- Ayatana Charoenkrung คือคาเฟ่เพื่อความสบายกายสบายใจ ภายในร้านตกแต่งสไตล์โฮมมี่ ให้บรรยากาศอบอุ่นตัดกับรถที่สัญจรไปมานอกร้าน เสริมความรู้สึกดีต่อใจด้วยโครงการบริจาคเงินให้กับองค์กรและบุคคลที่ต้องการโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินสักบาท
Ayatana Charoenkrung เกิดจากการขยายสาขาแรกที่ชลบุรีมาสู่ย่านเจริญกรุง โดยนำคอนเซปต์ ‘อายตนะ’ มาด้วย คำนี้ปรากฏในหลักพุทธศาสนา สื่อถึงการรับรู้ทั้ง 6 ของคนผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส ส่วนการรับรู้ที่ 6 ขึ้นกับอารมณ์ความรู้สึกหรือสัมผัสทางใจ
สเปซของร้านถูกออกแบบและตกแต่งอย่างดี บรรยากาศปลอดโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ สีโทนอุ่นสอดรับกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ เสริมกิมมิกด้วยพื้นกระเบื้องกับเซรามิกแฮนด์เมด แบ่งโซนหน้าห้องน้ำไว้สำหรับประติมากรรมชิ้นใหญ่รูปมือที่ปล่อยลูกโป่งหลุดลอยไป โดยรวมแล้วอายตนะเป็นคาเฟ่เรียบง่ายแต่แฝงแนวคิดที่ลึกซึ้งไม่เบา
ออฟ-พงศ์ภัทร์ อานามนารถ หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน คือคนที่จะมาเล่าที่มาที่ไปของคอนเซปต์ Ayatana Charoenkrung ให้เราฟัง รับรองว่าพอได้รู้แล้วจะอยากไปเห็นธรรมะโมเดิร์นที่แนบเนียนไปกับคาเฟ่ด้วยตาตัวเองเลย
Ayatana Sharing
ว่าไปแล้วจะแปลกใจ เบื้องหลังคาเฟ่นี้คือชาวคริสต์ ออฟนับถือศาสนาคริสต์ตั้งแต่เกิด ส่วนจุดเปลี่ยนที่ทำให้สนใจศาสนาพุทธอย่างจริงจังเกิดขึ้นราว 4 – 5 ปีที่แล้ว เมื่อออฟลองไปปฏิบัติธรรมกับกลุ่มเพื่อนที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี
“เราไม่เคยคิดอยากเลิกนับถือศาสนา มันเหมือนกับว่าเรานับถือหลายศาสนามากกว่า และมันเป็นพื้นฐานของกันและกัน ศาสนาคริสต์พูดถึงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ศาสนาพุทธพูดเรื่องการให้ เราเองก็คิดมานานแล้วว่าอยากทำอะไรสักอย่างที่ทำแล้วได้ให้ไปในตัว พอทำคาเฟ่เลยเกิด Ayatana Sharing”
โครงการ Ayatana Sharing คือโครงการบริจาคเงินที่ลูกค้าไม่เสียเงินสักบาท โดยลูกค้าจะได้รับ 1 เหรียญอายตนะต่อ 1 เมนู สำหรับหยอดลงในกล่องบริจาค ซึ่งมีทั้งหมด 6 กล่อง แต่ละกล่องมีสัญลักษณ์รูป ตา หู จมูก ลิ้น กาย และหัวใจ ตามคอนเซปต์การรับรู้ทั้ง 6 หลังจากรวบรวมเหรียญได้จำนวนหนึ่งทางร้านจะนำไปบริจาคให้กับคนหลายกลุ่ม เช่น ผู้บกพร่องทางการมองเห็น ผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นต้น
“เราอยากให้ลูกค้าได้เป็นผู้ให้ โมเมนต์ที่เขารับเหรียญแล้วไปยืนอยู่หน้ากล่องมันเป็นจังหวะนั้นแหละที่จะรู้สึกดี พนักงานเองก็เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำในแง่มุมใหม่ เครื่องดื่มทุกแก้วที่เขาชง สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นเงินที่ส่งต่อให้คนที่ต้องการ”
ออฟบอกว่า โครงการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดสาขาแรก พอเปิดสาขาสองเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็หยิบยกแนวคิดนี้มาด้วย ออฟเห็นข้อดีของการให้ที่ส่งผลครอบคลุมทั้งตัวเอง ลูกค้า และพนักงาน แล้วหากพูดถึงสาขาแรกที่เปิดมาหลายปี ก็ยังมีพนักงานเซ็ตแรกทำงานอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยนอกจากแนวคิดบริจาคเงินนี้ ออฟบอกว่าพวกเขาปรึกษาพูดคุยกันหลังบ้านอย่างเปิดอกอยู่เสมอ ทำให้พนักงานหลายคนอยู่กับร้านยาวๆ
Sense of Space
ตึกเก่าหลังนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เปลี่ยนผ่านมือเจ้าของมาหลายเจ้า กระทั่งล่าสุดเป็นของสำนักพิมพ์จีนซิงเสียนเยอะเป้าที่ยังเปิดกิจการอยู่บนชั้นสอง ส่วนชั้นล่างเปิดให้เช่า ออฟเคยขับรถผ่านอาคารนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ความโดดเด่นและลักษณะภายนอกที่สวยงามติดอยู่ในใจ จนถึงคราวที่ต้องหาทำเลสำหรับคาเฟ่สาขาสอง Ayatana เลยมาลงเอยที่เจริญกรุง
ในฐานะนักออกแบบภายใน ออฟรีโนเวตในสไตล์โฮมมี่ตามต้องการแต่สอดแทรกบัวประตูกับบัวหน้าต่างเพื่อให้เข้ากับกลิ่นอาย Neo-classic ซึ่งมีอยู่ก่อนแล้ว เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดเป็นงานสาน โต๊ะไม้ ผ้าบนเบาะนั่งก็เลือกใช้ลินิน เพื่อให้ได้สัมผัสใกล้เคียงธรรมชาติ
ความคราฟต์ยังไม่สิ้นสุดแค่ตรงนั้น เมื่อออฟใช้แก้วกับจานเซรามิกสำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มกับของหวาน กับปูพื้นด้วยกระเบื้องดินเผาทำมือ ซึ่งเป็นรูปหกเหลี่ยมที่แต่ละด้านไม่เท่ากันด้วยนี่สิ กลายเป็นหน้าที่ของช่างที่ต้องตัดเหลาตัดกระเบื้องทีละแผ่น แถมแต่ละแผ่นหนาไม่เท่ากันด้วย แต่ก็คุ้มค่าเมื่อผลลัพธ์ออกมาเป็นความคราฟต์ตั้งแต่การรู้สึกถึงความต่างระดับของกระเบื้องผ่านรองเท้า ไปจนถึงแก้วเซรามิกที่ใช้มือสัมผัส
ความไม่สมบูรณ์แบบก็เป็นเสน่ห์ที่คาดไม่ถึงอย่างหนึ่ง ยิ่งเวลาดำเนินไป คนรุ่นใหม่ๆ ยิ่งพบแต่ความทุกข์ แบกเอาไว้จนใจหนักอึ้ง แค่นั้นไม่พอยังคาดหวังและกดดันตัวเองให้วางแผนล่วงหน้าไปถึงอนาคตอันไกล นั่นเป็นที่มาของประติมากรรมสีขาวสะอาดตา พร้อมกับวลี ‘Let go and be free’ เพราะหลายครั้งถ้าปล่อยวางแล้วอยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า
Sweets in New Form
แวะคาเฟ่คราวนี้เจ้าของร้านขนเมนูมาให้ลองเต็มโต๊ะ ออฟเล่าว่าพี่สาวผู้เป็นหุ้นส่วนของร้านชอบทำขนมอยู่แล้ว เลยครีเอตขนมหวานต่อยอดจากขนมไทยให้แปลกใหม่ขึ้น ส่วนเครื่องดื่มก็ช่วยกันคิดทั้งหุ้นส่วนร้านและพนักงาน
เมนูไฮไลต์คือ Khao Lam Affogato (165 บาท) แก้วนี้อินสไปร์มาจากขนมชาวชลฯ นั่นคือข้าวหลามหนองมนกลายเป็นเมนูที่ใส่ข้าวเหนียวกับถั่วดำไว้ก้นถ้วย เติมชั้นที่สองด้วยไอศกรีมมะพร้าวหอม ตบท้ายด้วยเอสเพรสโซช็อตเสิร์ฟในถ้วยจิ๋ว ทั้ง 3 ส่วนผสมลงตัวกันอย่างดี มะพร้าวบวกกาแฟให้กลิ่นหอมกลมกล่อม พอเจาะไปถึงชั้นล่างสุดก็ได้สัมผัสเหนียวนุ่มเคี้ยวสนุก
Sense of Smooth (165 บาท) กาแฟแก้วนี้นุ่มสมชื่อ เสิร์ฟเป็นกาแฟปั่นละเอียดผสมผงซินนามอนหอมอ่อนๆ แล้วโรยผงซินนามอนทับอีกทีบนฟองนมด้านบน แก้วนี้นุ่มละมุนลิ้นที่สุด ดื่มง่ายมากๆ เราจับคู่กาแฟกับ Mango Sticky Rice Tart (195 บาท) ซึ่งเป็นทาร์ตข้าวเหนียวมะม่วง ท็อปปิ้งคือมะม่วงน้ำดอกไม้ ตัดลงไปจะเจอชั้นข้าวเหนียวอยู่ข้างล่าง
2 เมนูสุดท้ายทำจากมัทฉะ แอบกระซิบว่าหุ้นส่วนร้านล้วนเป็น Matcha Lover กันทั้งนั้น พวกเขาลงทุนออเดอร์มัทฉะจากญี่ปุ่นมาใช้เลยทีเดียว เราได้ชิม Matcha Asahi (190 บาท) มัทฉะเสิร์ฟเย็นที่ไม่ขมหรือฝาด ดื่มแล้วทิ้งรสหวานไว้ตอนท้าย ส่วนขนมที่กินคู่กันคือ Matcha Coco Tart (160 บาท) ตัวทาร์ตทำจากโกโก้เข้มข้น ชั้นบนสุดเป็นครีมมัทฉะตกแต่งด้วยถั่ว
แวะมานั่งเล่นกันอย่างสบายกายสบายใจได้ที่ Ayatana Charoenkrung เชิญดื่มด่ำบรรยากาศอบอุ่น แล้วเติมท้องด้วยเครื่องดื่มกับของหวานละมุนลิ้น ร้านตั้งอยู่ปากซอยเจริญกรุง 13 เดินจาก MRT สามยอด 5 นาทีก็ถึง (ร้านไม่มีที่จอดรถนะ)
Ayatana Charoenkrung
Open Hours: เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น.
Map: https://maps.app.goo.gl/ukt1q7MrjScbdNrTA
Tel: 096-272-4616
Instagram: ayatana.cafe