About
ART+CULTURE

Blooming People

ภาษาดอกไม้แทนใจของ ‘Falafymns’ ศิลปินแฟชั่นฟิกเกอร์ที่สร้างผลงานด้วยปากกามาร์กเกอร์

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • จากงาน BKKIF2024 สู่ห้องสร้างผลงาน ‘Blooming People’ ของ Falafymns หรือ ฟิล์ม-นวพร สุวรรณโลหิต ศิลปินป้ายแดงที่วาดงานสไตล์แฟชั่นฟิกเกอร์ และใช้ดอกไม้แทนภาษากายของคน

ย้อนไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2024 นับเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอ ฟิล์ม-นวพร สุวรรณโลหิต ในงาน Bangkok Illustration Fair (BKKIF) อีเวนต์ที่รวมทัพศิลปินกว่า 100 ชีวิต ทั้งศิลปินไทยและต่างชาติให้ได้มาพูดคุยกัน แสดงงานศิลปะ และจำหน่ายผลงานของตัวเอง

ในบรรดาศิลปินกว่า 161 คน บูธ A37 ที่ระบุนามปากกาว่า Falafymns คือหนึ่งในบูธที่ดึงดูดให้ ONCE อยากเข้าไปชื่นชมผลงาน และอยากทำความรู้จักกับศิลปินหน้าใหม่ ผู้เป็นเจ้าของภาพวาดสีสันสดใส สไตล์งานเป็นเอกลักษณ์ ที่วาดดอกไม้หลายชนิดแทนใบหน้าคน หรือจะเรียกว่าเป็น ‘Blooming People’ ก็ย่อมได้

“ฟิล์มสนใจภาษาดอกไม้ค่ะ เลยวาดดอกไม้แทนอารมณ์ หรือความนึกคิดของคนค่ะ”

ภาพวาดของฟิล์มมีทั้งดอกไม้ที่หลายคนรู้จักกันดี และยังมีดอกไม้ที่ ONCE เองก็เพิ่งเคยเห็นผ่านภาพวาดของเธอ ผลงานของฟิล์มคือการมองตัวตน และมองสังคมรอบตัวว่า คนในปัจจุบันมีอารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิดแบบไหน

และภาษาดอกไม้เองก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องสื่อความหมายถึงเรื่องดีๆ เสมอไป

ภาพวาดที่สื่อสารผ่านเสน่ห์เรื่องเล่าของดอกไม้ ทำให้ ONCE ขอฝากตัวเป็นแขกไปเยี่ยมชมห้องทำงานส่วนตัวของฟิล์ม พร้อมนั่งจับเข่าคุยตั้งแต่ความหลงใหลในภาษาดอกไม้ของเธอ ความเป็นมือใหม่ในวงการ Painting และความมั่นคงในการทำงานแฮนด์คราฟต์ของฟิล์ม

คำเตือนก่อนที่ไปรู้จักภาษาดอกไม้กับ Falafymns มากขึ้นในบทความนี้ : แม้กุหลาบสีแดงสื่อถึงความรัก แต่กุหลาบสีเหลืองก็สื่อถึงการนอกใจได้ด้วยเหมือนกันนะ

Falafymns

Falafymns

Falafymns

Falafymns

Falafymns

เส้นด้าย สู่ เส้นหมึก

‘fala.fymns’ คือชื่อแอคเคาต์อินสตาแกรมของฟิล์ม ซึ่งเป็นทั้งพอร์ตโฟลิโอและเป็นไดอารีคอยบันทึกผลงานที่ผ่านมาของเธอ ONCE เลื่อนดูจนได้ไปเห็นผลงานเก่าๆ ของฟิล์มที่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่งานสไตล์ Painting แต่กลับเป็นงานปักแทน

“ฟิล์มใหม่ในวงการ Painting มาก เพิ่งทำมาได้ปีเดียวเองค่ะ เพราะว่าฟิล์มทำงานปักมาตั้งเรียนมหาวิทยาลัย ฟิล์มทำงานปักมา 10 กว่าปีแล้ว”

สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฟิล์มเรียนเกี่ยวกับการออกแบบและแฟชั่นมาก่อน นอกจากงานปักคือสิ่งที่ใกล้ชิดกับสายวิชาที่เธอเรียนแล้ว งานปักยังนับเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฟิล์ม เพราะฟิล์มขยายความถึงตัวเองให้ฟังว่า เธอไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากนัก ชอบอยู่เงียบๆ กับตัวเอง มีสมาธิสูงและจดจ่อกับบางสิ่งนานๆ ได้ดี งานปักจึงเป็นเพื่อนของฟิล์มมาโดยตลอด

Falafymns

Falafymns

จนถึงวันนี้ฟิล์มก็ยังไม่ได้ทิ้งงานปักไป แต่เธอเลือกนำงานปักมาปรับใช้กับงาน Painting ของเธอเอง

“จุดเปลี่ยนคือการไปเป็นผู้ช่วยพี่ PABAJA (ภา-ภาวิษา มีศรีนนท์) ฟิล์มได้เปิดโลกและเห็นการทำงานในรูปแบบอื่น ตอนนั้นฟิล์มอิ่มตัวกับงานปักด้วย เพราะงานปักก็มีขอบเขตบางอย่าง ฟิล์มเลยอยากลองทำงานวาด เพราะงานวาดต่อยอดได้เยอะค่ะ ทั้งการเอาไปสแกนได้ เอาไปทำงานปรินต์ได้ด้วย”

แม้ว่าฟิล์มไม่ได้ทำงาน Painting อย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่แรก แต่การเรียนแฟชั่นทำให้เธอได้ทักษะการวาดแฟชั่นฟิกเกอร์ (Fashion Figure) หรือการวาดสไตล์หุ่น ผลงานของเธอจึงมักวาดเกี่ยวกับท่าทางของผู้คน รูปร่างหลายสัดส่วน เสื้อผ้าสีสันสดใส และมีเพียงใบหน้าที่กลับถูกแทนด้วยดอกไม้

Falafymns

“ในงาน BKKIF มีหลายคนถามเหมือนกันว่า ทำไมต้องเป็นหัวดอกไม้ ฟิล์มบอกไปว่า การวาดหน้าคนออกมาเลยก็โอเคนะ แต่ฟิล์มแค่ชอบอ่านภาษาดอกไม้ และรู้สึกว่าบางทีดอกไม้ก็เหมือนนิสัยคน เลยเอาดอกไม้มาสื่อสารแทนท่าทางหรือภาษาของคน ฟิล์มว่ามันสนุกดี”

จุดเริ่มต้นของความชอบ คงเป็นตอนที่ฟิล์มได้เห็นเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย ที่พูดถึงภาษาดอกไม้ในยุควิกตอเรียน ซึ่งเป็นยุคที่การให้ดอกไม้แก่กันไม่ได้แปลว่ารักเสมอไป แต่ในยุควิกตอเรียนก็มีวัฒนธรรมที่ให้ดอกไม้เพื่อด่ากันได้ด้วย

Falafymns

ดอกไม้จึงไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนความสวยงามและพลังบวก แต่ยังเป็นพลังลบที่ใช้เสียดสีได้ด้วย

“ฟิล์มเคยคุยกับเพื่อนนะ อย่างเลโอนาร์โด ดาวินชี ยังเคยหงุดหงิดที่ไม่รู้ว่าดอกไม้เกิดมาตอนไหนด้วย ดอกไม้เป็นสิ่งมีชีวิตพิศวง เพราะเราไม่รู้เวลาที่แน่นอนว่ามันเกิดมาช่วงไหน เกิดมาได้ยังไง เพราะพืชอื่นๆ ก็มีบันทึกเอาไว้ ฟิล์มเลยรู้สึกว่าดอกไม้มีความกวนๆ และมีความน่าสนใจดี”

Falafymns

Falafymns

ดอกไม้ (พูด) แทนใจ

ห้องทำงานของฟิล์มถูกห้อมล้อมด้วยผลงานสีสันฉูดฉาด และอุปกรณ์ทำงานที่มีอยู่เต็มโต๊ะ ก่อนหน้านี้เราเข้าใจว่าเธอสร้างผลงานด้วยสีน้ำ หรือสีอะคริลิก แต่เมื่อเห็นโต๊ะทำงานของฟิล์ม เราก็ถึงบางอ้อด้วยความคาดไม่ถึง

