About
DETOUR

อ้อมกอดโลกหนังสือ

นอนกลางอ้อมกอดโลกหนังสือ นี่คือนิพพานของหนอนที่แท้ทรู!

เรื่อง วีณา บารมี Date 28-09-2021 | View 3399

ห้องสมุดและร้านหนังสือเหล่านี้...ไม่ได้เป็นแค่คลังหนังสือดีๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถเช็กอินค้างคืนได้เลย!

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • พาไปชมห้องสมุดและร้านหนังสือ ที่หนอนหนังสือต้องปักหมุดไว้ในใจ ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ คือ สามารถค้างคืนได้ ปัจจุบันมีทั้งในประเทศเวลส์ โปรตุเกส สกอตแลนด์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
  • การอ่านหนังสือคือกิจกรรมผ่อนคลายอย่างหนึ่ง โรงแรมและที่พักขนาดเล็กหลายแห่งทั่วโลก จึงนิยมทำห้องสมุดไว้คอยบริการนักเดินทางที่หลงใหลการอ่านหนังสือ
  • ห้องสมุดและร้านหนังสือเหล่านี้ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ยังมีผู้คนจำนวนมากมายที่หลงรักการอ่านหนังสือเล่ม และเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหายไปจากโลกนี้

ในยุคที่อินเทอร์เน็ตทำให้โลกของเราเล็กลง การหาความรู้ใหม่ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายและไร้พรมแดน โดยเฉพาะการจะหาหนังสือดีๆ น่าอ่านสักเล่ม ก็ไม่ใช่เรื่องยากและสามารถอ่านผ่าน E-book ได้ทุกที่ ทุกเวลา และไม่ต้องแบกหนังสือเล่มหนากลับบ้านให้เมื่อยมือ

แต่สำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง การได้อ่านหนังสือเล่ม ที่จับต้องและสัมผัสเนื้อกระดาษได้นั้น กลับเป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เทคโนโลยีไม่อาจทดแทนได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่า…ทำไมห้องสมุดและร้านหนังสือที่รวบรวมมานี้ กลายเป็นหมุดหมายในใจของเหล่าหนอนหนังสือทั่วโลก และพลัสความดีขึ้นไปอีก เมื่อที่เหล่านี้...เราสามารถเช็กอินเข้าไปนอนเล่นได้!

นอกจากเปิดให้หนอนนักเดินทางได้เช็กอินเข้าพักแล้ว บางแห่งคือห้องสมุดในตำนาน ที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี หลายแห่งมีคาเฟ่ในตัว บางที่เคยใช้เป็นฮับพบปะกันระหว่างนักอ่านและนักเขียน ส่วนบางที่เปิดให้ผู้เข้าพักได้ชิมลางการเป็นเจ้าของร้านหนังสือเอง

• ห้องสมุดแกลดสโตน (Gladstone) ตึกเก่าแก่อายุร้อยปีในประเทศเวลส์

นอกจากเป็นห้องสมุดแห่งประวัติศาสตร์ของชาวอังกฤษแล้ว Gladstone Library ยังเป็นที่รวบรวมหนังสือมากมายกว่า 150,000 เล่ม ตั้งแต่เล่มเก่าสมัยศตวรรษที่ 18-19 ทั้งแนววรรณกรรม ประวัติศาสตร์ และวิพากษ์การเมือง แถมด้วยหนังสือใหม่แนวร่วมสมัยให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้เวลาดื่มด่ำไปกับความงดงามของตัวอักษรอย่างเต็มอิ่ม

ย้อนไปในอดีต ห้องสมุดแกลดสโตน ก่อตั้งโดยอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ วิลเลียม แกลดสโตน ในช่วงศตวรรษที่ 18 มันเป็นห้องสมุดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค ปัจจุบันตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Welsh ของเมือง Hawarden ประเทศเวลส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ทั้งภายนอกและภายในของห้องสมุด ยังคงสถาปัตยกรรมที่คลาสสิค สง่างามไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับใครที่อยากซึมซับกับห้องสมุดแห่งประวัติศาสตร์ให้นานกว่าหนึ่งวัน ที่นี่ยังเปิดโรงแรมในห้องสมุดไว้คอยบริการเหล่าหนอนหนังสือให้นอนพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม ด้วยจำนวนห้องพัก 26 ห้องนอน ตกแต่งในบรรยากาศเหมือนถูกห้อมล้อมไปด้วยชั้นหนังสือ ส่วนสนนราคาต่อคืนอยู่ที่ 91 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉียดๆ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

