![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/03/Cover-61.jpg)
- ดวงตวัน บ้านสวน เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างจังหวัด แต่พิกัดอยู่หนองจอก
- แนะนำสำหรับกลุ่มครอบครัว ที่ต้องการหากิจกรรมวันหยุดให้ลูกๆ ได้ลองทำงานบ้าน งานสวน และงานครัว
- ตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ ที่ต้องการมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง ได้ลองทำเกษตร และอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ
อยากมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง...
มนุษย์กรุงเทพฯ น่าจะเคยพูดแบบนี้กับตัวเอง แถมเคยอิจฉาเพื่อนที่มีบ้านนอกให้กลับ แต่รู้ไหมว่าเพียงขยับออกไปนอกเมืองเล็กน้อย คุณจะได้พบกับ ‘ดวงตวัน บ้านสวน’ มีทุ่งนา แปลงผัก ใต้ถุนบ้าน ช่วยเติมเต็มความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านต่างจังหวัด แบบไม่ต้องไปไหนไกล
ใครเคยผ่านไปแถวหนองจอกน่าจะนึกภาพชนบทของย่านนี้ออก กลางสี่แยกยังมีหอนาฬิกา ริมทางยังมีที่ว่าง และยังเห็นเรือกสวนไร่นาจนลืมไปว่าอยู่กรุงเทพฯ ดวงตวัน บ้านสวน ตั้งอยู่ในย่านนี้ ริมถนนคลองสิบสามฝั่งตะวันตก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นบ้านของสองพี่น้องที่ไม่ได้มีอาชีพเกษตรกร แต่เป็นคนเมืองที่อยากใช้ชีวิตวัยเกษียณกับวิถีเกษตรและธรรมชาติ
แม่อุ้ย-อภิสิรี จรัลชวนะเพท ยินดีเปิดบ้านให้เราไปเยี่ยมชม ส่วนลุงแอนดี้-เอกอุดม จรัลชวนะเพท (พี่ชายแม่อุ้ย) ใจดีเข้าครัวทำอาหารสูตรโฮมเมดให้เราชิม
ที่มาของดวงตวัน
ก่อนอื่นเลย… ดวงตวัน ไม่ได้เขียนว่า ดวงตะวัน เพราะอยากให้เป็นชื่อเฉพาะของบ้านหลังนี้
ดวงตวัน บ้านสวน มีพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว แปลงผัก บ่อน้ำ และบ้าน เป็นผืนดินที่ปราศจากสารเคมีมานานหลายสิบปี สองพี่น้องจึงลงมือทำเกษตรอินทรีย์อย่างที่ตั้งใจ และได้เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรธรรมชาติ
ที่มาที่ไปเริ่มมาจากการเป็นห้องเรียนธรรมชาติของเด็กๆ เนื่องจากแม่อุ้ยเป็นเจ้าของอนุบาลบ้านรัก (ที่มาของคำเรียกติดปากว่า แม่อุ้ย ก็มาจากคำเรียกคุณครูว่าแม่) ซึ่งเป็นการศึกษาแบบวอลดอร์ฟ และเธอยังเป็นผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวอลดอร์ฟในประเทศไทย
เธอจึงเปิดบ้าน เปิดสวน และจัดกิจกรรมให้เด็กๆ มาเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ก่อนจะขยายวงกว้างไปยังโรงเรียนทางเลือกอื่นๆ จนได้กลายเป็นสถานที่จัดงานประจำปี ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ที่นี่จะจัดงานแฟร์เล็กๆ และมีเวิร์คช็อปสำหรับเด็กและครอบครัว
ดังนั้นจะพูดว่าชวนมา “เที่ยว” ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ไม่ใช่ร้านอาหาร แต่เป็น “แหล่งเรียนรู้” วิถีเกษตรธรรมชาติที่ถ้าใครสนใจต้องติดต่อล่วงหน้าง่ายๆ แค่ยกหูหาแม่อุ้ยเท่านั้นเอง
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/03/ดวงตวัน-1.jpg)
งานบ้าน งานสวน งานครัว
สิ่งที่บ้านหลังนี้มีให้ อยู่ภายใต้ร่ม 3 อย่าง คือ งานบ้าน งานสวน และงานครัว
คนที่มา สามารถดีไซน์กิจกรรมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าว สีข้าว เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว ปลูกผัก ทำปุ๋ยหมัก เรียนรู้การจัดการขยะ ไปจนถึงเรื่องพัฒนาการเด็ก สูตรอาหาร หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตเกษียณอย่างมีความสุข โดยในเรื่องการทำเกษตรจะมีเกษตรกรตัวจริงมาให้ความรู้ ส่วนเรื่องงานบ้านและงานครัว สองพี่น้องจะเป็นคนดูแล ทุกกิจกรรมจะได้ลงมือทำ เหมือนได้มาลองใช้ชีวิตวิถีเกษตร และอยู่กับธรรมชาติในบ้านนอกของตัวเองหนึ่งวัน
โดยแต่ละกลุ่มอาจดีไซน์กิจกรรมต่างกัน แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือ ช่วงเวลา “อาหารกลางวัน” ไฮไลต์สำคัญที่ต้องกล่าวถึงเพราะรสชาติความอร่อย (มาก) ที่นี่ไม่มีเมนูอาหาร แต่จะมีเมนูยืนพื้นอย่าง ข้าวอบเนย สตูไก่ สลัดร็อคเก็ต พายมะนาว สโคน นอกเหนือจากนี้ ลุงแอนดี้จะพิจารณาจากวัตถุดิบแล้วสร้างสรรค์เป็นเมนูสุดอร่อย ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับอาหารฝรั่งตามความถนัด เช่น บิสกิตเนยน้ำผึ้ง ซุปผักไข่นกกระทา พิซซ่าแมกซิกัน โดยจะใช้วัตถุดิบปลอดภัยจากสวน ทั้งไข่จากเล้า ผักจากแปลง และข้าวพันธุ์หอมปทุมที่ปลูกเอง
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/03/ดวงตวัน-11.jpg)
แม่อุ้ยกล่าวว่า ทุกคนที่มาต้องทำเหมือนที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันต้องถือตะกร้าไปเก็บผักในแปลง จัดโต๊ะ จัดจาน ช่วยลุงแอนดี้ทำกับข้าว เมื่อกินเสร็จต้องนำเศษอาหารแยกทิ้งให้ถูกต้อง ล้างจาน และนำไปตากแดดให้เรียบร้อย หากมีเวลาเหลือสามารถผูกเปลนอน วิ่งเล่น หรือเปิดวงเล่านิทานกับเด็กๆ ก็สามารถใช้เวลาได้เต็มที่
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/03/ดวงตวัน-9.jpg)
ชีวิตในวัยเกษียณ
ปัจจุบันแม่อุ้ยยังทำงานอยู่ที่อนุบาลบ้านรัก ส่วนลุงแอนดี้กำลังใช้ชีวิตวัยเกษียณเต็มตัว เขาเพิ่งกลับมาจากอเมริกาเพื่อมาใช้ชีวิตหลังอายุ 60 ที่เมืองไทย ตั้งใจมาปรับปรุงบ้านสวน ให้เป็นบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในทุกวัน และพัฒนาพื้นที่เกษตรอย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่พร้อมรับกลุ่มครอบครัว กลุ่มโรงเรียน และกลุ่มคนที่สนใจได้บ่อยขึ้น
ลุงแอนดี้ย้ำว่า บ้านหลังนี้เน้นความเรียบง่าย ความสุข ความพอดี อาจสร้างพลังและแรงบันดาลใจ ให้เรากลับไปสร้างบ้านนอกของตัวเอง อาจจะเป็นแค่พื้นที่เล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความสุขความสบายใจก็ได้