แสงจันทร์

บ้านไม้หลังนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 80 ตารางวา ทอดยาวขนานไปกับคลองชลประทานของ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดิมทีเคยเป็นสวนลำไยมาก่อน

“เราผ่านถนนสายนี้บ่อยๆ จนวันหนึ่งขับรถผ่านมาเห็นควันไฟลอยออกมา เจอชาวสวนเอาวัวมาผูกใต้ต้นไม้ และกำลังสุมไฟ ทำให้นึกถึงบรรยากาศของบ้านชนบทขึ้นมา เราชอบกลิ่นควันฟืนแบบนี้ มันทำให้รู้สึกคิดถึงบ้าน แล้วบังเอิญเจ้าของสวนกำลังจะขายที่ดินตรงนี้ เลยคิดว่ามันคงถึงเวลาและคงเป็นที่ของเรา” ศิริงาม ยาวิราช เจ้าของบ้านเล่า

“เราตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า บ้านงามแสงเดือน เพราะตอนซื้อที่ดิน มาที่นี่วันละสามเวลา มาดูว่าอากาศตอนเช้าเป็นยังไง กลางวันร้อนไหม พระอาทิตย์ขึ้นตรงไหน เพราะต้องวางทิศทางบ้านให้เหมาะสม แล้วจากมุมนี้เป็นจุดที่มองเห็นพระจันทร์ชัดเจน ซึ่งสวยงามมาก เลยตั้งชื่อว่าบ้านงามแสงเดือน”

บ้านงามแสงเดือนเป็นบ้านไม้สไตล์ล้านนา มีต้นมะขามยักษ์ใหญ่สองต้นแผ่ปกคลุมทั่วพื้นที่ ส่วนตัวบ้านยกใต้ถุนสูง มีชานระเบียงเปิดโล่งให้นั่งเล่นรับลม ส่วนยุ้งข้าวถูกปรับให้เป็นโฮมสเตย์ นอกจากนี้ ยังมีมุมก่อกองฟืนจากเตา รวมไปถึงอุปกรณ์ของใช้แบบพื้นบ้าน ที่เจ้าของนำมาประดับประดาทั่วบริเวณ สร้างสรรค์บรรยากาศของบ้านชนบทที่ดูเรียบง่าย หยิบจับของทุกอย่างมาใช้ได้จริง

ไม้

ศิริงามเป็นนักออกแบบเครื่องประดับ เคยเปิดร้านบนถนนนิมมานเหมินท์เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ต่อมาหันมาประดิษฐ์เครื่องประดับสำหรับวางขายตามช็อปในโรงแรม แทนการแบกรับค่าเช่าร้านที่สูงลิ่ว หลังจากเริ่มวางมือจากงานเครื่องประดับ จึงหันมาออกแบบเสื้อผ้าโดยใช้ผ้าพื้นบ้าน เช่น ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าใยกัญชงสีธรรมชาติ ฯลฯ เน้นงานออกแบบให้ดูทันสมัย คนทั่วไปสวมใส่ได้ นอกจากนี้ เธอยังเป็นอินทีเรียร์ ดีไซเนอร์ให้โรงแรมต่างๆ รวมไปถึงงานออกแบบบ้านไม้ต้นทุนต่ำสำหรับคนที่ใฝ่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่มีงบประมาณจำกัด

“บ้านงามแสงเดือนเริ่มสร้างเมื่อปี 2556 เป็นบ้านต้นทุนต่ำที่ใช้งบประมาณในการสร้างไม่มาก เราใช้ไม้เก่า เอามาปรุงใหม่ และออกแบบใหม่ เป็นไม้เก่าของบ้านชาวมูเซอ 2 หลัง ซึ่งบ้านเขาไม่มีประตูหน้าต่าง เราก็ต้องไปหาองค์ประกอบของประตูหน้าต่างไม้บันไดมาเพิ่ม”

ไม้เก่าทุกชิ้นเป็นการนำมาประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่ใช่เครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ถือเป็นบ้านงานคราฟต์จากฝีมือของช่างพื้นบ้าน (สล่า) ซึ่งใช้ระยะเวลาทำบ้านเพียงกว่า 50 วันเท่านั้น

“จริงๆ ตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นบ้านพักอาศัยอย่างเดียว ไม่ได้คิดว่าจะทำการค้า แต่พอดีบ้านได้รับรางวัลจากนิตยสารบ้านและสวน เป็นบ้านน่าอยู่ที่ใช้ต้นทุนต่ำ ก็เลยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น คนก็เริ่มมาเที่ยว มาขอคำแนะนำ จนบางทีมีคนบอกว่าบ้านงามแสงเดือนกลายเป็นโมเดล สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจที่เชียงใหม่หรือใครที่อยากมีบ้าน ก็จะมาดูที่นี่”

หลังจากทำบ้านงามแสงเดือนเสร็จในปี 2556 ศิริงามได้ออกแบบบ้านอีกหลายหลังสำหรับคนที่ชื่นชอบในสไตล์ของเธอ โดยคอนเซ็ปต์ของบ้าน คือ อยู่สบาย อยู่ได้จริง ใช้งานได้ดี รองรับแขกได้ และใช้เงินไม่เยอะ

ชีวิต

ปัจจุบัน บ้านงามแสงเดือนประกอบด้วยเรือนน้อยใหญ่หลายหลังที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน อาทิ เรือนพักอาศัยของเจ้าบ้าน เรือนหลังเล็กทำเป็นโชว์รูมเสื้อผ้า เครื่องประดับ และงานเย็บปักถักร้อยที่เจ้าตัวทำมานาน มียุ้งข้าวที่เป็นโฮมสเตย์ 1 หลัง รองรับลูกค้าที่สนใจอยากเข้าพักเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบท้องถิ่น

เราเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนบ้านไม้หลังนี้ จะต้องหลงรักกับบรรยากาศของบ้านไม้สุดคลาสสิก ความร่มครึ้มของต้นไม้ใบเขียวที่เป็นส่วนเติมเต็มของบ้าน อีกทั้งในแต่ละวันจะมีอาหารพื้นเมืองสลับสับเปลี่ยนเมนูกันไป เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ผัดไทย ฯลฯ มุมขายเครื่องดื่มเล็กๆ จากร้าน Rap a Bit พร้อมเสิร์ฟกาแฟ เครื่องดื่ม และขนมเค้กแสนอร่อย

สำหรับใครที่มากันเป็นกรุ๊ปและมีเวลามากพอ บ้านงามแสงเดือนรับจัดดินเนอร์แบบส่วนตัวสำหรับ 10 คนขึ้นไป พร้อมเสิร์ฟอาหารตะวันตกหรืออาหารเหนือตามฤดูกาล อาทิ คั่วเห็ดถอบ ผัดผักเชียงดาใส่ไข่ ลาบหมูคั่ว ตำน้ำพริกอ่อง ตำมะเขือไข่ต้ม ไก่บ้านผัดซีอิ๊ว แกงแคที่ใส่ผักพื้นบ้าน 16 ชนิด ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมของศิริงาม (มีบริการดนตรีสด ควรแจ้งทางร้านล่วงหน้า และไม่คิดรวมกับค่าอาหาร)

ศิริงามบอกว่า ตอนนี้เธอวางมือจากงานออกแบบบ้านแล้ว แต่ยังคงจัดเวิร์กช็อปสอนทำเครื่องประดับจากลูกปัด และรับสอนทำอาหารเหนือสำหรับคนสมัยใหม่ที่ใช้ชีวิตในคอนโดหรือพื้นที่เล็กๆ โดยเป็นการปรับสูตรให้มีความเป็นสากลขึ้น เช่น น้ำพริกอ่อง ไก่บ้านผัดซีอิ๊ว ซุปเห็ด เป็นต้น

“บ้านงามแสงเดือนเป็นบ้านที่ให้โอกาสและมีบุญคุณกับเรา จากที่เคยลำบาก ต้องต่อสู้กับระบบค่าเช่าร้าน ล้มลุกคลุกคลานกันมา พอบ้านได้รับรางวัล เริ่มเป็นที่รู้จัก คนเริ่มเข้ามา ด้วยเสน่ห์ของบ้านที่ไม่ใช่การเมกอัพ แต่มันคือ Life เป็นชีวิตของเราจริงๆ”

บ้านหลังนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือคนที่อยากปรับบ้านหลังเก่าให้น่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม