นอกจากหาดปะการังหรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า Memories Beach แหล่งโต้คลื่นยอดฮิตของเขาหลัก จ.พังงา และ The Board Factory โรงงานผลิตเซิร์ฟบอร์ดภายใต้แบรนด์ Sunova และ Suns ที่คุ้นเคยกันดีในกลุ่มนักโต้คลื่นแล้ว เราอยากชวนทุกคนไปรู้จักกับเซิร์ฟคอมมูนิตี้ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ ตั้งแต่ที่กิน ที่พัก เซิร์ฟช็อป ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ในท้องถิ่นและน้องใหม่จากเมืองอื่นแต่ย้ายมาปักหลักที่นี่ถาวร

The Place Khao-Lak
เมื่อเพื่อนใหม่ได้พบกัน

“The Place to meet new friends”
ไม่ใช่แค่วลีสวยๆ สร้างคอนเทนต์บนหน้าเพจ แต่มันคือความตั้งใจของชัช – ชัชวาล จันทโชติบุตร Leica Thailand Ambassador และแจน-ศิริโสภา จินดากวี ครูสอนภาษาอังกฤษที่ปรารถนาจะให้ The Place เป็นแบบนั้นจริงๆ หลังจากโลกบนเกลียวคลื่นได้ทำให้พวกเขามีความสุข พบกับมิตรภาพที่น่าประทับใจจากการมาโต้คลื่นที่เขาหลักจนตัดสินใจหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและกิจกรรมที่หลงรักเมื่อปีก่อน

ที่นี่ออกแบบมาให้เป็นทั้งห้องพักในราคาไม่ถึง 1 พันบนชั้น 3 ของตึกขนาด 2 คูหาสีขาวเด่นอยู่ริมถนนย่านเขาหลักเพื่อต้อนรับเหล่า surfer ที่มาพักแบบระยะสั้นและ Long Stay ส่วนชั้นล่างเป็นคาเฟ่ให้คนมานั่งชิล นั่งทำงานพบปะพูดคุยกันระหว่างรอคลื่นและมีเซิร์ฟช็อปที่รวบรวมสินค้าคุณภาพดี ดีไซน์เก๋ จากหลากหลายแบรนด์ ตั้งแต่เครื่องประดับ แว่น หมวก เสื้อผ้า อุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยยันชิ้นใหญ่อย่างเซิร์ฟบอร์ด

พูดง่ายๆ ว่า มาแต่ตัวก็พร้อมออกจากที่นี่ไปโต้คลื่นได้เลย แถมใครที่ไม่สะดวกหิ้วบอร์ดส่วนตัวไป-กลับ ยังมีล็อกเกอร์ให้เช่าเก็บบอร์ดอีกด้วย

แม้กระทั่ง ‘ต่อ’ ผู้คิดเมนูชาวพังงาและทำหน้าที่บาริสต้าในร้านเองก็ถูกเหวี่ยงมาเจอกันเพราะเซิร์ฟ หลังก่อนหน้านี้ห่างบ้านไปทำงานอยู่กระบี่ ในเวลาเพียงไม่ถึงปี The Place เลยกลายเป็นหนึ่งในคอมมูนิตี้เล็กๆ ของชาวเซิร์ฟ ที่มีทั้งผู้คนหน้าเก่าและใหม่แวะเวียนมาเยือนไม่ขาดสาย พร้อมกับมิตรภาพที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

Salt Surf Club
เซิร์ฟคลับเพื่อชุมชน

หลีกหนีจากความพลุกพล่าน ณ Memories Beach Bar ออกมาถัดจากโรงแรมอัปสรา บีชฟรอนต์ รีสอร์ท แอนด์ วิลลาไป เป็นที่ตั้งของร้าน Salt Surf Club คาเฟ่ เซิร์ฟช้อปที่มีกระดานโต้คลื่นสไตล์บูทีคจากบาหลีและอุปกรณ์จำหน่าย มีบอร์ดให้เช่า ในความดูแลของ Matt Blauer นักโต้คลื่นชาวอเมริกันผู้บุกเบิกการเล่นเซิร์ฟ ณ หาดปะการังเมื่อ 14 ปีที่แล้ว