Contact
ที่อยู่ : Church Lane, Hawarden, Flintshire CH5 3DF สหราชอาณาจักร
เวลาเปิดปิด : ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ 09.00-17.00 น. สำหรับผู้เข้าพักค้างคืนสามารถใช้บริการได้จนถึง 22.00 น.
เว็บไซต์ : www.gladstoneslibrary.org

• Shakespeare and Company Cafe ห้องสมุดในตำนานของประเทศฝรั่งเศส

เชื่อว่าน่าจะเป็นร้านหนังสือในใจที่ต้องปักไว้ในเช็คลิสต์ สำหรับ Shakespeare and Company ห้องสมุดเก่าแก่ของกรุงปารีส ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแซน ตรงข้ามกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกใช้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง Before Sunset และMidnight in Paris มาแล้ว

ห้องสมุดแห่งนี้ สร้างมาตั้งแต่ปี 1951 โดยชาวอเมริกันนามว่า George Whitman แต่จริงๆ เดิมทีชื่อเก่าคือ Le Mistral แต่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Shakespeare and Company เมื่อเดือนเมษายน 1964 เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อ Sylvia Beach เจ้าของร้านคนเก่า ซึ่งเป็นผู้มีอุปการคุณต่อวงการหนังสือ และยังเป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 400 ปีของ William Shakespeare อีกด้วย

แม้ว่า Shakespeare and Company จะเป็นห้องสมุดชื่อดังในฝรั่งเศส แต่หนังสือส่วนใหญ่ที่นี่เป็นภาษาอังกฤษ  ตั้งแต่งานวรรณกรรมดีๆ งานประพันธ์ นิยายแฟนตาซี รวมไปถึงหนังสือสำหรับเด็กๆ ซึ่งในอดีต ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่พบปะของนักเขียนและนักอ่าน

S 2

อย่างไรก็ตาม เมื่อ George Whitman เข้ามาบริหารห้องสมุด เขาส่งเสริมให้ผู้คนรักการอ่านหนังสือ โดยตั้งกฎไว้ว่า อนุญาตให้ใครก็ได้สามารถพักในร้านหนังสือแห่งนี้ได้ฟรี และสามารถอ่านหนังสือที่มีในร้านได้ทุกวัน แลกกับการช่วยทำงานในร้านหนังสือประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน จากกฎที่ว่านี้ ทำให้ Shakespeare and Company เป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าร้านหนังสือมากกว่า 30,000 คน ส่วนเตียงนอนจะซ่อนตัวอยู่ระหว่างชั้นหนังสือ

ในปี 2015 Shakespeare and Company ใช้พื้นที่มุมเล็กๆ ข้างห้องสมุด เปิดเป็นคาเฟ่สำหรับขายอาหารเช้า ซึ่งทุกๆ วันจะมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อรอเข้าร้าน ว่ากันว่า อาหารเช้าที่นี่รสชาติอร่อยและราคาถูกมาก

Contact
ที่อยู่ : 37 rue de la Bûcherie 75005 Paris, France
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. ส่วนคาเฟ่ เปิดวันจันทร์-ศุกร์ 09.30-19.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เปิด 09.00-20.00 น.
เว็บไซต์ : https://shakespeareandcompany.com/
เฟซบุ๊ค : www.facebook.com/shakespeareandcoparis
Instagram : www.instagram.com/shakespeareandcoparis

• Sylvia Beach Hotel โรงแรมที่มีหนังสือให้อ่านมากที่สุด

ในวงการวรรณกรรมช่วงศตวรรษที่ 20-30 ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของ Sylvia Beach เธอคนนี้เป็นหญิงชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งร้านหนังสือ Shakespeare and Company คนแรกในกรุงปารีส ซึ่งตอนนั้นใช้เป็นฮับสำหรับนักเขียนและนักประพันธ์ชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงที่อาศัยในปารีส เช่น Ernest Hemingway, Gertrude Stein, T.S.Eliot ฯลฯ ก่อนที่ร้านหนังสือจะถูกปิดอย่างถาวรหลังถูกนาซียึดครองเมื่อปี 1941

Sylvia Beach คือแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ทำให้ George Whitman เข้ามาสานต่อร้านหนังสือ Shakespeare and Company เมื่อปี 1951 นอกเหนือจากนี้ชื่อของ Sylvia Beach ยังถูกนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อของ Sylvia Beach Hotel โรงแรมชื่อดังที่ตั้งอยู่ริมชายหาดของเมืองนิวพอร์ต รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีหนังสือมากที่สุดเลยก็ว่าได้

Sylvia Beach Hotel สร้างขึ้นในปี 1910-1913 ชื่อเดิมคือ The New Cliff House ภายหลังเปลี่ยนเป็น Hotel Gilmore และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Sylvia Beach Hotel โดย Sally Ford และ Goody Cable ผู้เป็นเจ้าของโรงแรม เพื่อเป็นการให้เกียรติกับ Sylvia Beach ปัจจุบันที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ของรัฐโอเรกอนที่คนรักหนังสือต้องมา แต่ละห้องพักถูกออกแบบในธีมของนักเขียนแต่ละคน เช่น Emily Dickson และ Shakespeare ไปจนถึง Ken Kesey และ Amy Tan รวมไปถึงนักเขียนแนวร่วมสมัยในช่วงศตวรรษที่ 20 อีกหลายคน

ไฮไลท์คือห้องสมุดที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศของกองทัพหนังสือที่มีให้เลือกอ่านละลานตา พร้อมด้วยอาร์มแชร์และโซฟาที่จัดวางเสมือนเป็นห้องนั่งเล่นมากกว่าห้องสมุด ที่สำคัญ โรงแรม Sylvia Beach ให้ความสำคัญกับห้องสมุดและการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก

ภายในห้องสมุดงดใช้โทรศัพท์ และเป็นโรงแรมที่ไม่มีสัญญาณ wifi แม้แต่ทีวีหรือโทรศัพท์ในห้องพักก็ไม่มีบริการ เรียกว่าส่งเสริมให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายไปกับการอ่านหนังสือแบบเงียบๆ และพักผ่อนแบบเต็มอิ่ม

Contact
ที่อยู่ : 267 NW Cliff St, นิวพอร์ท รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา
เว็บไซต์ : http://sylviabeachhotel.com/library/
เฟซบุ๊ค : www.facebook.com/SylviaBeachHotel

• Tsutaya Book Apartment อพาร์ทเมนต์ที่มีหนังสือเป็นเจ้าบ้าน

Tsutaya Book Apartment เป็นร้านหนังสือสำหรับใครก็ตามที่อยากหามุมเงียบสงบหลบเลี่ยงความโกลาหลจอแจในย่านชินจุกุ แถมความพิเศษตรงที่ จะอยู่นานกี่ชั่วโมงก็ยังได้เพราะที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง บรรยากาศภายในร้านให้อารมณ์เหมือนเป็นอพาร์ทเม้นต์ขนาดย่อมที่มีหนังสือเป็นเจ้าบ้าน และมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยทุกชั้นจะมีหนังสือจัดวางไว้เป็นองค์ประกอบหลักทั่วทุกมุม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็สามารถหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาที่จัดวางอยู่ใกล้ๆ ได้สุดแสนสบาย

Tsutaya Book Apartment เริ่มต้นบนชั้น 4 โดยชั้นนี้ถูกออกแบบให้เป็น Co-Working Space และมีมุมนั่งทำงานที่หันหน้าออกไปเจอวิวเมืองชินจุกุ ถัดไปบนชั้น 5 เป็นโซน Common Space มีเบาะนั่งนุ่มๆ ให้อารมณ์เหมือนมาแคมปิ้ง ส่วนชั้น 6 จำกัดให้เฉพาะสาวๆ เท่านั้น มีโซนแต่งตัวที่ให้ความไพรเวทและเน้นความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับใครที่ปักหมุดจะไปชินจุกุเร็วๆ นี้ และอยากแวะไปที่ Tsutaya Book Apartment ขอแนะนำให้ระบุเวลาในการเข้าใช้บริการที่แน่นอน จากนั้นขึ้นไปชำระค่าบริการบนชั้น 4 และรับคีย์การ์ดใช้งาน ส่วนเรทราคาอยู่ที่ ชั่วโมงละ 500 เยนต่อคน / สำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ชั่วโมงละ 700 เยนต่อคน  หากซื้อเป็นแพคเกจมี 2 แบบ คือ 6 ชั่วโมง ราคา 2,800 เยนต่อคน (รวมบริการห้องอาบน้ำ) และแบบ 12 ชั่วโมง ราคา 5,500 เยนต่อคน (รวมบริการห้องอาบน้ำ)

*ในส่วนของบริการที่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ได้แก่ ห้องอาบน้ำ, ห้องแต่งตัว, มุมทำงาน Co-Working Space, การใช้บริการชั้น 6 และช่องเก็บสัมภาระ เป็นต้น

U 2

U 3

Contact
ที่อยู่ : 3-26-14 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0022 (ใช้เวลาเพียง 1 นาที จากทางออก ด้านตะวันออก) หรือทางออกหมายเลข A5 ของสถานีรถไฟชินจุกุ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เวลาเปิดปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์ : https://ikidane.jp/lp/tsutaya/index.html

• The Literary Man Obidos Hotel ห้องสมุดในโรงแรมแห่งตำนาน

ใกล้ๆ กับปราสาทเก่าแก่อายุ 700 ปี ในเมืองออบีดุช (Óbidos) ประเทศโปรตุเกส เป็นที่ตั้งของโรงแรม The Literary Man ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากการตกแต่งที่หรูหราสวยงามแล้ว ยังเป็นโรงแรมที่มีคลังหนังสือรวมกันมากกว่า 70,000 เล่ม วางเรียงรายอยู่บนชั้นรอบๆ โรงแรม และดูเหมือนจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเหล่าหนอนหนังสือจากทั่วโลกให้มารวมกันที่นี่

เดิมที The Literary Man เคยเป็นคอนแวนต์มาก่อน ภายหลังปรับให้เป็นโรงแรมเมื่อเดือนตุลาคม 2015 ภายในมีห้องพักจำนวน 30 ห้องนอน รวมห้องสวีท 7 ห้อง บางห้องมีเพดานและพื้นไม้แบบดั้งเดิมและเตียงเหล็ก ขณะที่ห้องอื่นๆ ได้รับการตกแต่งใหม่ในสไตล์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทันสมัย

หนังสือหลายเล่มเป็นผลงานจากนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งนวนิยาย ประวัติศาสตร์การเดินทาง ตำราอาหาร รวมไปถึงหนังสือเก่าอีกจำนวนหนึ่ง โดยหนังสือส่วนใหญ่จัดทำเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ ประปราย เช่น ภาษาฝรั่งเศส โปรตุเกส และเยอรมัน อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าพักสามารถบริจาคหนังสือให้กับโรงแรมได้เช่นเดียวกัน

ใครมาที่นี่ พลาดไม่ได้กับบาร์ Literary Gin Bar ให้บริการค็อกเทลและเมนูเครื่องดื่มที่ถูกตั้งชื่อตามนักเขียนและผลงานที่มีชื่อเสียง อาทิ F.Scott Fitzgerald และ Moby Dick

Contact
ที่อยู่ : Rua D` João d`Ornelas, 2510-074 Óbidos, โปรตุเกส
เว็บไซต์ : http://www.theliteraryman.pt/en/
Instagram : www.instagram.com/theliteraryman_obidoshotel/

I 2

• The Open Book ร้านหนังสือที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้

เมืองวิกทาวน์ ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหนังสือแห่งชาติของสก็อตแลนด์” ในทุกๆ ปีเมืองเล็กๆ แห่งนี้ จะมีการจัดเทศกาลหนังสือประจำปีขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนรักหนังสือจากทั่วทุกมุมโลกจะพากันหลั่งไหลมาร่วมเทศกาลดังกล่าว จนทำให้เมืองที่แสนสงบ ดูครึกครื้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง

แต่ที่ทำให้เมืองวิกทาวน์ กลายเป็นหมุดหมายของนักอ่านจากทั่วโลกตลอดทั้งปีนั้น คงต้องยกเครดิตให้กับร้านหนังสือของ เจสสิก้า ฟอกซ์ ที่มีชื่อว่า The Open Book ด้วยไอเดียสุดครีเอทีฟของเธอ ที่เปิดร้านหนังสือแนวใหม่ โดยให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในห้องเช่า Airbnb สามารถทำงานเป็นเจ้าของร้านหนังสือไปด้วยได้

เจสสิก้า ฟอกซ์ เปิดห้องเช่าไว้เพียงห้องเดียวบนชั้น 2 ส่วนชั้นล่างเธอทำเป็นร้านหนังสือ เมื่อลูกค้าทำการเช็คอินแล้ว เจสสิก้า จะให้กุญแจร้านเอาไว้ โดยผู้เข้าพักต้องทำหน้าที่เปิดปิดร้านตามเวลาที่ต้องการ จัดเรียงหนังสือ ต้อนรับลูกค้า คิดเงิน และสามารถตั้งราคาหนังสือที่ได้รับบริจาคได้ตามความเหมาะสม โดยเจสสิก้าให้สิทธิ์ในการบริหารร้านได้เต็มที่ในช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าพัก ด้วยเงื่อนไขการเข้าพักอย่างน้อย 6 วัน และนานสุด 14 วัน

O 2

เรียกว่าเป็นร้านที่สานฝันสำหรับนักอ่านและอยากมีกิจการร้านหนังสือเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ ยังถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดและได้ผลดีเกินคาด เพราะปัจจุบัน มีคนต่อคิวจองเข้าพักที่นี่ยาวถึง 3 ปี แถมชื่อของ The Open Book ยังติดอันดับที่พัก ที่เป็นที่ต้องการอันดับต้นๆ ของ Airbnb อีกด้วย สำหรับค่าที่พักราคาต่อคืนนั้น อยู่ที่ประมาณ 78 เหรียญสหรัฐหรือ 2,340 บาทเท่านั้นเอง ไม่แพงเกินฝันจริงๆ นะ!

Contact
ที่อยู่ : 2 High Street เมืองวิกทาวน์ ประเทศสก๊อตแลนด์
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/TheOpenBookWigtown

• La Librairie ยกห้องสมุดมาไว้ในห้องสวีท

La Librairie หรือที่แปลว่าห้องสมุดในภาษาฝรั่งเศสนั้น เป็นห้องสวีทในบูทีคโฮเทลของประเทศฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า Paris Boutik La Librairie โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Marais ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองเก่าแห่งปารีส” เป็นย่านที่เต็มไปด้วยแมนชั่นอันหรูหรา ตึกสูงสวยงาม และคฤหาสน์ของเศรษฐีชาวฝรั่งเศส รวมไปถึงเป็นที่พักของเหล่านักเขียนและศิลปินชื่อดังชาวฝรั่งเศสหลายคน เช่น Honoré de Balzac, Victor Hugo และ Colette

แต่สิ่งที่เพิ่มความพิเศษให้กับย่าน Marais นั่นก็คือ La Librairie หรืออีกชื่อ “The Bookshop Paris Marais suite” เป็นห้องสวีทที่ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ร้านหนังสือสไตล์ปารีเซียงยุคศตวรรษที่ 16 โดยเป็นการผสมผสานเข้ากับความสะดวกสบายของวิถีชีวิตผู้คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

L 3

L 2

ภายในห้องขนาด 45 ตารางเมตรของ La Librairie ให้บรรยากาศราวกับยกห้องสมุดมาไว้ในห้องสวีท รอบผนังจัดเต็มไปด้วยหนังสือที่จัดเรียงไว้บนชั้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และถึงแม้ว่าห้องจะมีขนาดกะทัดรัดตามสไตล์บู ทีคโฮเทล แต่ก็นับว่ารวมฟังก์ชั่นทุกอย่างไว้อย่างพร้อมสรรพสมบูรณ์แบบ ทั้งมุมห้องครัว ห้องอาบน้ำพร้อมอ่างแช่และฝักบัว มีเตียงนอนนุ่มสบายที่สามารถเลือกได้ระหว่างเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่

