- ย่านท่าเตียน แหล่งท่องเที่ยวส่งกลิ่นอายความเป็นไทยผ่านอาหาร เครื่องดื่ม อาคารเก่าที่คงสภาพให้เหมือนใหม่ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ผสมความโมเดิร์นอย่างลงตัวในทุกจุดขายที่กล่าวไป ทั้งถูกอกคนไทยทั้งถูกใจชาวต่างชาติ
สวัสดีทุกคน ไปเที่ยวท่าเตียนกันไหม
เราว่าบรรยากาศของย่านนี้ครบรสมากๆ ทั้งร้านขนม ร้านกาแฟ บาร์กับร้านอาหารก็มี ที่ทั้งถูกและดี แถมจะวิวแม่น้ำ วิววัด วิวคนเดินถนนก็มีหมด คนที่ชอบเที่ยวกลางวันก็เดินชมวัดชมย่าน เข้าร้านกาแฟร้านนู้นออกร้านนี้ ใครชอบเที่ยวกลางคืนก็มีทั้งบาร์ Rooftop และร้านอาหารอีกมาก เรามาเดินย่านนี้แบบเต็มวันสองครั้งแล้วยังสำรวจไม่หมดเลย
ที่สำคัญนะ ใครชอบกลิ่นอายไทยแต่ไม่ไทยขลังจนเข้าถึงยากก็มี ใครชอบแบบหลุดธีมไปเลยก็มี เพราะถึงแม้ร้านรวงหลายร้านจะนำเอาอาหารกับเครื่องดื่มหลากสไตล์หลายสัญชาติมาขาย แต่ทั้งหมดถูกครอบด้วยโครงตึกแถวแบบเก่าที่จะให้ขยับขยายก็แทบเป็นไปไม่ได้ และเอาเข้าจริงเราว่าร้านส่วนใหญ่ก็หลงเสน่ห์นี้กัน เลยเหลือเค้าโครงตึกเดิมไว้ยลโฉม บางที่ก็ตั้งใจทิ้งฝ้าให้เห็นหลังคา ส่วนหลายที่ก็ทิ้งร่องรอยกาลเวลาบนผนังเอาไว้
เพื่อนๆ อ่านแล้วไม่ต้องห่วงว่าจะตั้งต้นไม่ถูก เพราะบทความนี้เราคัดสถานที่เด็ดมาให้ตั้ง 15 สถานที่ ปักหมุดแล้วเดินตามไปดูกันโลด!
• เมรัย
โห แดงไปทั้งร้าน! แค่เดินทะลุตลาดท่าเตียนมาก็เจอ เมรัย บาร์สีแดงแรงฤทธิ์ซ่อนอยู่กลางซอย มากลางวันอาจไม่ทันเห็น แต่ถ้ามาตอนกลางคืนจะต้องหาไฟสีแดงเป็นออร่าพุ่งออกจากร้านนี้ได้แน่ บาร์นี้มีไวน์ให้เลือกหลากหลายชนิด แต่มีแค่ 3 โต๊ะกับเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ นะ ใครชอบนั่งชิลล์ในร้านที่ไม่วุ่นวาย คนไม่เยอะ ต้องมาลองด่วน แต่จริงๆ แนะนำให้ลองมาคนเดียว เพราะบาร์เทนเดอร์ชวนคุยเก่งมากจนลืมเพื่อนที่นั่งข้างๆ ไปเลย
อาหารหรือกับแกล้มร้านนี้จะพิเศษหน่อย เมนูแนะนำคือผัดไทย ซึ่งคุณจะเห็นรูปตั้งแต่บนป้ายตรงทางเข้าร้านแล้ว (บาร์อะไรอวดผัดไทยมากกว่าเครื่องดื่มอีก) เราสั่งมาลองให้หายสงสัย ใจง่ายเพราะราคาแค่ 79 บาท พอชิมแล้วไม่ผิดหวังในรสชาติของซอสน้ำมะขามรสเปรี้ยวกลมกล่อม เสริมด้วยเต้าหู้ทอดกับกุ้งแห้ง แถมเส้นเหนียวนุ่มดีเชียวล่ะ ผัดไทยเมรัย มาจากสูตรของคุณยายของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ผู้เป็นกรรมการ Top Chef Thailand ดึกๆ ลองมาจิบไวน์กับผัดไทยกันดูนะ
facebook: Mayrai PadThai Wine bar
• A Fox Princess Kitchen
ร้านถัดมาที่จะแนะนำคือ A Fox Princess Kitchen ร้านพาสตาและพิซซ่าในตึกหน้ากว้าง 1 ห้องสูง 4 ชั้น ร้านนี้มีธีมวินเทจครอบอยู่ แต่การตกแต่งของแต่ละชั้นก็ให้บรรยากาศต่างกันไป จากสีของหลอดไฟที่ต่างกัน และโต๊ะที่เลือกมาตั้ง อย่างชั้น 2 เป็นโต๊ะกินอาหาร ชั้น 3 เน้นโต๊ะเตี้ยแบบโต๊ะกาแฟ ส่วนชั้น 4 ห้องบนสุด ไพรเวตที่สุด มีโต๊ะเดี่ยวตัวยาวแค่ตัวเดียว
เราได้กิน Free Bread กับน้ำซุปเรียกน้ำย่อยระหว่างรออาหาร ขนมปังธัญพืชของร้านนุ่มมากๆ เขาอุ่นมาให้กินคู่ซุป ซึ่งก็หอมน้ำมันมะกอกกับน้ำส้มสายชู Balsamic ส่วนจานหลักเป็น Dried Chilli with Seafood Spaghetti (290 บาท) ที่ต้องย้ำว่าเครื่องแน่นมาก ให้กุ้งหอยมาแบบไม่หวงเลย เส้นก็เด้งสู้ลิ้น กลิ่นหอมเครื่องเทศถูกปากคนไทย และเมนูสุดท้ายที่ลืมยากสมชื่ออย่าง Unforgettable Onion Soup (240 บาท) เป็นซุปหัวหอมใสๆ ที่เสิร์ฟมาโดยมีขนมปังครอบบนปากถ้วย วิธีกินก็คือเจาะแป้งตรงกลางให้เจอซุปด้านล่าง ถ้วยนี้กินได้เรื่อยๆ คุยไปซดไป ซุปก็ยังอุ่นอยู่ เพราะขนมปังบนปากถ้วยช่วยไม่ให้ซุปคลายความร้อนเร็วเกินไป
• A Pink Rabbit + Bob
ร้านเค้กติดถนนนี้ จะกลางวันหรือกลางคืน ร้านก็มืดตลอด A Pink Rabbit + Bob เป็นคาเฟ่เล็กๆ ในธีมไนต์คลับ ตกแต่งแบบวินเทจ และที่บอกว่าเล็กก็อยากเน้นว่าทั้งเล็กและแน่นจริงๆ ร้านต้องการเป็นที่นั่งพักจิบชา กาแฟและกินเค้กของเหล่านักท่องเที่ยว เป็นเหมือนโพรงกระต่ายที่ให้แวะมาเปลี่ยนบรรยากาศง่ายๆ เพียงแค่เลี้ยวเข้ามาก็เหมือนหลุดไปอยู่คนละโลกกับย่านเมืองเก่าข้างนอกแล้ว
เราสั่งมาสคาโปน 2 รส รสแรก Sassy Mascapone (185 บาท) เป็นทาร์ตใส่ชีสมาสคาโปนที่ละลายในปาก ตัดด้วยรสเปรี้ยวของผลไม้หลากชนิดหลากสีสัน และอีกรสเป็นช็อกโกแลตชื่อ Zebra Mascapone (175 บาท) เป็นแป้งช็อกโกแลต 2 ชั้นที่มีชีสมาสคาโปนตรงกลาง รสเข้มของแป้งตัดเลี่ยนชีสพอดีเลย เค้กร้านนี้น่ากินไปหมด ชิ้นใหญ่ เครื่องแน่น และ 2 เมนูที่ว่าไป ก็ทำให้มั่นใจว่าเมนูอื่นต้องรสชาติดีไม่แพ้กัน เสียดายที่ชิมทั้งหมดนั้นมาเล่าต่อไม่ไหว ฝากเพื่อนๆ กินเผื่อเราด้วยนะ
facebook: A pink rabbit + Bob / ท่าเตียน
• ศาลเจ้าปึงเถ่ากง
ศาลปึงเถ่ากงหรือศาลเจ้าพ่อต้นไทร เราเคยเดินผ่านศาลนี้แล้วแต่ว่าตอนนั้นศาลปิด เห็นก็แต่ประตูไม้สีแดงที่โดดเด่นกว่าประตูรอบข้าง คราวนี้เราโชคดีที่ไปตอนศาลเปิด ข้างในเหมือนศาลจีนทั่วไปที่ตกแต่งเน้นสีแดงเป็นหลัก มีรูปปั้นเจ้าพ่อตั้งอยู่ข้างในตรงกับจุดกึ่งกลางประตูพอดี และเราได้เจอผู้ดูแลศาลด้วยเลยได้โอกาสสอบถามถึงศาลที่แทรกตัวอยู่กลางซอยนี้
ศาลปึงเถ่ากงมีอายุกว่า 100 ปี สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ขณะที่เราไปนั้นมีรูปปั้นที่ย้ายมาอยู่ในศาลนี้ชั่วคราวคือเจ้าพ่อกวนอูจากตลาดท่าเตียน เพราะตลาดกำลังปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ ทั้งพ่อค้าแม่ขายและศาลก็ต้องย้ายออกมาหมด
ผู้ดูแลบอกว่าศาลในบริเวณท่าเตียนที่เขาดูแลมีเพียง 4 – 5 แห่งเท่านั้น และมันกำลังถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา ปกติแล้วคนในย่านจะจัดงานเสี่ยเซ้ง ซึ่งเป็นเทศกาลไหว้เทพเจ้าประจำปี แต่พอคนเก่าแก่หายหน้าหายตาไป ประเพณีนี้ก็ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก ผู้ดูแลศาลดูกระตือรือร้นมากระหว่างให้ข้อมูลกับเรา พอเล่าเรื่องเสร็จก็จัดของไหว้แล้วเดินเช็กดูความเรียบร้อยตามจุดต่างๆ ภายในศาลอย่างฉับไว
• Make Me Mango
มะม่วงเลิฟเวอร์ยกมือขึ้น! ร้านนี้ต้องไปลองให้ได้นะขอบอก Make Me Mango คาเฟ่และร้านอาหารที่ยกมะม่วงเป็นพระเอกทุกเมนู ตั้งแต่สมูทตี้ยันข้าวหน้าแซลมอนมะม่วง เสียดายที่เรากินข้าวไปก่อนแล้ว เลยลองเฉพาะเมนูเครื่องดื่ม เมนูแรกคือ Mango Smoothie Yogurt (130 บาท) เมนูโยเกิร์ตมะม่วงปั่นที่เรากับเพื่อนลงความเห็นว่าหอมและหวานกำลังดี ไม่เลี่ยนแน่นอน กับ Fizzy Mango Float (135 บาท) แก้วนี้เป็นเหมือนคอมโบมะม่วงเลย มีทั้งไอศกรีมรสมะม่วงแล้วยังราดไซรัปมะม่วงอีก
มะม่วงของที่นี่ส่งตรงจากสวนที่อำเภอปากช่อง ตอนเรามาถึงก็ยังเห็นลังมะม่วงสดๆ ตั้งอยู่หน้าร้านอยู่เลย นอกจากของกินแล้ว ทางร้านก็ทำผลิตภัณฑ์จากมะม่วงอื่นๆ ด้วยนะ อย่างสเปรย์แอลกอฮอล์กลิ่นมะม่วงพีช ตัวร้านก็หอม ตกแต่งสไตล์โฮมมี่ น่ามานั่งเล่นคุยกับเพื่อนเพลินๆ และมีหนังสือให้ยืมอ่านกับเปลตาข่ายพร้อมหมอนให้นอนเล่นด้วยนะ
facebook: Make Me Mango – Mango Cafe
• Homey Coffee
Homey Coffee ร้านกาแฟเฟอร์นิเจอร์ไม้สานติดถนนใหญ่ บรรยากาศร้านนี้ดูเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก พอเดินเข้าไปสั่งกาแฟแล้วก็อยากปล่อยตัวสบายๆ พลางมองดูเหล่านักท่องเที่ยวเดินสับเท้าท่ามกลางแดดภายนอกกับรถราที่วิ่งไปมาโดยมีวัดเป็นฉากหลัง ที่สำคัญร้านนี้เปิดตั้งแต่ 06.30 น. แน่ะ ถ้ามาเที่ยวเราก็คงจะมาดูคนกรุงเทพฯ เริ่มต้นวันใหม่ที่นี่แหละ
