อาหารของมาดาม พาเท่ห์ เป็นเมนูที่หารับประทานได้เฉพาะในท้องถิ่นแถบอีสาน แต่ก็มีความโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะเกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมการกินถึง 5 สัญชาติด้วยกัน คือ ไทย จีน ลาว เวียดนาม และฝรั่งเศส จนกลายเป็นเอกลักษณ์รสชาติ และเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นที่ติดอกติดใจของคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว ซึ่งแวะเวียนมาลิ้มรสกันชนิดแน่นร้านทุกวัน ทำให้ที่นั่งรองรับได้ไม่เพียงพอ จึงมีการต่อยอดสู่มาดาม พาเท่ห์ 2515 เน้นบริการแบบเต็มรูปแบบ และต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศได้มากขึ้น โดยยังคงตั้งอยู่ในย่านสถานีรถไฟ ซึ่งรายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งและวอล์กกิ้งสตรีท

ชื่อ มาดาม พาเท่ห์ 2515 มาจากคำว่า มาดาม สื่อสารถึงคุณแม่ที่เป็นเจ้าของตำรับอาหาร พาเท่ห์ หรือปัตเต้ เมนูแรกของร้าน และ พ.ศ. 2515 ปีเกิดของมาดามเหมย และยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของเมืองอุดรธานีในอดีต อันเป็นห้วงเวลาที่คนเชื้อสายจีนเข้ามาทำการค้าขาย ตลอดจนมีชาวลาวและเวียดนามอพยพย้ายถิ่นฐาน รวมถึงการตั้งฐานทัพของทหารอเมริกา G.I. ส่งผลต่ออิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมการกินในท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย

บรรยากาศภายในมาดาม พาเท่ห์ 2515 จึงเจือด้วยกลิ่นอายในช่วงปี 2515 ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบ โดยเปลี่ยนพื้นที่โกดังอะลูมิเนียมธุรกิจเดิมของมาดามหมุ่ย สู่ร้านอาหารที่จำลองเป็นบ้านไม้สองชั้น ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องมือใช้สอยย้อนยุค เสมือนว่ามากินของอร่อยที่บ้านอากงอาม่า ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อบอุ่น และเป็นกันเอง ดังสโลแกนของร้านว่า ห้องครัวปรุงสุข

เมื่อมาเยือนมาดาม พาเท่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มรสเมนูซิกเนเจอร์ เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง สามสหาย (190 บาท) ซึ่งเป็นเมนูแรกของร้าน ผสมผสานวัฒนธรรมฝรั่งเศสที่มีอิทธิพลในเวียงจันทน์ และสอดแทรกวัฒนธรรมการกินปัตเต้ของเวียดนามด้วย จึงประกอบไปด้วย ขนมปังฝรั่งเศสไส้ปัตเต้ ครัวซองส์ไส้ทูน่า โรตีใส่หมู หมูยอ และกุนเชียง ให้รสสัมผัสของขนมปังและรสชาติของไส้ที่แตกต่างกัน

จานหลักขอแนะนำ ข้าวต้มเห็ดชาจีน (95 บาท) โดดเด่นด้วยน้ำซุปใสสีเหลืองทองซึ่งต้มกันข้ามวันข้ามคืน กระดูกหมูและเห็ดชาจีนที่หอมจากการผัด ก่อนนำมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ ซดคล่อง ชุ่มคอ หรือจะเป็น สตูว์ลิ้นวัว (270 บาท) รสชาติเข้มข้น ผสานกับลิ้นวัวที่นุ่มแบบละลายในปาก กลิ่นหอมไม่คาว ซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานเป็นวัน

ถ้าต้องการเข้าถึงรสชาติของฝั่งเวียงจันทน์ชวนสั่ง เฝอเนื้อ (185 บาท) อีกเมนูยอดนิยมของมาดาม พาเท่ห์ เป็นสูตรที่คิดขึ้นโดยผสมผสานเทคนิคแบบฮ่องกง ซึ่งจะผัดเครื่องเคราให้มีกลิ่นหอมก่อน เสิร์ฟพร้อมกับพริกจี่ กะปิ เพิ่มความเข้มข้นด้วยน้ำจิ้มถั่ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การกินแบบดั้งเดิมของชาวเวียงจันทน์ และยังสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยการเลือกใช้เนื้อวัวไทยวากิวในท้องถิ่นอีกด้วย

หากอยากสัมผัสการวัฒนธรรมการกินแบบชาวอีสาน ชุดข้าวงาย (299 บาท) ตอบโจทย์อย่างแน่นอน ข้าวงายแปลว่ามื้อเช้า ด้วยคอนเซ็ปต์อาหารเช้าแบบคนอุดรธานีขนานแท้ ประกอบด้วย หมกหน่อไม้ใส่ข้าวคั่วสูตรดั้งเดิมของชาวอุดรธานี อ่อมหมูหรืออ่อมเนื้อ แจ่วมะกอก หมูแดดเดียว และไข่ต้ม ทานกับข้าวเหนียว ปิดท้ายด้วย ข้าวอบมันเนื้อวากิวมาดามพาเท่ห์ (220 บาท) เมนูอาหารไทยประยุกต์ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของเนื้อไทยวากิว รสชาติเผ็ดร้อน ทานคู่กับไข่ออนเซ็นอร่อยลงตัว