- บ้านหล่อโย เป็นชุมชนชาวอาข่าที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนดอยแม่สลอง จ.เชียงราย โดยได้นำการท่องเที่ยวชุมชนไปเป็นเครื่องมือพัฒนาชุมชนโดยไม่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตดั้งเดิม
- กิจกรรมชุมชนมีทั้งเรื่องทำอาหาร เดินป่า เดินชุมชน การละเล่นพื้นบ้าน และกิจกรรมเชิงวิถีชีวิต ให้นักท่องเที่ยวสัมผัสและสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยตัวเอง
“เรารับนักท่องเที่ยวที่ยอมรับในสิ่งที่เรามี” โยฮันกล่าวถึงบ้านหล่อโย บ้านเกิดของเขาในฐานะชุมชนท่องเที่ยวที่มีเงื่อนไขหลายประการอันเป็นอุปสรรคต่อนักเดินทาง ทั้งเรื่องระยะทางไกลจากตัวเมืองเชียงราย ไม่มีรถสาธารณะผ่าน เส้นทางเข้าชุมชนยังลำบาก แต่... ถ้าไม่โฟกัสในสิ่งที่บ้านหล่อโย ‘ขาด’ แต่มองในสิ่งที่ชุมชนนี้ ‘มี’ เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยจะดั้นด้นมาสัมผัสด้วยตัวเอง
บ้านหล่อโย ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
บ้านหล่อโย ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนดอยแม่สลอง จ.เชียงราย เป็นชุมชนชาวอาข่าร้อยเปอร์เซ็นต์ มีประมาณ 65 ครัวเรือน ชาวบ้านราวๆ 300 คน ประกอบอาชีพเป็นชาวสวนปลูกลิ้นจี่ เชอร์รี่ กาแฟ และข้าว ถ้าใครเคยไปเที่ยวดอยแม่สลองจะต้องผ่านทางเข้าชุมชนนี้แบบไม่รู้ตัว
ตัวละครสำคัญของบ้านหล่อโยคือ โยฮัน – ประกาศิต เชอมือกู่ ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาเป็นหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งกลับจากการท่องโลก กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอย่างถาวร พร้อมเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่จะพัฒนาชุมชน โดยเขาได้เริ่มจากการพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ ด้วยการสร้างถังขยะ สอนเด็กๆ ให้รู้จักการทิ้งขยะและเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นชุมชน ไปพร้อมๆ กับการปลูกจิตสำนึกให้เด็กๆ รักบ้านเกิดของตัวเอง
เมื่อทำชุมชนให้น่าอยู่แล้ว โยฮันก็เริ่มสร้างบ้านดิน 4 ห้องง่ายๆ เป็นการเข้าสู่เฟส 2 ด้วยการเปิดที่พักรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมจัดโปรแกรม ‘เรียนรู้’ วิถีชุมชน โดยเขาพยายามทำให้คนในชุมชนเห็นว่า การท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาทำลาย แต่มาสร้างรายได้เพิ่มเติมจากสิ่งที่ทำอยู่ โดยที่ไม่ต้องทิ้งอาชีพเดิม ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และไม่ถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลง
ตั้งแต่ปี 2550 โยฮันปลุกปั้นการท่องเที่ยวชุมชนมาตลอด จนถึงวันนี้ครอบครัวของเขายังเป็นชาวสวนปลูกลิ้นจี่และกาแฟเหมือนเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือ บ้านดินหลังใหม่ที่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น พร้อมๆ กับการมีชื่อ บ้านหล่อโย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของชุมชนท่องเที่ยวในเชียงราย
กล่าวมาเสียยืดยาว เกือบลืมไปเลยว่าจะโฟกัสไปที่บ้านหล่อโย ‘มี’ มีอะไรบ้าง?
อาหาร อาข่า อร่อย
มื้อแรกที่บ้านดินส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยมื้อเย็น (เพราะกว่าเดินทางมาถึงก็เย็นย่ำแล้ว) ต้อนรับด้วยอาหารอาข่า 4-5 อย่างพร้อมข้าวดอยหอมฉุย เมนูกับข้าวจะปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบแต่ละฤดูกาล แต่เมนูที่ทำบ่อยๆ จะมาจากผักสวนครัวแถวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกอาข่า หรือ น้ำพริกมะเขือส้ม โดยนำมะเขือส้มมาตำกับพริกสด ใส่ผักชีและต้นหอมเพิ่มรสชาติ ผัดยอดฟักแม้ว แกงอาลูหรือซุปมันฝรั่งสูตรอาข่า ถ้าได้ซดร้อนๆ กลางอากาศหนาวๆ จะฟินที่สุด และผัดไข่ใส่ยอดฟักทอง เป็นเมนูง่ายๆ ที่นักท่องเที่ยวมักขอเพิ่มเสมอ โดยอาหารทั้งหมดจะถูกจัดใส่ไว้ในภาชนะไม้ไผ่ (ช้อนก็ทำจากไม้ไผ่) สะท้อนถึงความเรียบง่ายตามธรรมชาติของชาวบ้านที่นี่
และช่วงเวลาอาหารเย็นยังเป็นช่วงเวลาสำคัญในการแลกเปลี่ยนบทสนทนาระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้มาเยือน
โยฮันจะใช้ช่วงเวลานี้บอกถึงที่มาที่ไปของเมนูแต่ละอย่างที่ทุกคนกำลังอร่อย บอกเล่าเรื่องราวของชุมชน บอกถึงวิถีชีวิตชาวอาข่า วัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา และยาวไปถึงกิจกรรมในวันรุ่งขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกได้ว่าจะไปเส้นทางไหน อยากเรียนรู้อะไร โดยจะมีโยฮันเป็นไกด์ และมีเด็กๆ ในชุมชนติดสอยห้อยตามไปด้วย
เดินชุมชน
สิ่งที่ทำกับชื่อกิจกรรมตรงไปตรงมาตามนั้น กิจกรรมเดินชุมชนเป็นการ ‘เดิน’ ชุมชนจริงๆ หากเจอใครระหว่างทางก็แวะพูดคุย บ้านไหนทำอาหารอยู่ก็ถูกเรียกให้ชิม สวนไหนมีผลไม้ก็อนุญาตให้เด็ดชิมได้ โดยจะเจาะจงเดินผ่านบ้านที่มีกิจกรรมให้เรียนรู้ อย่างบ้านทำจักสานเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำ ผ่านบ้านเผาถ่าน บ้านเลี้ยงหมูหลุม หรือบ้านทอผ้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงมือทำหรือถ้าใครสนใจก็สามารถอุดหนุนได้โดยตรง เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าแค่มองแล้วเดินผ่านไป
เดินป่า ปลูกกล้า กินหลาม
นอกจากเส้นทางในชุมชน บ้านหล่อโยยังมีเส้นทางเดินป่าสำรวจความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ชาวบ้านช่วยกันดูแล ไกด์โยฮันจะพาเดินศึกษาธรรมชาติพร้อมมองหาวัตถุดิบจากดิน จากต้นไม้ เช่น เห็ด หน่อไม้ พืชผัก สมุนไพร จะเก็บติดไม้ติดมือไปไว้สำหรับมื้อเที่ยงที่จะกระทำการความอร่อยกันกลางป่า โดยจะหุงข้าวและปรุงอาหารในกระบอกไม้ไผ่ตามวิถีชีวิตจริงๆ ของชาวบ้านเมื่อต้องเข้าป่าหรือเข้าสวนไกลๆ
ไม่เพียงเท่านั้น กล้าไม้ที่โยฮันพกติดตัวมาจะเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องปลูกมัน เพราะเขาเชื่อว่า ถ้าใครได้ปลูกต้นไม้ด้วยตัวเองแล้วจะรู้สึกใกล้ชิดและรักธรรมชาติมากกว่าเดิม และการปลูกป่ายังเป็นกลยุทธ์ให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนชุมชนบ่อยๆ เพื่อกลับมาดูต้นไม้ที่ตัวเองปลูกอีกด้วย
อยู่บ้าน ร้อยกำไล
ส่วนวัตถุดิบจากป่าที่เหลือจากมื้อกลางวัน โยฮันจะนำกลับบ้านเพื่อใช้เป็นอาหารสำหรับมื้อต่อไป ช่วงเวลาเข้าครัวของคุณแม่ของโยฮันจะแปรเปลี่ยนเป็น Cooking Class ให้คนที่อยากลองทำอาหารมาตำน้ำพริกเอง ต้มแกงเอง เจียวไข่เอง หรือถ้าใครไม่ถนัดงานครัว ก็หันไปทำงานฝีมือแทนกับการร้อยกำไลจากลูกปัดธรรมชาติ ทำเสร็จก็เก็บไว้เป็นของที่ระลึกจากบ้านดินได้เลย
นอกจากนี้ ในฐานะที่บ้านดินเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวชุมชน จึงทำให้เด็กๆ ชอบมารวมตัวกันเพื่อมาสนทนากับผู้มาเยือนแปลกหน้าอยู่เสมอ ฝั่งนักท่องเที่ยวเองก็จะได้สนุกไปกับเด็กๆ ทั้งการเล่นลูกข่างไม้ เดินไม้ไผ่ 2 ขา ซิ่งสามล้อดอย เรียนภาษาอาข่า ร้องเพลงเต้นระบำอาข่า หรือโล้ชิงช้า กลายเป็นอีกหลายกิจกรรมที่ไม่ต้องเขียนลงโปรแกรม แต่ได้ทำตามวิถีของเด็กจริงๆ
ถ้าไม่โฟกัสในสิ่งที่บ้านหล่อโย ‘ขาด’ แต่มองในสิ่งที่ชุมชนนี้ ‘มี’ เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยจะดั้นด้นมา เพราะสิ่งที่บ้านหล่อโยมี หาไม่ได้จากที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นบ้านดินที่โยฮันปั้นขึ้นมากับมือ อาหารอาข่าสูตรแม่ กำไลที่มีเส้นเดียวในโลก ต้นไม้ชื่อตัวเอง รวมไปถึงรอยยิ้มของเด็กๆ และไมตรีจากชาวบ้าน ซึ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นที่นี่ ที่เดียว
Contact
ติดต่อบ้านดิน อาข่า และการท่องเที่ยวชุมชนบ้านหล่อโย โทร. 09-3258-9994 (โยฮัน)
เฟซบุ๊ก Akha Mudhouse Maesalong
Note to Know
ปัจจุบันบ้านหล่อโยมีที่พักแห่งเดียวที่ บ้านดิน อาข่า มีทั้งแบบบ้านดินและลานกางเต็นท์ โดยห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัว ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และต้องจองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทาง หากไม่มีรถส่วนตัว สามารถติดต่อรถรับ-ส่ง จากสนามบินเชียงรายหรือจากโรงแรมในตัวเมือง (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
บ้านหล่อโยสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี หน้าร้อนจะเย็นสบาย หน้าฝนจะชุ่มฉ่ำจนรู้สึกหนาว และหน้าหนาวจะมีอากาศหนาวจัด และมีทะเลหมอกให้ชมเกือบทุกเช้า