Real Simple
ส่องหัวใจล้านนาผ่านประเพณียี่เป็งโบราณของชุมชนเวียงท่ากาน สันป่าตอง
- พามารู้จักประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณผ่าน ‘งานยี่เป็งเวียงท่ากาน’ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ชุมชนเวียงท่ากานอันเข้มแข็ง พลังการอนุรักษ์และสืบทอดประเพณียี่เป็งล้านนาโบราณ ที่ยังคงกลิ่นอายบรรยากาศย้อนยุคในฉบับเชียงใหม่
ยกมือขึ้นถ้าคุณคิดว่าประเพณียี่เป็งคือการอธิษฐานขอพร พร้อมปล่อยโคมลอยสวยๆ ขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็แชะภาพถ่ายรูปเป็นอันเสร็จ นั่นดูจะเป็นสูตรสำเร็จที่หลายคนนึกเมื่อพูดถึง ‘ประเพณียี่เป็ง’
ความจริงแล้วหัวใจสำคัญของยี่เป็งคืออะไร และยี่เป็งแบบล้านนาโบราณจริงๆ นั้นหน้าตาเป็นแบบไหน
ONCE รวบรวมสิ่งที่หลายคนอาจเคยเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเพณียี่เป็งล้านนา ไปขอคำตอบจาก กอล์ฟ-วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเรายังพาทุกคนไปชมประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณ ณ โบราณสถานเวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่ยังคงหลงเหลืออัตลักษณ์ประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณ

ปูเสื่อปรับพื้นฐานใหม่
แรกเริ่มขอกางเสื่อ ตั้งกระดานดำ รับบทเป็นคุณครูมาปูพื้นฐานความรู้ยี่เป็งใหม่ก่อน อันดับแรกต้องทำความเข้าใจใหม่ว่า ยี่เป็งไม่ใช่ลอยกระทง ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรก หัวใจสำคัญของยี่เป็งไม่ใช่การขอขมาพระแม่คงคาเหมือนการลอยกระทง ซึ่งน่าจะเป็นความเข้าใจผิดจากเหตุที่ยี่เป็งจัดตรงกับวันลอยกระทง
ยี่เป็งเป็นพระเพณีที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อของชาวล้านนากับศาสนาพุทธ หัวใจสำคัญเกี่ยวข้องกับเวสสันดรชาดก กิจกรรมส่วนใหญ่จึงมีกลิ่นอายของศาสนาเต็มเปี่ยม

“แต่เราว่าหัวใจหลักของยี่เป็งแบบล้านนา คือ ความร่วมมือกันภายในชุมชน” อาจารย์กอล์ฟบอกเรา
เพราะเมื่อใกล้ถึงวันยี่เป็ง ชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่วัด ร่วมมือร่วมใจทำซุ้มประตูป่าเพื่อรอต้อนรับพระเวสสันดร สร้างเขาวงกตอันเป็นสัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุ แต่อีกนัยก็หมายความถึงการจำลองป่าในเวสสันดรชาดก แขวนโคมและจุดผางประทีปเพื่อบูชาพระแม่กาเผือกและพระพุทธเจ้า
ปัจจุบันประเพณียี่เป็งปรับเปลี่ยนไปตามโลกทุนนิยม หัวใจหลักถูกลบเลือนจนลืมหาย กลายเป็นให้ความสำคัญอยู่เพียงแค่การปล่อยโคมลอยขึ้นบนท้องฟ้า ถ่ายรูปออกมาสวยๆ ละเลยจุดมุ่งหมายสำคัญของยี่เป็งไป จะมีใครตระหนักรู้บ้างหรือไม่ว่า แท้จริงแล้วยี่เป็งแบบล้านนาจริงๆ เป็นอย่างไร

อดีตเวียงท่ากาน
‘งานยี่เป็งเวียงท่ากาน’ ณ เวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ คือประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณของชุมชนเวียงท่ากานที่โดดเด่นเรื่องการอนุรักษ์สืบทอดประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณไว้ และยังคงกลิ่นอายบรรยากาศย้อนยุคในฉบับเชียงใหม่
ก่อนไปถึงประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณ เราขอพาย้อนอดีตกลับไปรู้จักประวัติศาสตร์ของเวียงท่ากานกันก่อนดีกว่า ต้องบอกว่าเวียงท่ากานมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียว จากหลักฐานระบุว่า เวียงท่ากานเป็นเมืองโบราณสมัยหริภุญไชย และเจริญรุ่งเรืองมาก ยืนยันได้จาก ‘โถราชวงศ์หยวน’ ซึ่งปัจจุบันพบเพียง 3 ใบบนโลกเท่านั้น! จากการสันนิษฐานพบว่า โถราชวงศ์หยวนน่าจะเป็นเครื่องราชบรรณาการจากจีน แสดงให้เห็นความมั่งคั่งของเวียงท่ากาน โถชิ้นนี้ถือว่าเป็นพระเอกที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเวียงท่ากานได้เป็นอย่างดี

สถาปัตยกรรมและโบราณสถานของเวียงท่ากานก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปดินเผา ชิ้นส่วนเศษเครื่องถ้วย พระพุทธรูปหินทราย ลวดลายปูนปั้นต่างๆ รวมถึงการพบยอดของซุ้มประตูโขง ปรากฏสัญลักษณ์เป็นรูปนกยูง ซึ่งหมายความถึงพระอาทิตย์ คนล้านนามีความเชื่อว่าทางเข้าประตูโขงเปรียบเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น ลวดลายศิลปสถาปัตยกรรมบนยอดของซุ้มประตูโขงจึงประณีตและงดงาม
ทั้งหมดนี้ชาวบ้านในชุมชนเวียงท่ากานเป็นเสียงสำคัญที่เสนอให้กรมศิลปากรเข้ามาดูแล อนุรักษ์ และสืบสานศิลปกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนได้รับโล่พระราชทานในฐานะผู้สนับสนุนการอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2531

ทำไมเราต้องเล่าย้อนกลับไปไกลขนาดนั้น เหล่านี้แสดงให้เห็นอะไร? ต้องบอกว่าอดีตเวียงท่ากานรุ่งโรจน์ด้วยโบราณวัตถุ ปัจจุบันชาวเวียงท่ากานก็รุ่มรวยวัฒนธรรมเช่นกัน ชาวบ้านให้ความสำคัญกับ ‘รากเหง้า’ ของตัวเอง สนับสนุนและผลักดันจนทำให้พื้นที่โบราณสถานเวียงท่ากานกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ไม่เพียงเท่านั้นชาวบ้านยังต้องการรื้อฟื้นประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณขึ้นมา ด้วยความตั้งใจสืบสานประเพณีวัฒนธรรมล้านนาให้คงอยู่ต่อไป

ยี่เป็งเวียงท่ากาน
ทำไมต้องไปงานยี่เป็งที่เวียงท่ากาน นั่นคือคำถามในใจของใครหลายคน (รวมถึงเราด้วย) สืบเนื่องจากความรักในรากเหง้าของตัวเอง ชุมชนเวียงท่ากานเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง มีเสน่ห์ที่ความสามัคคีร่วมมือร่วมใจ อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย ถึงแม้บริเวณเวียงท่ากานจะมีผู้อยู่อาศัยผลัดเปลี่ยนเข้ามาบ่อยครั้ง แต่ช่วงสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงคือการเข้ามาอยู่อาศัยของชาวไทเขิน เอกลักษณ์สำคัญของชาวไทเขินคือการนุ่งชุดเขิน เคียนหัวด้วยผ้าพื้นสีขาว
“ประชากรชาวเวียงท่ากานส่วนใหญ่เป็นชาวไทเขินกับคนเมือง แต่เขาก็ถือว่าทุกคนคือลูกหลานท่ากาน” อาจารย์กอล์ฟกล่าวย้ำ



เมื่อเริ่มรู้ประวัติศาสตร์ของโบราณสถานเวียงท่ากานและรู้จักชาวบ้านในชุมชนแล้ว จากนั้น เราถือโอกาสถามถึงจุดสำคัญที่ทำให้ยี่เป็งเวียงท่ากานแตกต่างจากที่อื่น
อาจารย์กอล์ฟยิ้มพลางชี้ให้เราดูบรรยากาศภายในงานยี่เป็งเวียงท่ากาน สิ่งที่มองเห็นคือความร่วมมือของคนตัวเล็กๆ ในชุมชนเวียงท่ากาน จนเกิดออกมาเป็นประเพณียี่เป็งที่อบอุ่นและคงความสนุกสนานสมกับคำว่าประเพณีจริงๆ เหล่าคุณแม่คอยดูแลการทำโคมแขวนล้านนา สร้างซุ้มประตูป่า และจัดทำเขาวงกต ชาวบ้านบางส่วนกระจายตัวช่วยกันดูแลจัดสถานที่กาดหมั้ว การทำผางประทีป ประดับตกแต่งโคมแขวนล้านนา ดีไซน์โคมฮังมดส้มแบบร่วมสมัยชวนน่าถ่ายรูป

“ทุกที่มียี่เป็งเหมือนกันหมด แต่ความแตกต่างของยี่เป็งเวียงท่ากาน คือความเข้มแข็งของชาวบ้าน ความตั้งใจที่จะรื้อฟื้นยี่เป็งแบบล้านนาโบราณขึ้นมา โอเคแน่นอน อาจจะไม่ได้เป็นยี่เป็งแบบดั้งเดิม 100% แต่บรรยากาศจะแตกต่างจากยี่เป็งที่อื่นแน่นอน และสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์หาดูที่อื่นยาก คือการปล่อยโคมลอยลอดห่วง อันนี้คือเอกลักษณ์ของชุมชนเวียงท่ากานเลย
“ยี่เป็งเวียงท่ากานจะให้ความสำคัญที่ความสามัคคีเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าไม่มีการแข่งขัน ถ้ามีก็จะเป็นการแข่งขันเพื่อความสามัคคี มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันไป ยกตัวอย่างการแข่งปล่อยโคมลอยลอดห่วง บางคนเขาก็จะซ่อนประทัดเล็กๆ ตามเทคนิคแต่ละคนไป”

เลือนลางและจางหาย
ไฮไลต์ของยี่เป็งแบบล้านนาโบราณคือความร่วมมือกันภายในชุมชน เริ่มตั้งแต่การทำผางประทีป ช่วยกันตกแต่งซุ้มประตูป่าหน้าอาคาร ประดิษฐ์โคมแขวนล้านนา ทุกขั้นตอนจะหลีกเลี่ยงการซื้อขาย เน้นออกแบบตามสไตล์ชาวบ้าน ใจความสำคัญคือการทำบุญใหญ่และความร่วมมือร่วมใจของแต่ละชุมชน
ปัจจุบันไฮไลต์สำคัญของยี่เป็งแบบล้านนาโบราณเริ่มสูญหาย หรือบางพิธีกรรมก็ยังคงมีอยู่ แต่ความเชื่อเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งสำคัญคือผู้คนไม่ได้ตระหนักถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเพณียี่เป็งอย่างแท้จริง ยังคงมองยี่เป็งแบบผิวเผิน ความเป็นจริงประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นคือสิ่งที่สะท้อนรากเหง้าของคน ผสมผสานกับความเชื่อ วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น แล้วแสดงออกมาเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน เราจึงจำเป็นต้องรู้ว่าประเพณีนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร และเราปฏิบัติสืบทอดกันต่อมาทำไม เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษ

ชุมชนเวียงท่ากานจึงพยายามรักษาต้นแบบของยี่เป็งแบบล้านนาโบราณไว้ โดยการจำลองให้คล้ายคลึงแบบโบราณมากที่สุด นอกจากพิธีกรรม ศิลปกรรม จิตรกรรม สิ่งนี้แหละคือความน่ารัก หาดูที่ไหนไม่ได้ และยากที่จะมีที่ไหนเลียนแบบคือ ‘ความอบอุ่น’ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความน่ารักในการร่วมมือร่วมใจกันจัดงานยี่เป็ง เราไม่มีทางรู้ว่า ครอบครัวไหนเป็นครอบครัวไหนแน่นอน ความสนิทชิดเชื้อถูกถักทอผ่านความร่วมมือราวกับทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ทุกคนเติบโตมาจากรากเดียวกัน และมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน บรรยากาศภายในงานจึงคล้ายกับงานเทศกาลในชุมชนซึ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่น ที่ทำให้เราอยากเข้าไปสัมผัสกลิ่นอายนี้อีกหลายๆ ครั้ง
“เราคิดว่าวันยี่เป็งก็คล้ายกับวันคริสต์มาสของฝรั่งเนอะ” จู่ๆ เพื่อนในทีมก็พูดขึ้นมา
เทศกาลที่ทุกคนกลับบ้านเพื่อมาเฉลิมฉลองบุญใหญ่แห่งปี การละเล่นพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น การร่วมทำกิจกรรมทางศาสนากับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง ความแน่นแฟ้นภายในชุมชน สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือไฮไลต์ที่แท้จริงในประเพณียี่เป็งล้านนา

จุดยืนในโลกปัจจุบัน
อาจารย์กอล์ฟยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จุดแข็งของเวียงท่ากานคือสามารถปล่อยโคมลอยได้ แน่นอนว่าเราก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการละเล่นปล่อยโคมลอยลอดห่วงด้วย เห็นได้ชัดว่า นี่ไม่ต่างจากแข่งขันกีฬาสีพื้นบ้าน ทุกคนไม่ได้มองรางวัลเป็นเรื่องหลัก แต่ความสนุกสนานระหว่างการร่วมละเล่นต่างหากคือหัวใจสำคัญ เราเห็นครอบครัวช่วยกันเล็งจุดที่น่าจะปล่อยโคมลอยลอดห่วงผ่าน ใครมาคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะเราเห็นลุงป้าน้าอาเข้าไปช่วยจับโคม ช่วยถ่ายรูป ทั้งยังช่วยบอกจุดที่คาดว่าน่าจะปล่อยให้โคมลอยลอดห่วงผ่าน เราเห็นความมีน้ำใจในการแข่งขัน ซึ่งในความเป็นจริงไม่อาจเรียกได้ว่าการแข่งขันด้วยซ้ำ เพราะทุกคนล้วนช่วยลุ้นให้ผู้ปล่อยโคมลอยให้สามารถลอยลอดห่วงได้ บางคนถึงขั้นส่งเสียงกรี๊ดดีใจเมื่อคนข้างๆ ปล่อยโคมลอยลอดห่วงสำเร็จ ขณะที่บางคนก็ช่วยแนะนำทิศทางลมให้ด้วยซ้ำ

ประเพณีบางอย่างจะให้คงสภาพเดิมก็ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงย่อมมาถึงในสักวัน สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะยังหลงเหลือแก่นสารสำคัญอยู่ไหม อาจารย์กอล์ฟให้ความเห็นว่า สำหรับเวียงท่ากาน จุดสำคัญคือไม่ได้เน้นการปล่อยโคมเป็นจุดขายในการท่องเที่ยว ที่นี่กำหนดมาแล้วว่า จะปล่อยกี่วัน ทั้งหมดกี่โคม ดังนั้น โคมที่ปล่อยจึงมีจำนวนไม่มาก รวมถึงติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย สำหรับใครที่กังวลในส่วนนี้สามารถสบายใจได้

“สำหรับใครที่อยากมาชมยี่เป็งเวียงท่ากานก็ต้องเช็กรอบตั๋วเครื่องบินก่อนเป็นอันดับแรก ถ้ามาช่วงเวลาก่อนถึงวันปล่อยโคมลอยก็จะดีมาก รับรองเลยว่า ยี่เป็งเวียงท่ากานไม่เหมือนยี่เป็งที่อื่นที่เคยไปมาอย่างแน่นอน”
ใครอยากเห็นประเพณียี่เป็งแบบล้านนาโบราณสักครั้งในชีวิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : เวงตะก๋าน-เวียงท่ากาน โทร. 089-554-9699