- ฉ่ำฉ่ำ (Chum Chum Grocery) เป็นหน้าร้านของ Chumchumwatch ที่เปิดขายออนไลน์มาก่อนหน้า ตั้งอยู่กลางซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ร้านขายของสะสมที่มีสไตล์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพราะผู้เป็นเจ้าของใช้ความชอบและความหลงใหลในการนำทาง ทำให้ร้านแห่งนี้เป็นเหมือนคอมมูนิตี้เล็กๆ ของเหล่าคนที่ชอบความน่ารักสดใสของตัวการ์ตูนและของวินเทจ
- พื้นที่ที่เปรียบเสมือนไทม์แมชชีน พาเราย้อนเวลากลับสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขในวัยเยาว์ ผ่านของเล่นและของสะสมหลากหลายชิ้นที่แอบซ่อนเรื่องราวความทรงจำไว้มากมาย พร้อมทั้งมีขนมและเครื่องดื่มให้เราได้เลือกสรร ส่วนใครสนใจโปสเตอร์หรือนาฬิกาวินเทจ ทางร้านก็จำหน่ายในราคาน่ารักๆ อีกด้วย
ฉ่ำฉ่ำ เป็นร้านที่ปรารถนาให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘ร้านขายของ’ มากกว่าการเป็นคาเฟ่
ร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองของตึก Unform กลางซอยปรีดีพนมยงค์ 31แม้สถานที่แห่งนี้จะนิยามตัวเองเป็นร้านขายของชำ แต่สไตล์ร้านมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ต่างจากภาพจำเก่าๆ ที่เราคุ้นตา มีคอนเซ็ปต์ คือ ตั้งใจให้พื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนไทม์แมชชีนพาทุกคนย้อนเวลากลับไปสู่ห้วงเวลาแห่งความสุขในวัยเด็ก
“เราต้องการทำร้านนี้ให้เป็นร้านขายของเก่า มีทั้งของที่เรารักของที่เราสะสม เลยตั้งว่า Grocery เพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นร้านขายของนะ เราอยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดคนที่มีความชอบคล้ายๆ กันมาอยู่ที่นี่” เอมเปิดประโยคสนทนา
• เลือกทำในสิ่งที่รัก
Chum มีความหมายว่า ‘เพื่อนซี้’ ทั้งยังพ้องเสียงกับคำไทยว่า ฉ่ำ หมายถึง สุกกำลังดี สื่อถึงช่วงเวลาที่เพื่อนรักพร้อมจะทำบางสิ่งบางอย่างด้วยกัน ทั้งสองบอกกับเราถึงจุดเริ่มต้นของสถานที่แห่งนี้ “เราชอบของที่มีชิ้นเดียว คือมันมีเสน่ห์จริง ๆ นะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาจะยังสวยคลาสสิกเหมือนเดิม” เอมบอกย้ำในความสนใจ
เช้าวันนี้เราหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มานั่งพูดคุยกับคู่หูเพื่อนซื้อย่าง เอม – เอมนิกา ยิ้มอำพัน และดรีม – ณัชชา ปุญญาภินันท์ สองสาวเจ้าของร้านชำที่มีชื่อว่า Chum Chum Grocery ขุมทรัพย์ของวินเทจ และแหล่งรวมเหล่ากองทัพการ์ตูนมากมายในความทรงจำ
ร้านนี้เกิดขึ้นได้เพราะเอมตัดสินใจออกจากงานประจำเพื่อมาทำในสิ่งที่เธอรัก เอมบอกกับเราว่า เธอไม่เชื่อเรื่องจับปลาสองมือ “เราไม่สามารถทำ 2 อย่างได้ในเวลาเดียวกัน เพราะมันจะไม่มีอะไรดีสักอย่างเราเป็นคนแบบนั้น ถ้าเลือกทำอะไรเราก็อยากให้เต็มที่” เอมเลยออกมาทำตรงนี้แบบเต็มตัว
“ถ้าเราไม่เลือกทำตรงนี้เราจะเสียสิ่งที่เรารักไป” ประโยคกลางวงสนทนาที่ยังคงก้องอยู่ในใจเรา
ความน่ารักสดใสที่เราเห็นภายในร้านเป็นของที่เอมสะสมมามากกว่าหลายสิบปี เธอย้อนเล่าด้วยแววตาเป็นประกายว่า “ตอนเด็กๆ เราจะมีฟิกเกอร์การ์ตูนเต็มเลย เพราะสมัยก่อนจะมีร้านที่เขาแบขายฟิกเกอร์กับพื้นอยู่หน้าโรงเรียน วันไหนเดินออกมาจากโรงเรียนเราต้องแวะซื้อสักตัวสองตัวตลอด มันเลยเริ่มสะสมมาตั้งแต่ตอนนั้น”
บวกกับภาพจำในวัยเด็กที่เธอคุ้นชิน การตื่นเช้ามานั่งประจำหน้าจอโทรทัศน์เพื่อเฝ้ารอการ์ตูนเรื่องโปรด เป็นช่วงเวลาที่คงนึกภาพตามได้ไม่ยาก เพราะใครหลายๆ คนน่าจะเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาเช่นกัน เรามักจะเรียกมันว่า ‘ช่วงเวลาแห่งความสุข’ และเมื่อความสุขก่อตัวเป็นความชอบ ความสนุก วันหนึ่งจึงประกอบเป็นความรักที่มาพร้อมความใส่ใจดูแล
สำหรับเอมแล้วมันเป็นมากกว่าสิ่งของ…เพราะในขณะเดียวกันของเล่นเหล่านี้ก็โอบอุ้มความทรงจำแสนสุขในวัยเด็กของเธอเอาไว้ อย่างที่นักสะสมหลายคนมักพูดเสมอว่า ‘ของเล่นทุกชิ้นมันมีอดีตและเรื่องราว มันจึงมีคุณค่า’
• หลากคาแรคเตอร์จึงหลากสีสัน
Chum Chum Grocery เป็นร้านที่ใช้คำว่าน่ารักได้เปลืองมากจริงๆ ทันทีที่เดินพ้นประตูเข้ามาภายในร้านเราจะถูกห้อมล้อมไปด้วยความสดใสจาก โปสเตอร์การ์ตูนเก่าที่หาดูได้ยาก ฟิกเกอร์ รวมถึงนาฬิกาและโมเดลมากมายที่เรียงรายอยู่ในตู้ใสขนาดใหญ่ให้เราได้เห็นความน่ารักแบบชัดเจน ใครเป็นสายสะสมนาฬิกาวินเทจต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน
ที่นี่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากสีเพื่อให้เข้ากับทุก Character ของกองทัพตัวการ์ตูนแสนน่ารักที่ตกแต่งอยู่ทั่วทุกมุมร้าน อย่างเช่น Mickey Mouse, Felix, Simpson, Dumbo, Pop Eye, และอื่นๆ มีมุมโซฟาให้เรานั่งหย่อนตัว มีมุมแกลลอรี่ขนาดย่อมให้ได้นั่งเปลี่ยนบรรยากาศ ทั้งยังมีเสียงเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงสุดคลาสสิกตรงโซน Lady and the Tramp เสริมให้เข้ากับบรรยากาศของร้านอีกด้วย
“เคยมีลูกค้าทักมาถามว่า ร้านเป็นสีประมาณไหนอยากเเต่งตัวมาให้ถูก เราบอกว่ามีทุกสีเลย (หัวเราะ) เราเป็นคนชอบสีชอบให้มันอยู่ด้วยกัน เวลามาทำงานที่ร้านเรารู้สึกมีความสุขมากเวลาได้มองเพราะมันสดใส เราเองก็ดีใจที่ลูกค้ารู้สึกเหมือนกัน” เธอยิ้ม
ส่วนเมนูของทางร้านมีทั้ง coffee และ non-coffee หรือใครอยากเติมความสดชื่น Chum Chum ก็มีคราฟต์โซดาให้ได้เลือกหลากหลายรสชาติด้วยกัน วันนี้เราลองสั่งเมนูขายดีอย่าง Ice Cocoa (85 บาท) หวานกำลังดี และเมนู Banana Yogurt Cake (95 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมวิปครีม ได้ความนุ่มละมุนเข้ากับเครื่องดื่มแบบสุดๆ แต่ถ้าใครอยากลองคราฟโซดา เราแนะนำเป็น Learn to forget Rose กับ Foxy Peach Orange ดื่มแล้วให้ความสดชื่น คลายร้อนจากแดดยามบ่ายได้เป็นอย่างดี
• จากความชอบ ความฝัน สู่ความจริง
ถ้าเราเลือกเดินบนเส้นทางของเราอย่างตั้งใจแล้ว วันหนึ่งความชอบจะนำเราไปสู่เป้าหมายที่มีความสุขซ่อนอยู่ เหมือนอย่างที่เอมไม่เคยละทิ้งความฝันและความชอบของเธอ
“เรารู้สึกว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จะโตขึ้นจะมีผมหงอกหรือจะแก่ขึ้นอีกกี่ปี สุดท้ายแล้วความรักที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันจะอยู่ไปจนวันที่หมดลมหายใจ เราเชื่อว่าต่อให้เราอายุ 80 ปีหรือเท่าไหร่ก็ตาม เราก็จะยังรักสิ่งที่เรารักอยู่อย่างนี้ตลอด”
รอยยิ้มและแววตาของเอมตั้งแต่เริ่มพูดคุยกันจนช่วงท้ายของการสนทนา ทำให้เราไม่สงสัยเลยว่าเธอรักของสะสมทุกชิ้นมากแค่ไหน มีความสุขในการได้บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าการ์ตูนมากเท่าไหร่ เพราะมันชัดเจนจนเราสัมผัสได้ แม้ของทุกชิ้นจะผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน แต่สภาพยังคงใหม่เอี่ยมอ่องเพียงแค่มองก็รู้ว่าผู้เป็นเจ้าของเก็บรักษามาเป็นอย่างดี เพื่อรอวันที่จะได้นำเขาเหล่านี้มาตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
“บางคนพอเขามาเห็นของในร้านเรา เขาก็จะเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กเขาก็มีตุ๊กตารุ่นนี้ด้วยเหมือนกันแต่หายไปแล้ว บางคนก็บอกว่าเสียดายน่าจะเก็บเอาไว้ แล้วเอามาตั้งโชว์แบบนี้บ้าง”
เธอเล่าด้วยความดีใจว่าอย่างน้อย ‘ฉ่ำฉ่ำ’ ก็ได้ทำให้ทุกคนกลับไปปัดฝุ่นของสะสมของตัวเอง เริ่มเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราอาจจะหลงลืมมันไป สุดท้ายเอมอยากให้ของเหล่านี้อยู่กับทุกคนไปนานๆ เป็นเรื่องเล่าในอีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้าได้ว่าเคยมีของเล่นชนิดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ คงตอบได้ว่าของเล่นและความชอบไม่เคยเป็นเรื่องไร้สาระ กลับเป็นความสุขใจที่เติมเต็มช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตให้น่าจดจำ ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศน่ารักๆ ที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ต้องหาเวลาแวะมาที่ ‘ฉ่ำฉ่ำ’ คอมมูนิตี้ดีๆ ที่เป็นมากกว่าร้านขายของชำ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ที่อยู่: ชั้น 2 ของอาคาร Unform ซอยปรีดีพนมยงค์ 31
เปิด-ปิด: 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
Instagram: chumchumgrocery