แมตต์เล่าว่าเขาไม่ใช่คนแรกที่เริ่มเล่นเซิร์ฟที่นี่ แต่เป็นคนแรกที่เข้ามาทำเซิร์ฟหลังสึนามิจากการเห็นความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งโต้คลื่นเพื่อช่วยเศรษฐกิจและชุมชน โดยหวังจะสอนให้คนท้องถิ่นเล่นเป็นและต่อยอดไปสู่การเป็นโค้ชได้พร้อมเปิดร้านชื่อ “ปะการัง เซิร์ฟ ช็อป” ทว่าไม่ง่ายเลย เพราะตอนนั้นหลายโรงแรมยังกลัวทะเล ไม่อยากให้แขกมาทำอะไรที่เขารู้จัก ส่วนคนในพื้นที่เองก็ยังไม่ค่อยสนใจ ก่อนส่งไม้ต่อให้ ฉิ่ง-มนตรี ณ ตะกั่วทุ่ง ที่เปิดร้านเมมโมรี บีช บาร์อยู่แล้วเพราะต้องย้ายไปเชียงใหม่และทำงานเกี่ยวกับมนุษยชนแถบชายแดน

การกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในชื่อใหม่เมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ไม่ใช่แค่เพื่อธุรกิจส่วนตัว แต่ชายชาวอเมริกัน วัย 47 ปี หวังจะทำเพื่อสังคมต่อเนื่องด้วยการสร้างโอกาสให้กับเหล่า Salt Kids ซึ่งเป็นเยาวชนชาวมอร์แกนและเด็กด้อยโอกาสในชุมชนที่เขาสอนเล่นเซิร์ฟให้ฟรีและผลักดันเข้าแข่งขันรายการต่างๆ มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยความเอื้อเฟื้อของ ‘ปาล์ม’ พชร นริพทะพันธุ์ ที่ลงมาช่วยแม่ดูแลกิจการช่วงโควิดและเสนอให้ใช้พื้นที่ว่างบางส่วนของเดอะ แกรนด์ เซาท์ซี เขาหลัก บีช รีสอร์ต เพราะประทับใจกับสิ่งที่เขาทำเพื่อคนท้องถิ่น

“นอกจากจะมีที่เก็บบอร์ด ล้างบอร์ดสำหรับสอนเด็กแล้ว ไอเดียของผมคือจะเอาเด็ก ๆ Salt Kids มาทำหน้าที่สอนเซิร์ฟ มีอาชีพ ได้ฝึกงาน มีรายได้ มีทักษะเพื่อเข้าถึงโอกาสที่ดีในอนาคต” แมตช์ ซึ่งเซิร์ฟมาตั้งแต่อายุ 12 ปีเล่าถึงความตั้งใจ

เดิมทีที่นี่มีบริการสอนโต้คลื่นโดยน้องๆ เยาวชนนักเซิร์ฟที่มีดีกรีคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันเด็กเหล่านั้นไม่ได้ทำงานกับเขาอย่างที่หวังไว้ เพราะอยากมีอิสระในเส้นทางของตัวเอง จึงเหลือแค่คาเฟ่และเซิร์ฟช้อปที่บ่อยครั้งก็เป็น Co-Working space ของบรรดานักเซิร์ฟกับบรรยากาศสุดชิลติดทะเล โดยแมตต์มองว่าการเติบโตของกีฬาโต้คลื่นที่เขาหลักจะไปได้ยาว อาจจะลดลงบ้างเมื่อเทียบกับช่วงที่เป็นกระแสแต่จะไม่หายไปไหน เหมือนแคลิฟอร์เนียเมื่อ 60-70 ปีก่อนที่มีคนอเมริกันหลายย้ายไปอยู่เพราะอยากเล่นเซิร์ฟ

“แค่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ระบบ ระเบียบมารยาทในการเล่น ถึงตอนนั้นความสนุกจะเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย”

Groundswell Surf Shop
เซิร์ฟช็อปเสิร์ฟบอร์ดในสไตล์ตัวเอง

เมื่อพูดถึง Groundswell สำหรับนักโต้คลื่นคือสิ่งที่ทุกคนรอคอย เพราะมันคือคลื่นพลังงานจากกลางทะเลเป็นคลื่นขบวนเรียงกันมา 5-6 ที่แสดงว่าวันนั้นจะมีคลื่นดี เพราะฉะนั้นคงพอจะเดาได้ไม่ยากว่า Groundswell Surf Shop น่าจะเป็นร้านของนักเซิร์ฟตัวยง

แน่นอน…พวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทีม Better Surf Thailand โรงเรียนสอนโต้คลื่นแห่งเมมโมรี บีช ที่แตกไลน์ธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์จำเป็นเกี่ยวกับเซิร์ฟ อาทิ กระดานโต้คลื่นจากบาหลี แว็กซ์คุณภาพดี อันดับต้นๆ ของโลกจากอเมริกา เป็นต้น รวมทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแบรนด์ Beach Boy Commu ที่ออกแบบโดยคนไทยแต่ดังไกลถึงต่างแดน

ต๊ะ-ทวีโรจน์ เอี๋ยวพานิช หนึ่งในผู้ก่อตั้งบอกว่า หลังจากแบรนด์ Beach Boy Commu เริ่มดังไปถึงฮาวาย เกาหลี บาหลี ออสเตรเลีย และเสื้อผ้าที่ทำออกมาก็ขายดีขึ้นเรื่อยๆ เกิดความคิดหากมีเซิร์ฟช็อปด้วยน่าจะดี เพราะมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว บวกกับ 3 ปีที่แล้วเขาได้เข้าไปทำการตลาดให้กับกระดานโต้คลื่นแบรนด์ Suns Surfboards มีโอกาสได้พูดคุยกับ Bert Burger เจ้าของและผู้ออกแบบแบรนด์ Sunova และดูแล Suns ได้ลองเล่นและร่วมพัฒนาให้เป็นกระดานที่เล่นในไทยได้ดีตัวหนึ่ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการขายกระดานโต้คลื่น

เดิมที Groundswell Surf Shop เปิดขายแค่ช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่หลังจาก Monkey Dive Hostel อีกหนึ่งคอมมูนิตี้ของชาวเซิร์ฟปิดตัวลง จึงเป็นโอกาสดีในการปรับปรุงให้เป็นช้อป โชว์อุปกรณ์ต่างๆ อย่าง แว็กซ์ ฟิน สายรัดข้อเท้า และกระดานโต้คลื่นแบรนด์ต่างๆ โดยเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการหมาดๆ เดือนนี้เอง

นอกจากแบรนด์ Suns แล้ว ที่นี่ยังนำเข้าบอร์ดจากบาหลีอย่าง Suket Surfboards ซึ่งผลิตโดยคนท้องถิ่น และ Ross Concept กระดานโต้คลื่นงานคราฟต์โดย Ross Williams นักผลิตบอร์ดชื่อดังชาวบราซิลที่สืบทอดวิชาจาก Claudio Maran หนึ่งในนักผลิตกระดานโต้คลื่นระดับตำนาน และมาเปิดโรงเชปบอร์ดที่ชางกู บาหลี

“ปรัชญาของเราคือพยายามหากระดานโต้คลื่นที่เหมาะสำหรับความต้องการของแต่ละคน”

Surfer’s Village :
ที่พักของคนรักเซิร์ฟ

“เรามองว่าคอมมูนิตี้คือสิ่งสำคัญมากในการโต้คลื่น หลายคนอยากมาเจอนักเซิร์ฟ มาใช้ชีวิตหรือมาแชร์ความรู้กัน และสำหรับ Better Surf เราตั้งใจว่าจะไม่เป็นแค่โรงเรียนสอนแค่คนเริ่มเล่นเท่านั้น เราอยากฝึกฝนให้คนโต้คลื่นเป็นจริงๆ ได้มีโอกาสมาอยู่นานๆ”

นั่นเป็นที่มาของการเกิด Surfer’s Village ที่ต๊ะ บอกกับเรา โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานี่เอง

ที่พักรูปแบบบังกะโลขนาด 8 ห้อง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Ground Swell Surf Shop (Monkey Dive Hostel เดิม) ไม่ได้เป็นของ Better Surf แต่ทางโรงเรียนสอนโต้คลื่นชื่อดัง ได้เข้ามาช่วยพัฒนาและรีโนเวทให้กับผู้ประกอบการเดิม ซึ่งกำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เพราะไม่มีลูกค้าพร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกัน หลังซอยนี้รู้จักกันว่าเป็นหมู่บ้านเซิร์ฟเฟอร์ เพราะมีแต่นักโต้คลื่นเต็มไปหมด และมีกิมมิกน่ารักๆ ด้วยการตั้งชื่อห้องพักแต่ละห้องเป็นจุดโต้คลื่นของเขาหลัก เช่น เมมโมรีบีช นางทอง lighthouse เป็นต้น

ข้อดีของที่นี่นอกจากจะเหมาะกับ Long Stay ในราคาเบากระเป๋าแล้ว ยังเหมาะกับกลุ่มนักโต้คลื่นสาวๆที่มากันเองหรือฉายเดี่ยว เพราะทั้งครูและทีมงาน Better Surf ล้วนพักอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นโฮสเทลเดิมทั้งหมด สามารถอำนวยความสะดวกได้ตั้งแต่พาไปโต้คลื่นในตอนเช้าและกลับมาช่วงเย็นด้วยกัน

มากกว่านั้นคือมีกิจกรรม Movie Night หรือ Analysis เปิดวิดีโอการเล่นพร้อมฟังคำแนะนำจากครู มีปาร์ตี้หมูกระทะอยู่บ่อยๆ เป็นคอมมูนิตี้ใหม่ที่อบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านแต่เปลี่ยนจากบรรยากาศเดิมๆ กับเพื่อนใหม่

Linēns Oven
คาเฟ่ที่แฮปปี้กับการเห็นลูกค้าใส่บิกินีเข้าร้าน

Linēns Oven เกิดจากการที่กลุ่มคนกรุงเทพอย่าง ลินิน-พลอยไพลิน สำราณอมรินทร์, กบ-กรกช รุ่งวานิชการ, นนท์-สถานนท์ ปัญญาทวีคูณ และจูน-ศุภาพิชญ์ พิทยานุกูล ชอบมาฝังตัวอยู่เขาหลักเพื่อเล่นเซิร์ฟ แต่ละครั้งที่มาก็กินเวลานานและบ่อย จนแม่เริ่มบ่นว่า ‘ไม่ทำงานเหรอ’ ไอเดียอยากลองเปิดร้านคาเฟ่ที่ยังไม่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเลยถูกปัดฝุ่นมาใช้ที่นี่

“ทุกคนมาเวย์นี้อยู่แล้วคือชอบกินกาแฟ มันเริ่มจากความสนุกและอยากลองทำ ไม่ได้มองว่าจะต้องเป็นธุรกิจที่ทำให้เรารวย เราทำเพราะอยากทำ อยากมาเล่นเซิร์ฟ เอาความชอบของแต่ละคนนำทาง คิดกันเล่นๆ ว่าถ้าขาดทุนแค่ค่าเช่าที่ก็คุ้มกว่าค่าโรงแรมแล้ว” ลินิน เล่าถึงที่มาให้เราฟังพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มที่รับรู้ได้ถึงความสุข

แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากความสนุก อยากลอง แต่ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดและทำอย่างตั้งใจ อย่างชื่อร้านมาจากชื่อของลินิน รวมกับโอเวนที่หมายถึงเตาอบ ซึ่งใช้เป็นชื่อแบรนด์ทำเค้กก่อนหน้านี้และทุกคนเห็นว่าด้วยตัวสะกดและคำว่าโอเวนไม่ดูเป็นคาเฟ่จนเกินไป เพราะไม่ได้เน้นเฉพาะเครื่องดื่มกาแฟ แต่ยังมีมัทฉะเป็นอีกดาวเด่นที่ใช้ของดีเพื่อเสิร์ฟความอร่อยจริงๆ เช่น มัทฉะมะพร้าว เจ้าของร้านบอกว่าวันไหน มะพร้าวไม่อร่อยก็ไม่อยากขาย และต่อไปก็จะมีบรันช์ (Brunch) ขนมปังและไอศรีมที่เป็นของนักโต้คลื่นด้วยกัน

การตกแต่งร้านเน้นโทนสีเรียบง่ายตัดกับงานไม้ในแบบที่ทั้ง 4 คนชอบ สร้างความต่างด้วยการฉีกออกจากคอนเซปต์ทะเล ให้ความรู้สึกมินิมอลและโคซี ขณะที่เครื่องดื่มและขนมก็เน้นวัตถุดิบคุณภาพ สำคัญรสชาติไม่หวาน ขอบอกว่าเค้กทั้งหมดเจ้าของร้านทำเอง ส่วนครัวซองก็เป็นฝีมือคนใกล้ตัวการันตีความอร่อย

“เราอยากให้ Linēns Oven เป็นที่แฮงเอาต์สำหรับคนมาเล่นเซิร์ฟ เราชอบมากเวลาผู้ชายถอดเสื้อ ใส่รองเท้าแตะเดินเข้ามาหรือผู้หญิงใส่บิกินีเข้ามา อยากให้เป็นเวย์เล่นเซิร์ฟเสร็จมาได้ ตัวเปียกก็มาได้ เราโอเพ่นมากๆ แต่นักท่องเที่ยวแต่งตัวสวยๆ มาก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน เราอยากให้มองว่าเป็นที่แฮงก์เอาต์ระหว่างวัน รอคลื่น ก็มาที่นี่ได้”

Tony Loft :
สายเซิร์ฟต้องมา สายชิลก็ต้องไป!

กลางวัน Tony Loft แห่งนี้คือร้านอาหารและคาเฟ่ แต่กลางคืนที่นี่จะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นบาร์นั่งชิลเล็กๆ สไตล์คนไทยเอาใจคอเบียร์ ทั้งเบียร์สด เบียร์นอกและคราฟต์เบียร์ของไทย ซึ่งรวมถึง Khaolak Ale แบรนด์น้องใหม่จากพังงาที่ ต้น-วีรพจน์ ทองหวั่น เจ้าของร้านร่วมทำกับเพื่อน โดยมีข้าวไร่ดอกข่า พันธุ์ข้าวไร่พื้นเมืองของจังหวัดเป็นหนึ่งในวัตถุดิบ และตอนนี้หาดื่มได้แค่ที่เขาหลัก โทนี ลอฟท์เท่านั้น เคล้าด้วยเสียงเพลงจากดีเจและดนตรีสด ร้องเล่นโดยต้นเองบ้าง นักร้องอาชีพ ศิลปินคนดังแวะเวียนมาสร้างสีสันบ้าง

นอกจากร้านอาหาร คาเฟ่และบาร์แล้ว ที่นี่ยังมีโรงแรมอยู่ด้านหลังชื่อ Khaolak Tony Lodge เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวแบบประหยัด (Budget Travelers) ที่แรกๆ ของเขาหลัก แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากบรรดานักโต้คลื่นมือใหม่มาใช้บริการอยู่บ่อยๆ ก่อเกิดเป็นมิตรภาพ จากคนแปลกหน้าที่มาพักที่เดียวกันสู่คำว่าเพื่อนใหม่ และกลายเป็นทีม Tony Kook เข้าร่วมแข่งขันในรายการ Khaolak Surf Grom 2021โดยมีโทนี ลอฟท์ เป็นสปอนเซอร์

“Kook ในวงการเซิร์ฟหมายถึงพวกมือใหม่ ยังเล่นไม่เก่ง ลูกค้าที่มาพักส่วนใหญ่มาเล่นด้วยความชอบ ความสนุก หลายคนมารู้จักกันที่นี่ เลยนิยามตัวเองว่าแก๊ง Tony Kook และมีการชักชวนกันมาเรื่อยๆ” ต้น เล่าที่มาของการเป็นเซิร์ฟคอมมูนิตี้

Taonga Surf Club
Flow house แห่งแรกและแห่งเดียว

ถึงทะเลจะไม่มีคลื่น แต่ก็ยังเซิร์ฟได้ทั้งปี เพราะตอนนี้เขาหลักมี Flow house หรือเครื่องจำลองการโต้คลื่นแห่งแรกแล้วและเป็นแห่งเดียวที่อยู่ติดทะเลในประเทศไทยชื่อ Taonga Surf Club ตั้งอยู่บริเวณหน้าหาดภายในโรงแรม Khaolak Emerald Beach Resort & Spa

“อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้พังงากลายเป็นเซิร์ฟทาวน์ไปแล้ว มีกลุ่มนักโต้คลื่นเยอะมาก แต่จะมีช่วงไม่มีคลื่นอยู่ประมาณ 4 เดือน การมี Flow house จะทำให้เล่นได้ทั้งปี ไม่ก็เริ่มหัดเล่นเซิร์ฟได้จากที่นี่”

วัณณะสณฑ์ ลิ้มประสูติ Group General Manger White Sand Blue Sea Group เผยถึงจุดเริ่มต้น

ใครที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อนจะมีเทรนเนอร์มืออาชีพคอยให้คำแนะนำและสอนการเล่นอย่างปลอดภัยเป็นเบื้องต้น หรือหากใครต้องการคลาสพิเศษก็มีบริการ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลริมทะเล มีบาร์เครื่องดื่มหลากหลายเมนูตกแต่งด้วยกลิ่นอายของชนเผ่าบนเกาะฮาวาย จะมาเล่น มารอหรือมาเช็กอินชมพระอาทิตย์ตกดินก็ฟินได้ทั้งครอบครัว

โดยเฉพาะทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00-21.00 น. น้องๆ อายุ 6-12 ปีสูงเกิน 130 ซม. เซิร์ฟฟรีได้เลย ส่วนคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง ราคาพิเศษเพียง 600 บาท/ชม.เท่านั้น ส่วนวันเสาร์ เวลา 17.00-19.00 น. ใส่บิกินีมาเซิร์ฟฟรีพร้อมสนุกไปกับดีเจ ปาร์ตี้อีกด้วย

ขอบคุณภาพ : Tah Surfer’s Holiday / Salt Surf / Saifah.Society / Linēns Oven / Tony Loft / Taonga Surf Club / The Place Khaolak