About
ART+CULTURE

Flying High

Hifly ขับเคลื่อนความเป็นมนุษย์ด้วยศิลปะ Indie Pop สะบัดแปรงสร้างแรงบันดาลใจ หวังให้โลกใบนี้ดีขึ้นกว่าเดิม

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • ไฮฟราย-พุฒิพงศ์ ปรารถนวนิช หรือ Hifly ศิลปินวัยเพียง 24 ปี ผู้อยากส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านภาพวาดสดใสสไตล์ Indie Pop พร้อมทลายทุกกฎเกณฑ์ของสังคม เพื่อให้ทุกความฝันร่วมชนะไปด้วยกัน

ต้นปีที่ผ่านมาเราไปเปิดประสบการณ์การดูโหราศาสตร์ และไขความลับของปฏิทินจันทรคติในนิทรรศการ Gate to Prosperity ซึ่งถือเป็นนิทรรศการครั้งแรกของสำนักโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง และเราก็พบกับไฮฟราย-พุฒิพงศ์ ปรารถนวนิช ที่นั่น

ถึงแม้จะบอกว่าพบกันในนิทรรศการนี้ แต่ตัวไฮฟรายไม่ได้จับมือทักทายเราโดยตรง เรารู้จักเขาผ่านผลงานออกแบบสุดประณีต ที่ทิ้งลายเส้นศิลปะร่วมสมัยหลอมรวมกับโหราศาสตร์จีนโบราณเข้าไว้ได้อย่างลงตัว

ขณะจ้องมองผลงานภาพวาด 4 สัตว์เทพมงคล สิ่งสะดุดตาอย่างแรกคือสีสัน ถัดมาเป็นสัตว์ และตามด้วยฟอร์มการออกแบบ มังกรเขียว หงส์แดง เต่าดำ และพยัคฆ์ขาว เหล่าสัตว์เทพมงคลทั้ง 4 มีส่วนผสมทั้งความน่าเกรงขาม และความรู้สึกชวนผ่อนคลายราวกับได้รับการปกป้อง รู้ตัวอีกทีก็ละสายตาไปจากภาพวาดพวกนี้ไม่ได้แล้ว

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ ในห้องสตูดิโอศิลปะของไฮฟรายกับการทำความเข้าใจข้อความเบื้องหลังภาพวาดที่ทรงพลังจนไม่อาจละสายตาไปได้

Hifly

เรื่องของสัตว์

การทำความเข้าใจใครสักคนส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการส่องโซเชียลมีเดีย ในอินสตาแกรมของไฮฟรายเต็มไปด้วยภาพวาดหลากสีสัน พร้อมกับเหล่าสัตว์ประหลาด บางชนิดก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ขณะที่บางชนิดเดาไม่ออกเลยว่าเป็นตัวอะไร จุดร่วมของทุกผลงานที่สัมผัสได้คือความมีชีวิตชีวา

“เสือเกี่ยวข้องกับชีวิตของไฮฟรายยังไง” นั่นเป็นคำถามแรกที่เราสงสัย

“ความจริงแล้วผมเกิดปีมังกร แต่แค่ชอบวาดเสือเฉยๆ รู้สึกว่าเสือมันทรงพลังทั้งในรูปแบบตัวจริงและภาพวาด เหมือนเป็นตัวละครนำพาดึงดูดความสนใจ แล้วฟอร์มของเสือมันคือรูปแบบที่ชอบเป็นการส่วนตัวด้วย”

Hifly

Hifly

ถ้าให้เลือกมาเพียงหนึ่งผลงานที่ชอบมากสุดในตอนนี้ เขาเปิดภาพเสือโคร่งขึ้นมา รูปร่างของเสือโคร่งในลายเส้นไฮฟรายไม่ได้ดุร้ายจนน่ากลัว ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เสือในร่างแมว แต่เป็นเสือที่ก้ำกึ่งตรงกลางระหว่างความทรงพลังกับน่ารัก มีแผงคอเป็นขนนุ่มๆ

ไฮฟรายเล่าว่า ตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจระหว่างภาพสัตว์กับคาแรกเตอร์ของตัวเอง แต่จากสถิติที่ทดลองทำมาทั้งหมด รูปภาพสัตว์ได้รับเสียงตอบรับดีสุด จึงตัดสินใจหยิบสัตว์ขึ้นมาเป็นคาแรกเตอร์หลัก

“ในความรู้สึกผม เสือโคร่งกับเสือดาวให้ความรู้สึกแตกต่างกันด้วยนะ สำหรับเสือดาววาดยังไงมันก็สวย ทั้งฟอร์มและแพตเทิร์นทรงพลังอยู่แล้ว แต่เสือโคร่งจะมีรายละเอียดบางอย่างซับซ้อนขึ้น เช่น ขนบริเวณแผงคอ ตอนนั้นผมยังตกลงกับดีไซน์ของตัวเองไม่ได้ นั่งสเก็ตช์ภาพเสือโคร่งอยู่ 10 แผ่น จนในที่สุดก็ได้แบบนี้ออกมา ผมเลยมองว่ารูปนี้คือมาสเตอร์พีซ เพราะมันเป็นช่วงจังหวะเวลาเหมาะเจาะในตอนนั้นด้วย”

Hifly

เอกลักษณ์ของไฮฟรายคือภาพสัตว์ที่มาพร้อมสีสันสดใสตามสไตล์ Pop Culture มีชีวิตชีวาจนเสมือนทะลุออกมาจากภาพวาด เขาเสริมเพิ่มเติมอีกว่า หากจะระบุให้ชัดเจนเพิ่มขึ้น นิยามสไตล์ของไฮฟรายคือ Indie Pop โดยได้นิยามนี้มาจากรุ่นพี่ศิลปินที่เคยไปเยี่ยมชมผลงานของเขา ส่วนเหตุผลที่ใช้คำว่า Indie เนื่องจากเนื้อหาในภาพวาดส่วนใหญ่มีสัตว์หรือสัตว์ประหลาดเป็นคาแรกเตอร์หลัก ซึ่งเป็นเนื้อหาเกิดขึ้นตามใจของศิลปิน ไม่ได้อิงจากกระแสหลัก ส่วนคำว่า Pop แน่นอนว่ามาจากการใช้สีสันสดใสเพื่อให้จดจำง่าย

Hifly

Hifly

ส่วนลายเส้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Adventure Time เนื่องจากเขาชอบลายเส้นแบบ Abstract Cartoon Modern อยู่แล้ว จากความชอบส่วนตัวจึงนำไปสู่การทดลองพัฒนาปรับลวดลายให้กลายเป็นตัวตนของไฮฟราย

Hifly

ส่วนประกอบสร้างความเป็นไฮฟราย

การเป็นศิลปินต้องใช้พลังสร้างสรรค์ผลงานอยู่ตลอดเวลา มีบางครั้งที่ท้อจากอาการหัวไม่แล่นจนไม่สามารถวาดภาพต่อไปได้ นั่นคือปัญหาสำคัญที่ศิลปินหลายคนต้องเคยเผชิญเจอ สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาของไฮฟรายคือ เขาไปปรึกษาครูสอนศิลปะสมัยมัธยม สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่คำตอบ แต่เป็นคำถามสำคัญซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เขาได้ค้นพบหนทางของตัวเอง

Hifly

“ส่วนประกอบตรงไหนที่ทำให้ไฮฟรายชอบจนอยากวาดภาพต่อไป” นี่คือคำถามจากครูศิลปะท่านนั้น

“เหตุผลที่ผมยังคงวาดภาพต่อไปได้ ขอแค่มีองค์ประกอบเพียง 3 สิ่งนี้เท่านั้นคือ สีสัน ฟอร์ม และแพตเทิร์น แค่นี้มันสวยแล้ว สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานตามฉบับของผม”

Hifly

ไฮฟรายตอบคำถามต่อโดยไม่ต้องคิด เพราะเขาหาหัวใจสำคัญที่ใช้ในการวาดภาพเจอแล้ว ลำดับแรกคือสัตว์หรือสัตว์ประหลาด มันเป็นสิ่งที่เขาชอบมาตั้งแต่เด็ก เพราะมีรูปแบบฟอร์มหลากหลาย สามารถหยิบจับมาเป็นตัวละครหลักเพื่อนำเสนอเรื่องราวได้หลายรสชาติ ส่วนสีสันเกิดจากความชอบส่วนตัว เวลาเดินผ่านร้านขายเครื่องเขียน ถ้าเจอสีไหนถูกใจ เขาก็ไม่ลังเลที่จะพาสีเหล่านี้ติดมือกลับบ้านไปด้วย

Hifly

“ข้อความหลักที่ผมอยากสื่อสารออกไปผ่านภาพวาด คือความเป็นตัวเอง พอผมตั้งต้นวาดภาพจากตรงนี้ งานก็รันต่อไปได้ทั้งในฐานะอาชีพและความชอบส่วนตัว”

คงเพราะไฮฟรายใส่ทั้งหัวใจและตัวตนลงไปในผลงาน ถึงมีชีวิตชีวาขนาดนี้ ราวกับเสือกำลังกระโจนเข้าใส่ งูกำลังเลื้อยขึ้นมา มังกรกำลังคำราม สัตว์ของเขาไม่ได้น่ากลัวจนอยากเดินหนี ขณะเดียวกันก็ไม่ได้น่ารักนุ่มฟูจนเสียสัญชาตญาณของสัตว์ป่าไป ส่วนผสมตรงกลางแบบพอดิบพอดี ชวนให้เราไม่อาจละสายตาไปได้ คล้ายกับกำลังรอดูเรื่องราวถัดไปต่อจากภาพเหล่านั้น

Hifly

เวลาแห่งการค้นหาตัวตน

ในโลกอันหมุนไวและเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ขนาดนี้ ไฮฟรายมีวิธีค้นหาตัวเองให้เจอได้ยังไง

“ถ้าตอบในมุมมองของผมเองเลย คือทิ้งเสียงรอบข้าง รับฟังเสียงในใจ สิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อไป มันต้องแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของผม พอเริ่มปล่อยวางจากเสียงรอบข้าง ไม่สนใจเสียงของคนอื่น นำมาสู่คำถามต่อไป แล้วผมสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะ”

Hifly

ก่อนมาเป็นศิลปินเต็มตัว เขาเคยทดลองค้นหาความชอบไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้สนใจศาสตร์การพับกระดาษโอริกามิ เป็นศิลปะการพับกระดาษของญี่ปุ่น โดยมีวิธีพับกระดาษให้เป็นรูปทรงต่างๆ ที่ไม่ใช้กรรไกรตัดหรือใช้กาวทา ไฮฟรายพูดด้วยความภูมิใจว่า เมื่อก่อนเซียนเรื่องการพับโอริกามิมาก ถึงขนาดออกแบบลวดลายการพับในแบบของตัวเองได้ แน่นอนว่าเรามาถึงสตูดิโอศิลปะขนาดนี้แล้ว ต้องให้โชว์ศิลปะการพับโอริกามิสักหน่อย

เขาโชว์ฝีมือการพับโอริกามิด้วยท่าทีสบายๆ พร้อมกับเล่าเรื่องราวของตัวเองไปอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน แถมพาเราย้อนเวลากลับไปเล่าหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงความคิด

Hifly

ใครจะไปคิดว่าศิลปินที่สดใสขนาดนี้ เมื่อก่อนจะเคยเป็นเด็กอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ แต่จุดเปลี่ยนของไฮฟรายเริ่มต้นขึ้นในวันที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ระหว่างกำลังเรียนอยู่ Full Sail University ประเทศสหรัฐอเมริกา

มันคืองานสัมมนาเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ จัดมานานถึง 50 ปี กลุ่มผู้เข้าร่วมมาจากหลากหลายอาชีพ เป็นเสมือนคอร์สทำให้ใครหลายคนรู้จักฉีกกรอบออกมาทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น เขาสารภาพตามตรงว่า สาเหตุที่เข้าร่วมมีอยู่ 2 เหตุผล หนึ่งคือเพื่อนชวนไป สองคืออยากขายภาพวาดได้

Hifly

หลังจากนั้นคอร์สเริ่มลงรายละเอียดลึกขึ้นเรื่อยๆ ในงานสัมมนานั้นค่อยๆ เปลี่ยนมุมมองความคิดของไฮฟรายทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง เขายกตัวอย่างว่า ช่วงแรกมีปัญหากับครอบครัวบ่อย เพราะเป็นคนใจร้อน ทุกคนต้องฟังเขาคนเดียว ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไฮฟรายกับผู้ใหญ่ในบ้านไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะกับอาโกวและอาม่า

Hifly

หลังจากนั้นมา ไฮฟรายเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ เริ่มตั้งแต่การฟังก่อนที่จะพูดอะไรก็ตาม ฟังให้เข้าใจว่าเบื้องหลังคำพูดมากมายที่อาโกวกับอาม่าพร่ำบอกนั้น มีความหมายว่าอะไรบ้าง และพบว่ามันเต็มไปด้วยความห่วงใยและความรักทั้งนั้น จนสุดท้ายเขาเริ่มเข้าใจครอบครัวมากขึ้น ซึ่งต่อมามันขยายขอบเขตไปไกลกว่านั้น เหมือนพยายามเข้าใจมุมมองของคนอื่นในฐานะมนุษย์กับมนุษย์

“ความลำบากคือผมจะปล่อยวางนิสัยตัวเองยังไง แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับครอบครัว” ไฮฟรายยิ้มพร้อมโชว์ผลงานสัตว์ประหลาดจากการพับโอริกามิ

Hifly

ขับเคลื่อนโลกด้วยความเป็นมนุษย์

การหลุดออกจากกรอบของตัวเองและกรอบของสังคม หากผ่านพ้นมาได้แล้วคงไม่ต่างจากการยกภูเขาออกจากอก คำถามคือแล้วมันยากแค่ไหนกันนะ ที่ต้องทุบอีโก้ของตัวเอง เพื่อเปิดประสบการณ์การทำความเข้าใจโลกแห่งการไม่ตัดสิน การก้าวข้ามกรอบของสังคมสู่การโอบรับเสียงในใจของตัวเอง มันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกัน

Hifly

“โดยพื้นฐานทุกคนจะตัดสินใจด้วยการอิงจากการอยากเป็นที่ยอมรับในสังคม อยากเป็นที่รักของคนรอบข้าง ซึ่งพอใช้ชีวิตแบบนั้นแล้ว มันเหนื่อยมากนะ ถ้ารู้จักตรงนี้ รู้ทันมัน จะกลายเป็นจุดแข็งสำคัญในการใช้ชีวิตเลย ดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่มากนะ เพราะจะส่งผลต่อทุกการตัดสินใจ

“งั้นลองปรับเปลี่ยนมองในอีกมุมที่อยากเป็นอิสระบ้าง ไม่ต้องแบกความคิดเห็นของคนอื่นอีกต่อไป แล้วทุกคนจะค้นพบอีกเวอร์ชันของตัวเองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างที่ผมผ่านมันมาแล้ว”

Hifly

พอเขาผ่านจุดไม่สนใจใครนอกจากตัวเองมาได้ จึงอยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ใช้ชีวิตที่ทุกคนหลงใหลและหลงรักเหมือนกัน ในขณะเดียวกันไฮฟรายก็ยอมรับแรงบันดาลใจที่คนอื่นส่งให้เขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบางมุมมองบางเรื่องที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

นี่คือแพชชันของไฮฟราย ศิลปินผู้เติบโตมาได้เพียง 24 ปี แต่กลับพยายามทำความเข้าใจทุกมุมมองของเพื่อนมนุษย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนให้ทุกความฝันสามารถเป็นจริงได้ กลายเป็นสังคมที่โอบรับทุกความหลากหลาย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่การงานหรือเพศสภาพเท่านั้น หมายความรวมไปถึงการเติบโตทางจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์

“เป้าหมายของไฮฟรายคือการเริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ ให้สังคมโอบรับทุกความชอบ เพื่อให้ทุกความฝันร่วมชนะไปด้วยกัน”

สามารถติดตามผลงานของไฮฟรายต่อได้ที่ IG: _hifly (https://www.instagram.com/_hifly/)

Tags: