่องใหม่ๆ อยู่ทุกวัน ผมจะมีสมุดสเก็ตช์ติดตัว เวลาออกไปข้างนอกถ้าเจออะไรตลกๆ หรือน่าสนใจก็จะวาดเก็บไว้ก่อน พอเอาตัวตนเราใส่ลงไปในงาน มันเลยทำให้ภาพงานเราชัดเจนมากขึ้น” ต้นช่วยขยายการหาเอกลักษณ์ในมุมมองเขาให้เราฟังก่อนจะหัวเราะเขินๆ แล้วถามเรากลับว่า มันช่วยได้ใช่ไหม?
การสร้างคาแรกเตอร์ จริงๆ ก็เหมือนการ์ตูน เหมือนโดราเอมอน ข้อดีของรูปแบบงานคือ Poorboy ของเขาสามารถไปอยู่ใน Platform งานอาร์ตแบบใดก็ได้ ในแอนิเมชั่น สติกเกอร์ไลน์ก็ไปได้ทั้งหมด ผู้คนจะมองเห็นมิติตัวละครได้หลากหลายด้วย
วาดเรื่อยๆ และนอนให้พอ
แม้เรียนสถาปัตยกรรม เขาก็เรียนวาดเพียงแค่พื้นฐาน ซึ่งทำให้ต้นต้องซ้อมมืออยู่เรื่อยๆ และพยายามศึกษาหาเทคนิคจากความผิดพลาดที่เกิดจากการวาดครั้งแล้วครั้งเล่า
“ระหว่างภาพเขียน ความยากของมันคือ ใน 1 แคนวาสมันไม่มีให้เราซ้อม เราต้องวาดลงไปเลย ถ้าขั้นตอนผิด มันเกิดความผิดพลาดได้หมด หน้าที่ของเราคือสนุกไปกับมัน ค่อยๆ เรียนรู้ไป ช่วงแรกๆ มันอาจยังไม่ดีเท่าไหร่ อาจเสียค่าสี เฟรมไปเยอะ ทำไม่ได้ตามที่ต้องการบ้าง เราก็ต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ทดลองใช้สี พู่กันยี่ห้อใหม่ๆ สีนั้นต้องผสมน้ำแค่ไหนถึงจะได้ ค่อยๆ เก็บรายละเอียดไป เราต้องตั้งใจวาดไปเรื่อยๆ นั่นแหละ มันจะออกมาดีที่สุดเท่าที่เราทำได้เอง”
นอกจากวาดรูป การพักผ่อนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การมุ่งมั่นวาดรูปเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ควรหมกหมุ่นอยู่กับการวาดมากเกินไป
“ผมคิดว่าตัวเองสร้างงานช้ากว่าศิลปินคนอื่นๆ บางรูปใช้เวลา 4-5 วัน แต่ผมจะกำหนดเลยว่า ในแต่ละวันจะวาดเท่าไหร่ พอวาดถึงเท่านี้ก็จะพอละ ขอออกไปกินข้าว เดินเล่นเจอเพื่อนหน่อยให้สมองโล่ง มันจะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าเอาแต่วาดจนถึงเที่ยงคืนไม่ยอมนอน ไม่ได้ล่ะ มันจะทำเราเหนื่อย เพลีย คิดงานไม่ได้ ผมเลยรู้สึกว่าควรทำอะไรให้เป็นเวลามันจะออกมาดีกว่า เราต้องเกรงใจสุขภาพของเราด้วย”
Poorboy Life by Poorboy
สำหรับ Poorboy Life by Poorboy เป็นนิทรรศการที่แม้ต้นจะจัดแสดงผลงานของเขาเป็นครั้งที่สาม แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้จัดอย่างเต็มรูปแบบด้วยผลงานทั้งหมด 60 ชิ้น ซึ่งอย่างที่เกริ่นไปตอนต้น ต้นใช้เวลาสร้างสรรค์เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น
ไหนต้นบอกเราว่า ทำงานช้าไง? เขาหัวเราะเพราะ เรานิ่งอึ้งนานพอสมควร “เป็นเรื่องของการจัดการเวลาล้วนๆ แต่จริงๆ บางชิ้นงานเป็นผลงานที่ผมเคยสเก็ตช์ไว้ในสมุด และยังไม่เคยเปิดโชว์ที่ไหน ผมก็เอางานนั้นมาต่อยอดเป็นชิ้นงานที่กำลังจัดแสดงที่นี่”
ภายในงานประกอบด้วยผลงานหลากหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการเพ้นต์ สีพ่น หรือรูปปั้นประติมากรรม ต้นเสริมว่าแต่ละงานมีความยากง่ายต่างกัน แต่แน่นอนว่าทุกชิ้นล้วนเลือกจากความรู้สึกและความชอบ ก่อนตามเก็บรายละเอียดทั้งเรื่องของเส้น การเกลี่ยสี จนเนี้ยบและสมบูรณ์
Poorboy ในอนาคต
ต้นเคยลองทำแอนิเมชั่น แล้วค้นพบว่าเขาไม่เก่งเรื่องการคิดเรื่องราว เขาถนัดและชอบวาดเป็นภาพที่มีเรื่องราวจบในหนึ่งเฟรม จุดนี้ล่ะที่ทำให้เขาเห็นสไตล์งานตัวเองชัด ต้นเล่าว่า ในอนาคตถ้ามีโอกาสได้เป็นแอนิเมชั่นก็ค่อยว่ากัน ระหว่างนี้ยังขอเรียกว่าเป็นเรื่องราวการเดินทางของ Poorboy ซึ่งก็คือเรื่องราวของต้นเอง เพราะอิงจากที่ตนเป็นคนต่างจังหวัด เวลาเดินทางไปที่ไหนก็มักตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ
“ผมก็วาดไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าในโลกศิลปะยังมีอะไรใหม่ๆ อีกเพียบให้ค้นพบ ผมจะไม่คิดเรื่องใหม่ เพราะผมนำเสนอชีวิตปัจจุบันในสิ่งที่ผมพบเจออยู่เรื่อยๆ เรื่องราวของ Poorboy จะจบลงก็ต่อเมื่อผมได้ตายจากโลกไปแล้วล่ะครับ”
ต้นปิดท้ายบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม เรารับรู้ได้ทันทีว่าศิลปินคนนี้รักและเคารพศิลปะของเขามากแค่ไหน และเราเชื่อว่าทุกคนจะได้เห็นว่า Poorboy ยังคงสนุกไปกับการท่องโลกอีกนานแสนนาน
นิทรรศการจัดแสดงผลงานที่มีคาแรกเตอร์หลัก Poorboy ในทุกชิ้นงาน ตามมาด้วยผองเพื่อนที่สร้างความเฮฮา และด้วยสายตาอันเป็นประกาย บ่งบอกได้ว่า เจ้าลิงขนฟูตัวนี้สนุกไปกับการเดินทางเหลือเกิน คนดูอย่างเราก็สนุก เพลิดเพลินราวกับได้ร่วมเดินทางไปกับ Poorboy ด้วย
แต่อีกแง่มุมหนึ่ง ศิลปะของต้นได้พาให้เราคิดต่อไปอีกว่า เจ้าลิงน้อยตัวนี้จะอยู่อย่างไรในโลกความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ลิงตัวนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงสัตว์ทุกตัวเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่แปลกไปจากเดิม ไม่ใช่ป่าที่เป็นบ้าน แต่เป็นเมืองแสนศิวิไลซ์ ยังจะเอ็นจอยเหมือนภาพวาดยังเบื้องหน้าเราหรือเปล่า
อย่างน้อยงานของต้นก็ช่วยขับเคลื่อนความคิดเรา ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ควรตระหนัก และหากเลือกได้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการทำลายธรรมชาติโดยพฤติกรรมของเราเองให้มากที่สุด
นิทรรศการ POORBOY LIFE
จัดแสดงแล้ววันนี้ – 31 มกราคม 2566 เวลา 11:00 – 20:00 น.
ที่ River City Bangkok ห้อง RCB Galleria 1 ชั้น 2 (เข้าชมฟรี)
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเพจ : POORBOY LIFE