“ฟิล์มใช้ปากกามาร์กเกอร์ของโคปิก (Copic) มาตั้งแต่ตอนเรียนแฟชั่นแล้วค่ะ คนมักมีภาพจำว่างาน Painting ส่วนใหญ่ต้องทำบนผ้าใบ ต้องใช้สีอะคริลิกหรือสีน้ำ แต่ศิลปินที่ฟิล์มชอบหลายท่านก็ทำงานบนกระดาษ ฟิล์มเลยอยากลอง และรู้สึกว่ามันเข้ากับฟิล์มด้วยค่ะ

Falafymns

Falafymns

“ฟิล์มมีแรงบันดาลใจจากงานของยูน ปัณพัท ที่เคยวาดให้ Gucci เขาก็ใช้โคปิกเป็นหลักในการวาดเหมือนกัน และอาจารย์ระดับมาสเตอร์ของญี่ปุ่นอย่าง Yuko Higuchi ก็เป็นอีกคนที่ไม่ใช้สีอะคริลิก แต่ใช้ปากกาปิกมา (Pigma) อันเดียวในการวาด และความบังเอิญคืออาจารย์ท่านนี้ก็เคยวาดให้ Gucci เหมือนกัน”

ส่วนการลงสีของฟิล์มไม่ได้มีพาเลตต์ตายตัวว่าต้องเป็นสีแบบไหน ในช่วงที่ผ่านมาเธอชอบสีฟ้าและชมพูมากเป็นพิเศษ ผลงานที่โชว์ใน BKKIF จึงโดดเด่นด้วย 2 สีนี้เสียส่วนใหญ่ ขณะที่ผลงานปัจจุบันของฟิล์มได้เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีโทนร้อน อย่างสีคราม สียีนส์ และสีน้ำตาลมากกว่า

Falafymns

เรื่องราวที่ฟิล์มนำมาเขียน ก็ไม่ใช่เรื่องราวที่คนดูตีความยาก แต่เป็นเรื่องใกล้ตัว จนถึงการวาดถึงตัวตนของเธอที่ผ่านการสำรวจตัวตนมาอย่างนับไม่ถ้วน ทว่า มีภาพหนึ่งที่แตกต่างและโดนใจ ONCE ตั้งแต่วันแรกที่เจอฟิล์ม เพราะภาพนี้ไม่เหมือนกับภาพอื่นๆ แต่กลับเป็นภาพเสือถือน้ำชาซึ่งถูกล้อมด้วยดอกไม้อีกที

“รูปนี้เกิดจากความโมโหจนไม่รู้จะทำยังไง ฟิล์มเคยมีแฟนคนหนึ่งที่ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี เขาเจ้าชู้และมักเข้าหาคนใกล้ตัวฟิล์ม หรือเพื่อนของเพื่อนฟิล์ม แล้วเล่าเรื่องของฟิล์มและครอบครัวในเชิงพาดพิงให้คนเหล่านั้นฟัง ฟิล์มเลยวาดรูปนี้ระบายอารมณ์ค่ะ”

Falafymns

ที่เลือกเสือมาวาดเพราะฟิล์มต้องการสื่อถึงคำว่า ‘เสือผู้หญิง’ และให้เสือสวมชุดสูทตาม ‘แพททริก เบทแมน’ ตัวละครจากภาพยนตร์ American Psycho ตัวละครที่มักสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ส่วนถ้วยชาที่เสือถืออยู่ มาจากสำนวน Spill the tea ที่ไม่ได้แปลว่า ทำชาหก แต่แปลว่า ‘เมาท์มอยมาเลย รอฟังอยู่’

แม้จะใช้เสือมาแทนการวาดคน แต่ฟิล์มยังคงสื่อสารด้วยดอกไม้เช่นเคย เพราะมีดอกลิลลี่สีส้มและดอกนาร์ซิสซัสล้อมรอบตัวเสืออยู่ ดอกลิลลี่สีส้มเป็นดอกไม้ที่ ONCE เองก็เพิ่งทราบว่ามีอยู่จริงในธรรมชาติด้วย ถึงมีสีที่สวยแต่ก็มีความหมายเจ็บแสบในตัว เพราะลิลลี่สีส้มสื่อถึงความโรคจิต หรือการหลอนประสาท

Falafymns

ขณะที่ดอกนาร์ซิสซัสคือตัวแทนของความหลงตัวเอง เป็นดอกไม้ที่ถูกเล่าขานในตำนานกรีกว่า มีชายคนหนึ่งมองเงาตัวเองในน้ำ แล้วหลงเงาตัวเองจนถึงแก่ความตาย หลังความตายกลับมีดอกไม้งอกขึ้นมา และดอกนั้นคือดอกนาร์ซิสซัสนั่นเอง

“ดอกนาร์ซิสซัสในความหมายเชิงบวกก็มีนะ ฟิล์มว่าเอาความหลงตัวเองเอามาใช้ในทางบวกได้ บางทีฟิล์มไม่มีความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก เลยมองว่าการหลงตัวเอง หรือรักตัวเองขึ้นมาบ้างก็ไม่ผิดเลย ฟิล์มเลยมีอีกงานของดอกนาร์ซิสซัส ที่วาดดอกนาร์ซิสซัส 2 ดอกคล้องแขนเข้าหากัน เพราะอยากพูดถึงการรักตัวเองให้มากขึ้นค่ะ”

Falafymns

Falafymns

ดอกไม้ทั้งหมดที่ฟิล์มเล่าให้ฟัง ล้วนเปิดโลกให้เราอยู่เหมือนกัน เพราะเชื่อว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ชอบดอกไม้เป็นพิเศษ คงไม่มีทางรู้ความหมายแฝงของพวกมันแน่ๆ และการได้มาซึ่งความรู้เหล่านั้น ฟิล์มคงต้องมีแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่แค่การเสิร์ชบนอินเทอร์เน็ตแน่นอน

ONCE สังเกตเห็นหนังสือเล่มหนาอยู่ 2-3 เล่ม เดาว่าเป็นหนังสือที่ฟิล์มใช้อ้างอิงข้อมูลดอกไม้

Wild Flower by Colour โดย มาร์จอรี บลามีย์ หนังสือที่แทบเรียกได้ว่าเป็นพจนานุกรมดอกไม้ก็ว่าได้ เพราะผู้เขียนคือนักวาดภาพพฤกษศาสตร์ ที่รวบรวมดอกไม้จากทั่วโลก มาวาดภาพลักษณะของดอกไม้และแยกหมวดหมู่ตามสีของดอกไม้ สมมติหาก ONCE ไปเจอดอกไม้สีม่วงแล้วอยากรู้ข้อมูลของดอกไม้นั้นๆ ก็เปิดหนังสือเล่มนี้ในหมวดสีม่วง และหาข้อมูลดอกไม้ในเล่มนี้ได้แบบง่ายๆ เลย

Falafymns

Complete Language of Flowers โดย เอส. เทเรซา ดีตซ์ เล่มที่เรียงชื่อดอกไม้จาก A-Z โดยให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับดอกไม้ เช่น ชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อเล่น ชื่ออื่นๆ และตำนานของดอกไม้ด้วย

ความรักในดอกไม้ที่มีมากมายขนาดนี้ ONCE คิดว่าฟิล์มคงได้ค้นพบดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของเธออยู่ก่อนแล้ว

“ดอกที่มีความเป็นฟิล์มมากที่สุดคือดอก ในไทยชื่อว่าดอกหน้าแมว เป็นดอกสีม่วง สื่อถือความคิดถึงที่ลึกซึ้ง ถ้าในภาษาฝรั่งเศสจะออกเสียงว่า ‘พองเซ่’ แปลว่าความนึกคิด ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามีความหมายถึงฟิล์มหมดเลย เพราะฟิล์มขี้คิดมาก จดจ่อ ประกอบกับฟิล์มเกิดราศีเมถุนที่เป็นคนคู่ ราศีที่มีความคิดมากในตัว ดอกหน้าแมวเลยเข้ากับฟิล์มมากๆ”

ได้ยินแบบนี้ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่า ภาพเด็กสาวฝาแฝดถักเปียที่หันหลังชนกันนั้น คนหนึ่งถือกระจกที่สะท้อนดอกกุหลาบ ส่วนอีกด้านถือกระจกที่สะท้อนดอก Pansy และทั้งหมดนั้นล้วนหมายถึงตัวตนของฟิล์ม

Falafymns

Falafymns

ศิลปะและศิลปิน คือ ธรรมชาติ

การเริ่มต้นทำงาน Painting 1 ปีของฟิล์ม ไม่เพียงแค่พาเธอไปเปิดประสบการณ์ที่งาน BKKIF 2024 เท่านั้น แต่ยังพาฟิล์มคว้ารางวัลจาก Copic Award จัดโดยประเทศญี่ปุ่นมาแล้วถึง 2 ครั้ง ได้แก่ Copic Award 2023 รางวัล Finalist Collection และ Copic Award 2024 รางวัล Judges Awards selected by Shohei Ochiai

“ซื้อไอแพดก็ไม่ได้ใช้ เพราะฟิล์มชอบงานอนาล็อก ชอบงานแฮนด์คราฟต์ งานที่ส่งประกวดก็ส่งงานกระดาษที่ทำไปให้กรรมการที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ”

ฟิล์มเล่าว่า กรรมการโคปิกคัดงานโหดอยู่เหมือนกัน เพราะผู้เข้าประกวดในปีล่าสุดมีจำนวนถึง 3,600 คน แต่กรรมการก็ยังตรวจกันอย่างตั้งใจ ใส่ถุงมือจับผลงานอย่างระมัดระวัง และส่องผลงานอย่างละเอียดราวกับส่องพระ
“ฟิล์มไม่ชอบงานประกวดเลย แต่ก็ต้องลอง เพราะมันคือการฝึกตัวเอง ส่วนหลักๆ คืออยากได้ของรางวัลด้วยนะ”

ฟิล์มหัวเราะ ขณะที่เรามองว่านั่นเป็นความคิดที่ดีเอามากๆ เพราะฟิล์มที่ไม่ชอบการแข่งขัน แต่กลับกล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ เพราะเธอไม่ได้มองว่าจะต้องประกวดเพื่อแข่งขันกับใคร แต่มองแค่สิ่งที่ต้องการ เท่านี้ก็เพียงพอให้ชาวอินโทรเวิร์ตหายตื่นเต้นได้บ้าง

Falafymns

“ฟิล์มว่ามันคือขั้นตอนการเติบโตของคนเรานะ ฟิล์มมองย้อนไปถึงวันแรกที่ลองปักผ้า ฟิล์มก็ปักไม่ได้ ต้องปักเรื่อยๆ จนกว่าจะทำได้ ทุกอย่างในธรรมชาติก็เป็นแบบนี้ มันมีกระบวนการของตัวเอง ถ้าเรามัวมองเรื่องคนอื่น หรือเอาแต่มองเรื่องเอ็นเกจเมนต์ของตัวเอง มันเหมือนว่าพวกเราไม่เข้าใจกระบวนการของตัวเอง และกำลังทำตัวไม่เป็นธรรมชาติเลยนะ”

และการทำในสิ่งที่ฟิล์มรักโดยไม่กดดันตัวเอง ทำให้ทุกก้าวของการเป็นศิลปินของเธอค่อยๆ เติบโต และไม่ได้มากับความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ แต่เริ่มจากความต้องการเล็กๆ ซึ่งถ้าไม่สมหวังก็ไม่เป็นไร เพราะฟิล์มปล่อยให้ทุกอย่างเติบโตไปกับเธออย่างเป็นธรรมชาติ และฟิล์มเองก็หวังใจให้ศิลปินหน้าใหม่ที่เพิ่งออกเดินทางเหมือนกันกับเธอ จะไม่กดดันตัวเองมากจนเกินไป

“อีกอย่างคือ ฟิล์มอยู่กับศิลปะมาตั้งแต่อนุบาล ตอนเด็กๆ ก็ชอบเล่นคนเดียว แม่เลยซื้อสีไว้ให้ แต่ไม่ไปลงเรียนศิลปะนะ เพราะกลัวว่าถ้าเรียนจริงจังแล้วจะกลายเป็นไม่ชอบมัน แต่ถ้าขาดศิลปะไป ฟิล์มคงขาดความสุนทรีไปเยอะมากๆ ตอนนี้ขนาดทำกับข้าวยังต้องจัดจานเลย ศิลปะเลยแทรกอยู่ในทุกอย่าง แล้วก็จะเติบโตไปพร้อมกับฟิล์มด้วย”

สามารถติดตามผลงานของเธอได้ที่ —
Instagram : fala.fymns
Email : nawaporn.fymn1639@gmail.com

Tags: