เปิดด้อม…Big Black Box

Big Black Box คือ ผู้จัดจำหน่ายสารกาแฟ (เมล็ดกาแฟดิบที่ยังไม่ผ่านการคั่ว) เป็น International Green Coffee Market คัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง มีเมล็ดจากหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายแหล่งจากทั่วโลก เพื่อให้มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

สินค้าที่วางขายจึงไม่ใช่เมล็ดคั่ว แต่เป็นเม็ดเขียวทั้งหมด เป็นเหมือน Market Place ของคนคั่วกาแฟ มีให้เลือกตั้งแต่เกรดคอมเมอร์เชียลไปจนถึงเกรดสเปเชียล

ส่วนคอนเซ็ปต์และเป้าหมายหลักๆ คือ การเป็น  Green Bean Market ที่มีพื้นที่ให้คนรักกาแฟได้มามาพบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนความรู้ จึงเปิด Slowbar & Speedbar บริเวณด้านล่างเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

มากกว่านั้น Big Black Box ยังมี Lab Cupping สำหรับการตรวจสอบเมล็ดกาแฟในทุกครั้งที่นำเข้า “ทีมเราจะชิมพร้อมกับเช็คคุณภาพ และหา Cupping note ของกาแฟแต่ละตัว ตามหลักมาตรฐาน SCA Cupping Protocol” เธออธิบายพร้อมสาธิตวิธีการให้ดูแบบคร่าวๆ

Big Black Box จึงให้ความสำคัญกับการคัปปิ้งเพื่อตรวจสอบคุณภาพ และดูว่ากาแฟที่ได้มาในแต่ละล็อตแตกต่างกับของเดิมอย่างไร

ปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสนใจเมล็ดกาแฟดิบได้มาร่วมใช้พื้นที่ในการทดลองคั่ว ชิม ชง ปรับสูตรต่างๆ เพื่อให้เข้ากับคาเฟ่ ร้านค้า รวมไปถึงโรงคั่วกาแฟของลูกค้า

เรื่องเล่าจากต้นน้ำ

‘ใส่ใจในทุกรายละเอียด’ คือสิ่งที่ Big Black Box ยึดถือและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามาโดยตลอด จึงมีทีมขึ้นไปยังพื้นที่ปลูกในทุกๆ ปีเพื่อติดตามผลผลิต ควบคุมคุณภาพ ก่อนจะส่งตรงถึงมือลูกค้าในทุกๆ ครั้ง ทั้งยังเข้าไปช่วยพัฒนาโปรเสสเพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่เห็นภาพตามว่า เมื่อคุณภาพออกมาดีจะสืบเนื่องให้ราคาดีขึ้นตามไปด้วย

แม้การสร้างรายได้และอาชีพให้คนในกลุ่มจะเป็นหนึ่งในความมุ่งหวัง แต่ก็ต้องควบคู่ไปกับการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะการจะยืนระยะธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น…มีกฎเหล็กสามัญอยู่ว่า ‘ต้องไม่ละเลยการพัฒนาศักยภาพคน’

แยมแชร์เรื่องเล่าจากคนต้นน้ำให้เราได้ฟังว่า พวกเขาให้ความสำคัญตั้งแต่การรักษาและถนอมสิ่งที่พันธุ์กาแฟมอบให้อย่างดี โดยไม่เติมแต่งรส หรือแม้แต่ปรุงกลิ่นเข้าไป ผลตอบรับที่ได้จึงเป็นเสียงเดียวกันว่า เมล็ดกาแฟมีคุณภาพ บางพื้นที่ก็ใช้วิธีการปลูกแบบแวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ในป่าต้นน้ำ เลยทำให้เมล็ดกาแฟได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีๆ อย่างรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมตามธรรมชาติ

ความทุ่มเททั้งหมดก็เพื่อจะส่งต่อกาแฟให้คนที่รักการดื่มกาแฟได้รับรสชาติและกลิ่นที่มาจากต้นกาแฟจริงๆ

ในขณะเดียวกันกระแสที่จัดว่ามาแรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับช่วงที่ผ่านมาคือ คนดื่มต้องการกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม…

เมื่อคอกาแฟเริ่มใส่ใจความกรีนมากขึ้น ก็เริ่มถามถึงแหล่งที่มา เบื้องหลังการปลูก ไปจนถึงขั้นตอนวิธีการแปรรูปต่างๆ นานา Big Black Box จึงเลือกใช้กลยุทธ์ ‘ส่งต่อความจริง…การันตีความเจ๋ง’ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวจากคนต้นน้ำผ่านทางเพจอยู่เสมอ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจของลูกค้าได้ดีเลยทีเดียว

เข้าใจกาแฟไม่พอ ต้องเข้าใจลูกค้า

อีกเรื่องที่แยมพูดถึงคือ Big Black Box ตั้งใจเป็นเหมือนคนกลางที่จะเพิ่มวาไรตี้ให้กับกาแฟในเมืองไทย ด้วยเหตุนี้จึงเน้นทั้งสารกาแฟไทยและนำเข้า “เราพยายามทำให้มันมีความหลากหลายเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าพอเข้าร้านกาแฟ 10 ร้าน แล้วใช้กาแฟเหมือนกันหมดเลย เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น” เธอบอกอย่างรวบรัดให้เราเข้าใจ

อย่างที่รู้กันว่าเมล็ดกาแฟแต่ละตัวมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่าง กลิ่นและรสสัมผัสล้วนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ความซับซ้อนมันเริ่มตั้งแต่พื้นที่ปลูก ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ กระบวนการผลิต กระบวนการแปรูป ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลให้แต่ละตัวมีจุดเด่นแตกต่างกัน  และจุดเด่นเฉพาะตัวนี้เองที่สร้างความตื่นเต้นให้คอกาแฟ ได้เฟ้นหารสชาติที่ถูกปาก เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

จนถึงวันนี้นับเป็น 5 ปี ที่ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ใช้มัดใจลูกค้าคือพื้นฐานธรรมดาอย่าง คุณภาพและบริการ

“เราเน้นของดี รับผิดชอบในของที่ส่งให้ลูกค้า เราขายของตามความเป็นจริง ต้องเข้าใจว่ากาแฟเป็นสินค้าเกษตรเลยไม่สามารถควบคุมได้100% ล็อตไหนมาคุณภาพแบบไหนเราจะแจ้งลูกค้าตามจริง ที่สำคัญคุณภาพกับราคาต้องไปด้วยกัน”

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์สักแบรนด์จะเข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้าได้ แต่เมื่อความจริงใจมัดรวมมากับความสม่ำเสมอแล้วละก็…ความเชื่อใจและความไว้วางใจก็ตามมาได้ไม่ยาก

ถ้าอยากได้คำปรึกษาดีๆ ในการทำธุรกิจกาแฟ ให้เดินมาที่ Big Black Box แล้วคุณจะได้ความรู้ความเข้าใจดีๆ กลับไปอย่างแน่นอน หรือจะมานั่งดื่มกาแฟที่หน้าบาร์เพื่อลิ้มรสกาแฟดีๆ สักแก้วก็น่าสนใจไม่แพ้กัน