ร้านนี้รีโนเวตมาจากบ้านคุณยายของเจ้าของร้าน ชื่อร้านก็มีที่มาจากตรงนี้นี่เอง ส่วนเครื่องดื่มนั้นราคาดีมาก ย้ำว่าดีสุดๆ เมื่อลองคิดดูว่าเราได้นั่งจิบกาแฟดอยช้างกับกินคุกกี้โฮมเมดในทำเลแบบนี้และได้ชมวิวแบบนี้ในราคาหลักสิบ (หลักสิบจริงๆ นะ เพราะไม่มีแก้วไหนที่ราคาถึงหลักร้อยเลย) อ้อ กาแฟของที่นี่มีให้เลือกตั้งแต่คั่วกลางถึงคั่วเข้มนะ
facebook: Homey Coffee
• โชคอรุณท่าเตียน
โชคอรุณท่าเตียนเป็นร้านขายของแห้งเจ้าแรกของท่าเตียนเชียวนะ ที่นี่ขาย-ส่งอาหารทะเลแห้งทุกชนิด ทั้งปลาหมึก กุ้งแห้ง ปลาอินทรี และอื่นๆ อีกมาก ขอบอกเลยว่าต้องไปเดินเลือกเองที่ร้าน เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดีมากๆ แนะนำสินค้าอย่างดีและให้เวลาเราตัดสินใจแบบไม่เร่งรีบเลย เจ้าของเป็นถึงรุ่นที่ 4 แล้วด้วยนะ และร้านก็เปิดมากว่า 50 ปีแล้ว
ย่านริมน้ำนี้เคยมียุครุ่งเรืองของพ่อค้าแม่ขายทางเรือ หนึ่งในสินค้ายอดนิยมคืออาหารทะเลแห้ง และเราก็บังเอิญไปเดินผ่านร้านแรกของท่าเตียนในวันที่ตลาดท่าเตียน ซึ่งเป็นตลาดขาย-ส่งอาหารทะเลแห้งปิดปรับปรุง ทุกร้านต้องขนของไปขายที่อื่นกัน ร้านนี้ริมถนนมหาราช หาไม่ยากเลย จุดสังเกตอีกอย่างคือมีเยลลี่โบราณให้ตักซื้อที่หน้าร้าน
facebook: ร้านโชคอรุณ ตลาดท่าเตียน
• PORTS Coffee
PORTS Coffee ร้านกาแฟที่เกิดจากแพสชั่นล้วนๆ ด้วยความที่พอดื่มกาแฟแล้วชอบ จนเกิดอยากคุยเรื่องกาแฟกับคนอื่นได้ เจ้าของร้านคือเพื่อน 2 คนที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยมัธยม ชวนกันเปิดร้านเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนโควิดจะระบาดไม่นาน แต่ด้วยคุณภาพของกาแฟที่ซื้อใจลูกค้าหลายคนมาเป็นลูกค้าประจำได้แล้ว พอถึงช่วงที่โควิดระบาดหนัก PORTS Coffee เลยยังมีรายได้จากการขายเดลิเวอรี
ร้านใช้เมล็ดกาแฟหลากหลายสัญชาติ รวมถึงเมล็ดกาแฟดอยสะเก็ดของไทยด้วย เมนูที่ได้ลองคืออเมริกาโน (90 บาท) เมล็ดเอธิโอเปียที่ให้กลิ่นแคนดี้กับเครื่องดื่ม Non-coffee อีกแก้วคือ Yuzulemonade Sparkling (100 บาท) ไซรัปเปรี้ยวกับความซาบซ่าสดชื่นเติมพลังให้เราท่ามกลางแดดร้อนของเมืองไทย ส่วนขนมซิกเนเจอร์มี 2 อย่างคือ Canale (75 บาท) และ Croffle (85 บาท)
พอครบปีที่ 3 ร้านก็เติบโตไปอีกขั้น แต่ไม่ใช่ว่าขยายร้านหรือเพิ่มสาขาหรอกนะ เจ้าของร้านเขาพากันเปิด PORTS Roastery โรงคั่วเมล็ดกาแฟแห่งแรกของย่านท่าเตียนที่คั่วกันเองคัดเมล็ดกันเอง 2 คน แล้วเครื่องคั่วนี้ก็ลงทุนสั่งมาจากอิสราเอลเลยแหละ ตอนนี้นอกจากจะขายกาแฟเลยขายเมล็ดกาแฟด้วย แถมมีแผนจะจัดเวิร์กช้อปสโลว์บาร์กาแฟให้คนที่สนใจเบื้องหลังการทำกาแฟมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ แน่นอน แต่เจ้าของโรงคั่วจะพร้อมเมื่อไหร่ก็ต้องรอติดตามกันไปก่อนนะ
facebook: Portsbkk
• Chama Thai Wellness
หากพูดชื่อฉมาฟาร์ม หรือ บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) คงจะไม่คุ้นหูกัน แต่ถ้าพูดถึงสินค้าตราเกษตร ทุกคนคงเห็นผ่านตากันมาบ้าง จากข้าวสารและอาหารแปรรูปอย่างโจ๊กคัพ วันนี้เรามาถึงธุรกิจในย่านท่าเตียนที่มีเจ้าของคนเดียวกัน นั่นคือร้านอาหารฉมาที่เสิร์ฟความอร่อยโดยคำนึงถึงสุขภาพและคลินิกแพทย์แผนไทย ทั้ง 2 ธุรกิจใช้สมุนไพรออร์แกนิกของฉมาฟาร์ม ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอาณาจักรสมุนไพรที่ดูแลทั้งระบบดินและน้ำอย่างดี
ในตึกนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เล่าประวัติของย่านท่าเตียนตั้งแต่สมัยอยุธยามาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ไปพร้อมกับเรื่องราวธุรกิจของครอบครัวไทยฮาตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า ห้องที่ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ก็คือห้องทำงานของอากงอาม่านั่นเอง ส่วนธุรกิจฉมาฟาร์มมาจากความตั้งใจของปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม ลูกสาวคนเล็กของอาม่าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
ข้างๆ กันเป็นคลินิกแพทย์แผนไทยที่มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำโดยละเอียด เดินเข้าไปจะเห็นตู้โอสถโบราณเป็นอย่างแรก ถัดมาจึงเป็นห้องวางขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผู้เชี่ยวชาญให้เราลองสเปรย์เย็น สินค้าขายดีของคลินิก โห มันทั้งเย็นทั้งหอมจนลืมสภาพอากาศร้อนเป็นเตาอบข้างนอกร้าน ไม่แปลกใจเลยที่ขายดี
• โรงรส
โรงรส ร้านอาหารไทยริมน้ำที่ต้องจองข้ามเดือน ร้านนี้การันตีทั้งวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวัด ทั้งคุณภาพวัตถุดิบและรสชาติจากวัตถุดิบที่หลากหลายสมกับชื่อ โรงรส อาหารของที่นี่เชื่อว่าจะเปิดประสบการณ์สัมผัสทางรสชาติให้กับแขกได้ด้วยวัตถุดิบที่เชฟคัดสรรจากชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรรายย่อย ร้านนี้ยังดังไปไกลถึงในหนังสือพิมพ์ The New York Times เชียวนะ
ใครแย่งชิงที่นั่งมาได้ เราก็ขอเตือนว่าอย่าพลาดเมนู ข้าวผัดโรงรส (290 บาท) ข้าวผัดจานนี้เสิร์ฟพร้อมกุ้งหวานเสียบไม้และไข่เค็มไชยา ส่วนตัวข้าวเป็นข้าวหอมเมืองเพชรที่หุงสำหรับผัดโดยเฉพาะ แล้วผัดกับน้ำพริกก้นครัว ครบรสครบเครื่องสุดๆ นี่แค่ข้าวผัดเองนะ และมากกว่าลิ้มลองความเป็นไทยผ่านรสชาติ วิววัดอรุณฯ ก็สร้างมนต์ทางสายตาให้มื้ออาหารนั้นพิเศษและดื่มด่ำกับความเป็นไทยของตัวย่านได้มากขึ้นด้วย
facebook: Rongros ร้านอาหารไทย ริมแม่น้ำ
• แสง
ร้านอาหารไทยแบบ Chef Table Home Cooking ขนาดเล็ก เล็กจริงๆ เพราะมีแค่ 4 – 5 โต๊ะ! แถมครัวก็ยังชิดกับโต๊ะอาหาร เรียกว่าเกือบจะหุงข้าวทำอาหารให้กันเห็นไปเลย ส่วนคนที่ได้กินก็ต้องเป็นคนที่โทร.จองโต๊ะทันนั่นแหละนะ รสชาติก็ไม่ต้องห่วง ฝากท้องไว้กับร้านอร่อยแสงออกปากนี้ได้ สูตรที่ทำในร้านล้วนปรับมาจากสูตรของคุณแม่ ซึ่งเชฟสังเกตเอาระหว่างเป็นลูกมือแม่ในครัวอีกที ขอแทรกว่าอาหารในเมนูเป็นอาหารใต้พื้นบ้านนะ ส่วนเมนูเด็ดแนะนำคือตำสตรอว์เบอร์รีกะปิหมูหวาน ซึ่งดัดแปลงจากยำส้มโอกะปิหมูหวาน
ปัจจุบันร้านแสงเพิ่งมีอายุเพียงขวบเศษ แต่ชื่อเสียงก็นำหน้าอายุร้านไปไกลแล้ว ด้วยคิวยาวเหยียดที่เต็มตั้งแต่เดือนแรกๆ ที่เปิด ที่นี่ใช้วัตถุดิบและปรับสูตรด้วยความใส่ใจ ใครอยากลองอาหารใต้ที่กินง่าย ร้านแสงนี้จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ทำให้คุณผิดหวัง
facebook: แสงท่าเตียน
• SALA รัตนโกสินทร์
SALA รัตนโกสินทร์คือร้าน Rooftop ที่เราคัดมาว่าเหมาะจะนั่งชิลล์ท่ามกลางวิวพระอาทิตย์ตกดิน ที่ชั้น 2 ของร้านมีห้องอาหารผนังกระจกให้รับวิววัดอรุณฯ ได้เต็มตาอยู่ด้วย แต่โซนนี้ถ้าไม่จองล่วงหน้าก็อาจจะพลาดได้นะ ส่วนบนชั้น Rooftop นั้นบรรยากาศรับลมดีมาก มีที่นั่งทั้งแบบโต๊ะ และบาร์เดี่ยวริมระเบียงซึ่งหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นวิวจากแสงสีส้มยามเย็นไปจนถึงแสงสีจากตึกสูงใหญ่ที่เรียงรายยาวไปตามริมแม่น้ำในช่วงกลางคืน
ร้านอาหารนี้มี Craft Beer ที่เป็นเบียร์ลาวอยู่ด้วยนะ ราคา 295 บาทเท่านั้น ส่วนของกินเล่นอย่าง Fish N Chips (490 บาท) ก็ไม่ได้เล่นๆ อย่างชื่อนะ กัดไปคำแรกแล้วตาโตเลย เพราะปลาเต็มปากเต็มคำมาก อีกเมนูที่เราสั่งคือ Salt & Pepper Squid (350 บาท) ตัวนี้เป็นหมึกกล้วยชุบแป้งทอดเสิร์ฟคู่ซอสมะเขือเทศและซอสมายองเนสกระเทียม ของกินเล่นแค่นี้แต่ก็กินไม่หมด เราร่ำลา Chips ที่ยังเหลืออยู่นิดหน่อยกับท้องฟ้ามืดตรงหน้าในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงพนักงานกล่าวขอบคุณและลาลูกค้าอย่างเราอีกที (คิดไว้แล้วว่าจะกลับมาอีกให้ได้!)
facebook: sala rattanakosin Bangkok
• Nuss Bar
Nuss Bar บาร์สีแดงสดติดถนนใหญ่ที่ใช้กระจกเกือบเต็มผนังราวกับจะอวดโฉมพร้อมกระซิบบอกว่า ‘มองฉันสิ’ กลายๆ บาร์ค็อกเทลนี้มีอยู่ในตึกอายุกว่า 100 ปี การตกแต่งด้วยสีแดงและเฟอร์นิเจอร์ตัดขอบทอง กับผนังด้านนอกสีเหลือง ทำให้มองผ่านๆ ในตอนกลางวันก็ยังเข้ากับย่านและวัดโพธิ์ที่ฝั่งตรงข้าม แต่พอตกดึกมาก็แปลงโฉมเป็นสถานที่นั่งชิลล์สุดเก๋ทันใด
ค็อกเทลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นเมนูทวิสต์จากเครื่องดื่มคลาสสิก โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ทั้งหมด 4 แก้วคือ Palm Daiquiri, Pomelo Paloma, 3 Friends Negroni และ Cashew Sidecar บาร์นี้ดูแลโดย หนึ่ง – รณภร คณิวิชาภรณ์ ดีกรีแชมป์โลก Bacardi Legacy Cocktail Competition ใครว่ามาท่าเตียนแล้วต้องดูวิวแม่น้ำอย่างเดียว มานั่งจิบค็อกเทลพลางชมวัดโพธิ์เล่นแสงไฟตอนกลางคืนก็เป็นมนต์เสน่ห์อีกแบบนะ
facebook: Nuss Bar
• วัดโพธิ์
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าวัดโพธิ์ วัดที่มีอาคารยอดแหลมโผล่พ้นผนังสูงสีขาวสะอาดตามาให้เห็น ยามกลางวันก็สวยสู้แดด กลางคืนก็ดูน่าเกรงขามไปอีกแบบ วัดแห่งนี้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 จุดประสงค์คือสร้างเพื่อเป็นที่เรียนของพระภิกษุสงฆ์ พอถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ก็มีการบูรณะใหม่ คราวนี้กลายเป็นที่จัดเก็บหนังสือวิชาการมากมายเพื่อเผยแพร่แก่ประชาชน และไฮไลต์จริงๆ นั้นอยู่ที่พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สูงถึง 15 เมตรและยาวตั้ง 46 เมตร โดยฝ่าเท้าแต่ละข้างประดับมุกสวยงามสะกดตาเป็นภาพมงคล 108 ประการ
facebook: วัดโพธิ์ ท่าเตียน Wat Pho
• มิวเซียมสยาม
มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เรื่องไทยๆ ผ่านการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากใครเคยเข้ามาดูก็คงรู้ว่าแต่ละห้องของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นตู้เก็บของเก่ากับป้ายข้อมูลยาวเหยียดธรรมดาๆ แต่มันคือการเอาตัวอย่างความเป็นไทยมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมกับสิ่งของเหล่านั้น สนุกกว่าเดินพิพิธภัณฑ์ทั่วไปเป็นไหนๆ และที่น่าสนุกกว่านั้นคือนอกจากจะมีนิทรรศการถาวรชุดถอดรหัสไทย 14 ห้องแล้ว ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนอีก
พอที่นี่มีทำเลติดรถไฟฟ้าใต้ดินกับพื้นที่กว้างขวางเหมาะสม มิวเซียมสยามเลยจัดงานอีเวนต์บ่อยครั้ง บ้างก็เป็นงานเกี่ยวกับหนังสือหรือเสวนา บางทีก็จัดดนตรีในสวนกว้างด้านหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ และมักจะมีตลาดนัดด้วย ม้านั่งกับห้องน้ำก็มีพร้อม งานอีเวนต์น่ะมีมาไม่ขาดสายแน่นอนอยู่แล้ว แต่เพื่อนๆ จะตามทันหรือเปล่านะ
facebook: Museum Siam
• Medium Rare ท่าเตียน
เชิญชวนพี่ๆ น้องๆ มาจิบไวน์ทานเนื้อย่างข้างวัดโพธิ์กันจ้า ร้านนี้อยู่ริมฟุตบาทห่างวัดโพธิ์แค่ข้ามถนนมาเอง กิมมิคร้านที่มองหาง่ายๆ คือรถตุ๊กตุ๊กใส่ขวดไวน์ไว้เต็มกระบะ (มันมีจริงนะ!) เนื้อย่างของเขาราคาแค่หลักร้อยเท่านั้น แถมไวน์ก็ไม่แพง ของทานเล่นอื่นๆ เป็นอาหารอีสานหลากหลายเมนูที่คุ้นตากันดี ทั้งส้มตำ ต้มแซ่บ ลาบ ไส้ทอด ราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักร้อยต้นๆ เท่านั้น แต่ได้วิวกับทำเลเกินราคามาก ลองนึกภาพจิบไวน์ริมฟุตบาทโดยมีวัดโพธิ์เป็นวิวดูสิ มาตอนเย็นเฝ้าพระอาทิตย์ตกดินก็ดี นั่งต่อยาวๆ ให้ร้านจุดเทียนบนโต๊ะพร้อมมองวัดโพธิ์เล่นแสงไฟตอนกลางคืนก็ดี ต้องมาจริงๆ นะร้านนี้ อย่าลืมเผื่อเวลารอคิวด้วยล่ะ
• Horsamut
ร้านอาหารทะลน้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาขอร่วมประดับย่านท่าเตียนอีกแห่ง แค่เปิดตัวด้วยภาพบรรยากาศริมน้ำที่มองเห็นวัดอรุณฯ ฝั่งตรงข้าม ก็ว้าวแล้ว ต่อด้วยว้าวที่สองกับภาพเมนูอาหารทะเลที่คัดวัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่นมาปรุงวันต่อวัน แค่สองว้าวเท่านั้น หอสมุทรก็กลายเป็นจุดหมายสุดฮ็อตของท่าเตียนไปเลยล่ะ ตัวร้านออกแบบเป็นอาคารทรงกล่องดูดีมีดีไซน์ ให้กลิ่นอายบ้านริมทะเลที่ล้อไปกับเมนูของร้านซึ่งน่ากินทั้งนั้น อย่างเนื้อปูผัดพริกเหลือง หมึกแดดเดียวย่างเตาถ่าน ต้มยำกุ้งตัวโตๆ ทุกจานผ่านฝีมือเชฟที่ประณีตและตั้งใจทำจริง
แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า และร้านจะมีกฎของการใช้ minimum spending 1,000 บาทต่อคน ในช่วงเวลา 16.30 – 19.40 น. ควรอ่านกฎกติกาในเพจของเขาก่อนนะ
facebook: Horsamut ร้านอาหารทะเล
ใครที่อยากมาตะลุยย่านท่าเตียนตามเรา มาได้ง่ายๆ ทางรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย ทางออก 1 พอออกมาแล้วจะเจอมิวเซียมสยามเป็นที่แรก เดินอ้อมมาทางด้านหลังก็เข้าท่าเตียนแล้วจ้า ส่วนคนที่ขับรถยนต์มาเที่ยวกับแก๊งเพื่อน เชิญจอดรถได้ที่ราชนาวีสโมสร (เชื่อเรา แล้วตรงไปจอดที่นี่เถอะ เราวนหาที่จอดเป็นชั่วโมงแต่ก็มาจบตรงนี้ทุกที)