ส่วนด้านบนห้องพักโชว์คานไม้เปลือยเปล่า อันเป็นเสน่ห์ของการตกแต่งห้องสมุดในยุคฝรั่งเศสโบราณ ผลงานออกแบบของ CKA Paris บริษัทสถาปัตยกรรมชื่อดังในปารีส นอกจากนี้ ยังเป็นที่กล่าวขานกันว่า La Librairie เป็นห้องสวีทที่เงียบมาก เพราะถูกติดตั้งฉนวนกันเสียงรบกวนไว้เป็นอย่างดี

Contact
ที่อยู่ : 12 rue Caffarelli 75003 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เว็บไซต์ : https://parisboutik.com/en/la-librairie-hotel-room-le-marais/

• Book and Bed หนังสือ เตียงนอน และชุดนอนดีไซน์ Limited Edition

นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นโฮสเทลสุดชิค ที่มีห้องสมุดเป็นคอนเซ็ปต์หลักแล้ว Book and Bed ยังเป็นโฮสเทลในญี่ปุ่น ที่เหล่านักเดินทางต่างแดนอยากไปเช็คอินเข้าพักมากที่สุด เพื่อจะได้รับชุดนอนดีไซน์เฉพาะที่มีกระเป๋าด้านหน้าขนาดใหญ่สำหรับใส่หนังสือได้ 1 เล่ม

B 2

Book and Bed เปิดให้บริการที่เมืองโตเกียวเมื่อปี 2017 ในคอนเซ็ปต์ ‘a bookstore where you can stay’ หรือ ‘ร้านหนังสือที่สามารถค้างคืนได้’ เป็นโฮสเทลที่เหมาะสำหรับนักเดินทางผู้ชื่นชอบการอ่านหนังสือหรือหากไม่ใช่หนอนหนังสือ ก็อาจจะตกหลุมรักการอ่านก็คราวนี้ล่ะ ด้วยบรรยากาศภายในที่รายล้อมไปด้วยชั้นหนังสืออยู่เต็มผนัง และการออกแบบให้มีเตียงนอนอยู่ใกล้กับชั้นหนังสือ จึงสามารถหยิบมาอ่านก่อนนอนได้ทุกเล่ม

B 3

ด้านโซนห้องสมุดสาธารณะ ถือเป็นโซนที่เหล่าหนอนหนังสือจะมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย บริเวณนี้จัดวางที่นั่ง และโซฟาเบดสำหรับนั่งเอนหลังอ่านหนังสือได้อย่างสะดวกสบายเชียวล่ะ อ้อ…เห็นโฮสเทลขนาดกะทัดรัดแบบนี้ แต่ที่นี่จุหนังสือไว้มากมายกว่า 4,000 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ Book and Bed ยังมีคาเฟ่ให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจาก Coffee Supreme อีกด้วย

B 4

สำหรับใครที่วางแผนจะไปญี่ปุ่นช่วงหลังโควิด-19 เราว่า Book and Bed ถือเป็นที่พักอีกแห่งที่น่าสนใจมากทีเดียว ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะมีสาขาในย่านชินจุกุ โตเกียวแล้ว ยังเปิดสาขาในโอซาก้า และสาขาล่าสุดคือเกียวโต สำหรับเรทราคาที่พักต่อคืน หากเป็นห้อง Single Room อยู่ที่ 5,000 เยนต่อคน หรือประมาณ 1,500 บาท, ห้อง Comfort Single Room ราคาคืนละ 5,500 เยนต่อคน หรือประมาณ 1,650 บาท, ห้อง Double Room ราคาคืนละ 11,000 เยนต่อคนหรือประมาณ 3,300 บาท และห้อง Superior Room ราคาคืนละ 15,000 เยนสำหรับ 1-2 คน หรือประมาณ 4,500 บาท

Contact
ที่อยู่ : 1-27-5 คาบูกิโจ, ชินจูกุ, โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เว็บไซต์ : https://bookandbedtokyo.com/en/
เฟซบุ๊ค : www.facebook.com/bookandbedtokyo
instagram : www.instagram.com/bookandbedtokyo


ที่มา
https://www.mentalfloss.com/article/649611/bookstores-libraries-to-stay-in
https://www.mapsofworld.com/answers/regions/country-public-libraries

Tags: