About
RESOUND

Star Hunter

สรรวิช หวานสนิท กับชีวิตหลังเลนส์ที่มีดวงดาวนำทาง

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • มาเปิดหมวกอีกใบของ สรรวิช หวานสนิท หรือ ด๋อย มือเบสวง Musketeers กับการเป็น ช่างภาพดาราศาสตร์ ฝีมือดี ที่สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายดาวและทางช้างเผือก ในมุมมองที่แปลกใหม่และแตกต่างตลอดเวลา
  • หาคำตอบไปพร้อมกันว่า เสน่ห์และความท้าทายของการถ่ายภาพดาวและทางช้างเผือก อยู่ตรงไหน พร้อมชี้จุดปักหมุดถ่ายดาว ทางช้างเผือกในประเทศไทยที่สวยจับใจ
  • ด้วยผลงานภาพถ่ายของ ช่างภาพดาราศาสตร์นี่เอง ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่ได้เสพงานของเขา ออกเดินทางท่องเที่ยวไทย เพื่อดื่มด่ำกับการถ่ายภาพยามราตรีกันมากขึ้น

สำหรับสาวกวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกของไทย เมื่อเอ่ยชื่อวง Musketeers หลายคนอาจฮัมเพลงฮิตติดหูของวงนี้ได้ทันที ซึ่งสมาชิกของวงนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 คน หนึ่งในนั้น คือ สรรวิช หวานสนิท หรือ ‘ด๋อย’ ที่นอกจากเขาจะเป็นมือเบสประจำ วง Musketeers แล้ว ในวงการช่างภาพ ชื่อของ ด๋อย ยังได้รับการยอมรับในฐานะ ‘ช่างภาพดาราศาสตร์’ ซึ่งมีผลงานภาพถ่ายดวงดาวและทางช้างเผือก ที่ทั้งสวยงามและมีมุมมองเฉพาะตัวคนหนึ่งในประเทศไทยด้วย

สรรวิช หวานสนิทหลงใหลในโลกแห่งดวงดาว

การได้มารู้จักกับการถ่ายภาพดาวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดูจะไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ ด๋อย หลงใหลการถ่ายภาพดาว เพราะเขามีความสนใจในโลกแห่งดวงดาวตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว

“ตอนเรียนมัธยม ผมชอบและสนใจเรื่องของดาราศาสตร์ ชอบมองไปบนฟ้า แล้วก็อยากรู้ว่านี่กลุ่มดาวอะไร และเพื่อหาคำตอบ ผมก็จะไปดูสารคดีที่เกี่ยวกับห้วงลึกในอวกาศ ตั้งแต่เอกภพ จักรวาล ดูเป็นประจำ ดูทีไรก็รู้สึกดี เหมือนสารคดีนั้นพาเราออกไปนอกโลก ไปท่องอวกาศ ได้เห็นวัตถุในอวกาศ ดูไปก็ตั้งคำถามไปว่า นอกโลกนั้นยังมีสิ่งมีชีวิต มีมนุษย์เหมือนเราอยู่ไหม”

“พอโตขึ้นมา ก็มีความความฝันว่าถ้าเราทำงาน หาเงินได้เองแล้ว อยากซื้อกล้องโทรทรรศน์มาไว้ดูดาว ซึ่งในความเป็นจริง เราต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ มาอยู่ในเมืองเป็นนักดนตรี เล่นคอนเสิร์ต ก็มักจะเจอแต่แสงสี ไม่ค่อยได้อยู่ในที่ที่สงบ มืดๆ เพื่อมีความสุขกับการดูดาวเท่าไหร่”สรรวิช หวานสนิทความฝันของด๋อย จึงถูกกดปุ่ม Pause ไว้ก่อน จนกระทั่งเขาได้มาอยู่บนเส้นทางของการเป็นนักดนตรี ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสทัวร์คอนเสิร์ตไปตามจังหวัดต่างๆ บวกกับต่อมายังได้เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งสองเหตุการณ์ในชีวิตนี้เอง ที่ทำให้ด๋อยได้เดินทางไปยังสถานที่สวยงามมากมาย จนเริ่มคิดว่าการมีกล้องถ่ายรูปสักตัวเพื่อเก็บภาพความทรงจำดีๆ ระหว่างเดินทางน่าจะเป็นไอเดียที่ไม่เลว และหลังจากมีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเองได้ไม่นาน จุดเริ่มต้นของการเดินบนเส้นทางช่างภาพดาราศาสตร์ก็เกิดขึ้น

ครั้งแรกของเขากับ ‘ดาว’

“กล้องตัวแรกของผม เป็นกล้อง Sony รุ่น APSC ตัวเล็ก ราคาประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ตอนนั้นพอมีกล้องแล้วก็พกกล้องไปถ่ายรูปตามสถานที่ที่เราเล่นคอนเสิร์ต จนเมื่อ 3 ปีก่อน เริ่มได้รู้จักการถ่ายดาว ก็เริ่มคิดทริปและออกเดินทางไปถ่ายดาวมากขึ้น”

“จนวันหนึ่งแฟนผมได้เอารูปทางช้างเผือกของช่างภาพคนหนึ่งที่เขาอยู่ จ.นครพนม มาให้ดู เขาถ่ายรูปทางช้างเผือกแทบทุกวัน ด้วยความอยากรู้วิธีการถ่ายรูปทางช้างเผือกเพิ่มเติมเราเลยทักไปหาพี่ช่างภาพคนนั้น เขาคือ พี่โจ้-ชัชชัย จั่นธนากรสกุล พี่โจ้ได้ให้คำแนะนำทั้งวิธีการถ่ายภาพและแนะนำช่างภาพที่อยู่ในวงการถ่ายรูปดาว ทางช้างเผือก ให้ผมรู้จัก จากนั้นผมก็เริ่มได้พูดคุยกับพี่ๆ ช่างภาพในวงการนี้หลายคน และเริ่มออกไปถ่ายภาพดาว ภาพทางช้างเผือกอย่างจริงจัง”

ใดๆ ก็ไม่สำคัญเท่า ‘ที่ไหน’

ความยากของการถ่ายดาว มันไม่ได้ยากที่การถ่าย แต่มันยากที่การไปมากกว่า” คำกล่าวนี้จำกัดความได้ดี ถึงปฐมบทที่ด๋อยอยากฝากไปถึงคนที่อยากมาเดินบนเส้นทางช่างภาพดาราศาสตร์เหมือนเขา

“การเลือกโลเคชันถ่ายดาวส่วนใหญ่ ผมจะเลือกจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แต่สถานที่นั้นยังไม่ค่อยมีคนไปถ่ายดาว เราไม่เคยเห็นภาพตอนกลางคืนของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เมื่อได้โลเคชันแล้ว ก็จะใช้แอปพลิเคชันเช็คพยากรณ์อากาศให้เรียบร้อยว่าในคืนนั้น ทางช้างเผือก ขึ้นเวลาไหน และจะอยู่บนท้องฟ้านานไหม ซึ่งบางวันก็ถ่ายได้นาน บางวันก็เห็นแค่แป๊บเดียว”

“ต่อไปผมต้องดูปฏิทินของพระจันทร์ด้วย เพราะแสงของพระจันทร์มีผลมากต่อการถ่ายดาวและทางช้างเผือก ถ้าพระจันทร์ขึ้นปุ๊บ ก็จะบังแสงดวงดาวทันที แต่ในบางครั้งการถ่ายภาพดาว ทางช้างเผือก ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคืนเดือนมืดเสมอไป วันที่พระจันทร์ครึ่งดวง ซึ่งมีแสงสว่างก็จริง แต่วันนั้นพระจันทร์กับทางช้างเผือกอาจจะขึ้นกันคนละเวลาได้ จึงถ่ายภาพได้ เพราะพระจันทร์อยู่คนละทิศกับทางช้างเผือก”

เมื่อวางแผนทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังสถานที่นั้น ด๋อยเล่าว่า “ที่ผ่านมา ก็มีสถานที่ที่พอเราไปถึงแล้วมันไม่เหมือนอย่างที่เราคิดหรือคาดหวังไว้ก็มี อย่างทิศของทางช้างเผือกก็ไม่เหมือนกับที่เราคำนวณไว้ แต่สำหรับผม ถึงแม้จะไม่เหมือนที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ผมว่ามันสวยทั้งหมด เพราะบรรยากาศเวลากลางคืน สวยและสงบเงียบมาก”

“หลายคนอาจคิดว่า การจะถ่ายภาพทางช้างเผือก ต้องใช้ความอดทนรอจนทางช้างเผือกขึ้นมา ซึ่งก็เป็นความจริง แต่สำหรับผม ถ้าเราชอบ ก็ไม่มีความรู้สึกว่านั่นคือ การต้องรอ

“ตรงกันข้ามผมกลับรู้สึกสนุกกับมัน เพราะการได้ภาพถ่ายดาวและทางช้างเผือกสวยๆมาสัก 1 ชุด มันเหมือนกับผมกำลังต่อจิ๊กซอว์ เราต้องเก็บภาพมาต่อกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราว ถ้าทำได้ ผมถือนั่นคือ Mission complete แล้ว”

Top 3 + 1 สถานที่ถ่ายดาว Must visited!

เมื่อถามถึง Top 3 สถานที่ถ่ายดาวในไทย ที่ด๋อยประทับใจ

น้ำตกตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ

“ที่นี่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย แต่ในวงการช่างภาพดาราศาสตร์ ผมยังไม่ค่อยเห็นว่ามีคนถ่ายดาวกับน้ำตกสักเท่าไหร่ นี่จึงเป็นความท้าทาย ในการสร้างภาพถ่ายในมุมมองที่แปลกใหม่ ซึ่งผลงานที่ได้เป็นเฟรมภาพแบบพาโนรามา เมื่อเผยแพร่ภาพชุดนี้ออกไปก็มีคนที่ชื่นชอบการถ่ายดาว สนใจและตามไปเก็บบรรยากาศความสวยงามของที่นี่ ตอนนี้ น้ำตกตาดโตน เลยกลายเป็นมุมมหาชนของสถานที่ถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือกไปแล้ว”

เขาสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เขาสามร้อยยอด“ถ้าใครติดตามผมใน Facebook จะทราบเลยว่า ผมจะลงรูปที่สามร้อยยอดเยอะมาก เพราะภูเขาหินปูนที่นี่มีรูปทรงที่สวยงามเหมือนภูเขาหินปูนในต่างประเทศ และในตอนกลางคืน ก็มีแสงไฟรบกวนน้อยมาก ส่วนในบริบทขององค์ประกอบภาพ ที่สามร้อยยอดมีฉากหน้า ซึ่งเป็นวัตถุหลากหลายให้เลือกถ่าย โดยเฉพาะดอกบัว มีให้เลือกถ่ายได้หลายจุดเลย”

วัดนิรนาม หรือ วัดทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

“วัดแห่งนี้ไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ในที่ดินเอกชน ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ ในวงการถ่ายภาพจะรู้จักกันในชื่อของ วัดนิรนาม หรือ วัดทุ่งใหญ่ ที่นี่จะมีองค์พระพุทธรูปเรียงกันเยอะมาก เกือบ 100 องค์ แต่ด้วยความที่วัดนี้ยังสร้างไม่เสร็จ จึงยังไม่ได้เปิดให้เข้า

เมื่อก่อนจะมีคนไปถ่ายดาวอยู่บ่อยๆ ซึ่งที่นี่เป็นที่แรกที่ผมถ่ายทางช้างเผือกได้ แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้จะไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้าแล้ว เลยขอนิยามที่นี่ว่าเป็น “สถานที่ในตำนานของช่างภาพถ่ายภาพกลางคืน” ก็แล้วกัน

“ขอแถมอีกหนึ่งคือ ที่ที่ผมเพิ่งไปมา และชอบมากเช่นกัน คือ เนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พื้นที่ที่นี่เป็นภูเขาหินปูนรูปหนาม จะไม่มีลานโล่งๆ ให้มากางเต็นท์รอทางช้างเผือก เวลาเดินทางเข้าไปยังจุดถ่ายดาว จะสมบุกสมบันหน่อย ต้องใส่ถุงมือ มิเช่นนั้นพอไต่เขา หินจะบาดได้ ตอนที่ผมกับเพื่อนเดินทางเข้าไป เจอฝนตกหนัก พวกเราต้องไปนอนรอกันในถ้ำเล็กๆ ทุลักทุเลมาก แต่พอได้ถ่ายรูป เห็นภาพถ่าย หายเหนื่อยเลย เพราะสวยมาก”

เสน่ห์ที่แตกต่างของดนตรีและดาราศาสตร์

“เวลาถ่ายดาว ผมจะตั้งโจทย์เพื่อ Challenge ตัวเองทุกครั้ง เพราะสิ่งที่ทำให้ภาพถ่ายดาวและทางช้างเผือกมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป คือ ฉากหน้า นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมเวลาออกถ่ายดาวและทางช้างเผือกจะคิดก่อนเลยว่าอยากถ่ายทางช้างเผือกกับอะไร ถ้าฉากหน้าหรือวัตถุไหนที่เคยถ่ายไปแล้ว ก็จะเช็คลิสต์ไป แต่ถ้าฉากหน้าไหนยังไม่ได้ถ่ายก็จะทำเป็น Wish list ไว้ว่าจะต้องเดินทางไปถ่ายให้ได้”สรรวิช หวานสนิท“อย่างตอนนี้ ความท้าทายต่อไปในการถ่ายดาว ทางช้างเผือก คือ การถ่ายภาพทางช้างเผือกกับแมลง เป็นการถ่ายแบบ Macro ทำให้แมลงตัวเล็กดูตัวใหญ่ และมีทางช้างเผือกเป็นฉากหลัง” นอกจากความท้าทายที่ทำให้ด๋อยออกเดินทาง เพื่อค้นหาสถานที่ถ่ายดาว ทางช้างเผือก แล้ว เขาได้เปรียบเทียบเสน่ห์ของการเป็น นักดนตรี กับ ช่างภาพดาราศาสตร์ ให้ฟังด้วยว่า

“ถ้าจะให้เปรียบเทียบการเล่นดนตรีกับการถ่ายภาพดาว ผมชอบเท่ากันนะ แต่ความแตกต่างกันที่เห็นได้ชัดของการเล่นดนตรีกับการถ่ายภาพดาว คือ การเล่นดนตรี ต้องอยู่ท่ามกลาง แสง สี เสียง ทุกเสียงมันทำให้เราเกิดความคิดปรุงแต่ง ไม่มีความสงบ และบ่อยครั้งความเครียดก็เกิดจากเสียงที่เราได้ยินนี้เอง

“ไม่เหมือนการที่เราได้ไปอยู่ในบรรยากาศที่มืด อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มองไปบนฟ้าเห็นดาวเป็นล้านดวง มันทำให้เราได้ปลดปล่อยความคิด มีสมาธิจดจ่อกับการถ่ายรูปเท่านั้น”

“ส่วนเรื่องที่เหมือนกันของการเล่นดนตรีและการถ่ายดาว คือ ทั้งสองอย่าง ผมตั้งใจทำ อยากให้คนมาดูผลงานของผมชื่นชอบ อย่างการเล่นดนตรี เมื่อวงดนตรีของเราแต่งเพลง ก็หวังให้เพลงนั้นจะฮิตติดหูคนฟัง ไม่ต่างกับ การถ่ายรูปดาว ผมก็หวังจะให้คนที่ได้เห็นภาพถ่ายของเรา ชื่นชอบ และจะดีมาก ถ้าภาพถ่ายนั้นทรงพลังถึงขนาดที่จะทำให้พวกเขามีแรงบันดาลใจที่จะออกเดินทางตามรอย เพื่อถ่ายดาว ทางช้างเผือกในสถานที่ที่เราไปบ้าง”

สรรวิช หวานสนิท“นอกจากนั้น ผมหวังด้วยว่า ถ้ามีคนมาเห็นและชื่นชอบภาพถ่ายดาวของตัวผมหรือช่างภาพดาราศาสตร์ท่านอื่นๆ จะทำให้เขาเปลี่ยนใจจากที่เดินทางท่องเที่ยวแค่ไปถ่ายภาพตอนกลางวันเพียงอย่างเดียว เป็นการตัดสินใจค้างคืน เพื่อออกถ่ายภาพตอนกลางคืน ถ้าเป็นแบบนี้ได้ ก็ย่อมทำให้คนพื้นที่หรือชุมชนนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการพักค้างแรมของนักท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชนนั้นก็จะดีขึ้น ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดที่เราต้องเจอกันในตอนนี้ได้”

อย่าให้ความมืดมาเป็นอุปสรรค ในการออกเดินทางตามแสงดวงดาว เพราะไม่แน่ว่า รู้ตัวอีกทีคุณอาจจะถอนตัวไม่ขึ้นจากชีวิตหลังเลนส์ที่มีดวงดาวและทางช้างเผือกเป็นเพื่อนข้างกายเหมือน ด๋อย วง Musketeers ก็เป็นได้

ขอบคุณภาพดาวสวยๆ จากคุณด๋อย-สรรวิช หวานสนิท

สำหรับใครที่สนใจชมภาพถ่ายดาวทางช้างเผือก และ Landscape สวยๆ ฝีมือคุณด๋อยหรืออยากเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการถ่ายภาพ คุณด๋อยเปิดสอนคอร์สออนไลน์ด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Doi Musketeers และ Instagram : doigallery

Tags: